แชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา B1/B2 (May 2023)

เกริ่นก่อนนะครับว่า จขกท. เป็นนักศึกษาปี 4 ได้รับเชิญให้ไปเข้าร่วมงาน Show Case ของบริษัท Tech. แห่งหนึ่งที่ California (เคยส่งผลงานเข้าแข่งขันและได้รับรางวัล จึงได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน)

หลังจากที่กรอก ds160 และนัดสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว จขกท. ได้เตรียมเอกสาร ดังนี้
1. Passport เล่มปัจจุบัน และเล่มเก่า
2. ใบที่ยืนยันว่าได้ submit ds160 แล้ว
3. ใบนัดสัมภาษณ์
4. หลักฐานการชำระเงินนัดสัมภาษณ์ (บิลจากธนาคาร)
5. Invitation Letter จากบริษัทที่อเมริกา
6. จดหมายแบบทางการจากคณะที่ระบุว่าจะ support ค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ ให้ และยืนยันว่านักศึกษาจะต้องเดินทางกลับ
7. Statement ของพ่อและของตนเอง
8. ใบรับรองสถานภาพการเป็นนิสิต
9. Transcript
10. หลักฐานอื่น ๆ เช่น อีเมลยืนยันจากบริษัทว่าได้รับการเข้าร่วมงาน, ผลงานที่ส่งแข่งขันและได้รับรางวัล, Certificate ที่ได้จากการแข่งขัน
11. รูปถ่ายพื้นหลังขาว

จขกท. ได้คิวสัมประมาณเก้าโมง แต่ไปถึงเจ็ดโมงครึ่ง 5555555555 นึกว่าจะมีความหวัง แต่สุดท้ายก็ไม่ เพราะ เขาตรงเวลามาก ๆ

อันดับแรกก็คือไปต่อคิวด้านหน้าสถานทูต วันที่ไปคือเดินเข้าไปได้เลย คิวสั้นมาก จนท. ก็จะนำ Passport ของเราไปติด tag แล้วก็ขอดูใบนัดสัมภาษณ์วีซ่า (เขาจะตรวจสอบว่าตรงกับรายชื่อในวันนั้น ๆ ไหม) เสร็จเรียบร้อยก็เตรียมเข้าไปด้านในสถานทูต

ก่อนจะเข้าไปจะมีพี่ยามมาบอกให้เราปิดโทรศัพท์ให้เรียบร้อย จากนั้นจึงเขาไปยังจุดตรวจสัมภาระ จุดนี้จะคล้าย ๆ กับตอนตรวจสัมภาระในสนามบิน คือ ทุกคนจะต้องวางสัมภาระทุกอย่างเข้าในถาดที่จะต้องผ่านเครื่อง Scan และเราก็จะเดินผ่านเครื่อง Scan พร้อมกับมี จนท. เอาอุปกรณ์มาตรวจรอบตัวด้วย อารมณ์เหมือนจะเข้าเกท 555 (จุดนี้ถ้าเรามีพวกเครื่องมือสื่อสารอยู่ จนท. จะขอบัตร ปชช. เพื่อใช้ในการรับฝากเครื่องมือสื่อสารให้กับเรา ไม่เสียค่าใช้จ่าย เราจะได้เหมือนกำไลเล็ก ๆ มาเพื่อใช้รับของที่ฝากไว้หลังสัมภาษณ์เสร็จสิ้น)

จากนั้นจะเข้าสู่โหมดนั่งรอ เนื่องด้วย จขกท. มาก่อนเวลานานมากเลยต้องรอนาน (ความจริงมาก่อน 15-30 นาทีก็เพียงพอแล้ว) บริเวณนี้ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม ใครที่ร้อนก็สามารถไปซื้อเครื่องดื่มจากร้านข้าง ๆ มาดื่มรอได้

จนท. จะเรียกให้เข้าไปโซนสัมภาษณ์ตามเวลา ถ้าเข้าใจไม่ผิดคือจะออกมาเรียกทุก ๆ 15 นาที เมื่อถูกเรียก จนท. จะให้แสดง Passport และรูปถ่าย โดยเขาจะถามว่าถ่ายมาเกิน 6 เดือนแล้วไหม ถ้าเกินจะต้องไปถ่ายใหม่ สำหรับของ จขกท. ไม่มีปัญหา เพราะ เพิ่งถ่ายมาเดือนที่แล้ว (สำหรับคนที่รูปไม่ผ่านก็ไม่ต้องตกใจ เพราะ จะมี Photobooth สำหรับบริการถ่ายรูปอยู่ด้านใน ราคา 150 บ.)

ด้านในจะเป็นบริเวณที่ติดแอร์ รู้สึกเย็นมากเพราะข้างนอกร้อน 555555 ก็จะต้องเข้าไปต่อแถวอีกรอบ ด่านแรกคือต่อแถวเพื่อตรวจเอกสาร จุดนี้จะเป็น จนท. คนไทย ให้เรายื่น Passport และรูป พร้อม Scan นิ้วทุกนิ้ว (4 นิ้วซ้าย-ขวา , 2 นิ้วโป้ง) พร้อมกับมีคุยกับเราสั้น ๆ ว่า “จะไปทำอะไร” ด่านนี้คนมักจะโดนเรื่องรูป ถ้ารูปไม่ผ่านก็ไปถ่ายรูปใหม่ แล้วค่อยมายื่นเอกสารอีกครั้ง (แต่รู้สึกเขาจะลัดคิวให้)

ถัดจากด่านแรก ก็มาถึงด่านสุดท้าย เป็นด่านชี้เป็นชี้ตาย ด่านนี้จะมีท่านกงกง เอ้ย กงซุน เอ้ย กงสุล (ไม่แน่ใจว่าต้องเรียกว่าอย่างไร) นั่งรอสัมภาษณ์พวกเราทุกคนอยู่ ตอนที่ จขกท. ไปมีท่านกง 4 คน (มีท่านในตำนานด้วย) จุดนี้เราจะแอบได้ยินการสัมภาษณ์ของคนอื่นบ้างด้วย ก็จะเห็นทั้งคนที่ผ่านและไม่ผ่านระคนกันไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่