รีวิวเฉพาะวันไปสัมภาษณ์ละกันนะครับ

ได้เวลา 7.00 ไปถึง 6.45 ต่อคิวตรวจเอกสารแปบเดียว
ด่านนี้จะเช็คใบ Appointment อย่างเดียว และแปะ Barcode ที่หลังเล่ม
แนะนำให้ถ่ายรูปไว้เลย เพราะพอเข้าแถว X Ray จะต้องปิดมือถือและฝากแล้ว

อะไรไม่ให้เอาเข้าดูได้จากใบ Appointment เลย จะได้ไม่ต้องหาที่ฝาก
อีกสิ่งที่เคยเอาเข้าไม่ได้คือ Smart Watch
แต่ครั้งนี้เห็นให้ปิดเครื่อง และผ่าน X-Ray ก็เข้าได้
(ส่วนตัวไม่ได้ใส่ไป เปลี่ยนเป็นนาฬิกาธรรมดา)

พอผ่าน X Ray เข้าไปเจอ จนท ไทยด่านแรก
ตรวจรูปถ่าย ถามว่าถ่ายมาตั้งแต่เมื่อไหร่
รูปใน DS160 กับรูปจริงที่เอาไปเป็นคนละรูป ไม่มีปัญหาอะไรครับ
ตรวจผ่านให้เดินตามเส้นแดงเข้าห้องสัมภาษณ์ได้เลย

ด่านต่อไป เป็น จนท ไทย สแกนนิ้ว
ยื่น Passport และสแกนนิ้วมือ ทั้ง 10 นิ้ว
มีถามข้อมูลประวัติวีซ่าเก่าเล็กน้อย

ด่านต่อไป ยืนยันลายนิ้วมือ กับ จนท อีกคนนึง
ยื่นพาสปอร์ต วางมือผ่าน ไปต่อได้เลย

ด่านสุดท้าย ต่อคิวรอสัมภาษณ์
วันนี้เปิด 3 ช่อง
ได้ช่องซ้ายสุด เป็นผู้ชาย คนอเมริกัน ผิวขาว ผมทอง
ช่องกลาง เป็นผู้ชาย ผิวขาว มีอายุหน่อย
ช่องขวา เป็นผู้หญิง ผิวสี
คิวรันเร็วอยู่ ใช้ไม่เกินคนละ 5 นาที
ผ่าน กับ ไม่ผ่าน ปะปนกันไป

คำถาม ถามเป็นภาษาอังกฤษ
1. ไปทำอะไร
2. ไปกี่วัน
3. เคยไปเรียน เรียนที่ไหน
4. ตอนนี้ทำงานอะไร
5. ไปกับใคร

ตอบตรงกับ DS160ทั้งหมด
จบ your VISA is approved ใช้เวลาประมาณ 2นาที

BACKGROUD
5ปีที่ผ่านมา เดินทางยุโรป และเอเชีย
เป็นเจ้าของกิจการ ไม่มีเงินเดือนแน่นอน
มีวีซ่า B1/B2 หมดอายุปี 2017 (10ปี ใช้เดินทางเข้า US 4รอบ)
มีวีซ่า F1 หมดอายุ 2020 (ไป Exchange สั้นๆครึ่งปีตั้งแต่ 2016)

เอกสารเตรียมไป
ใบ Appointment ใช้ตอนเข้าขั้นตอนเดียว
ใบ DS160 ใบชำระเงิน ไม่ขอดู
สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ไม่ขอดู
หนังสือรับรอง สแตนเม้นธนาคาร และ พาสปอร์ตเล่มเก่าทั้งหมด ไม่ขอดู
แพลนท่องเที่ยวคร่าวๆ ทำไปเผื่อ แต่จำได้หมด ไม่ขอดู

ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลา ประมาณ 1ชั่วโมง ตั้งแต่ต่อคิวหน้าสถานฑูต
เอาจริงๆส่วนตัวคิดว่าง่ายกว่า Schengen/ UK Visa เยอะเลย ในแง่ของการเตรียมเอกสาร
และระยะเวลา ให้ 10ปี ถือว่ายุ่งยากนิดหน่อยครั้งเดียวใช้นานๆ

Update**
Timeline
9/7 สัมภาษณ์ Status: Approved
11/7 ตอนเช้า Status: Issued
11/7 16:21 EMS รับเอกสารเข้าระบบ
12/7 10:11 EMS พนักงานส่งเล่มถึงบ้าน