สวัสดีทุกท่านครับ
จะขอมาแชร์ปสก.การไปสัมภาษณ์วีซ่า USA นะครับ
จริงๆก็มีหลายกระทู้แล้วที่รีวิวเรื่องนี้ แต่ละกระทู้ก็มีปสก.ไม่เหมือนกันซะทีเดียว
วันนี้เลยอยากมาแชร์กรณีของผมบ้างนะครับ จะพยายามให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จำได้นะ
สมัครวีซ่าท่องเที่ยว
ก่อนสัมภาษณ์
1. กรอก DS160 ที่เว็บสถานฑูต ผมกรอกตามกระทู้นะครับ ขออนุญาติแชร์ลิ้งค์ครับ
https://ppantip.com/topic/39639272
2. จ่ายตัง แล้วกลับมาจองคิววันสัมภาษณ์ (เลื่อนวันได้สองครั้ง)
https://www.ustraveldocs.com/th/
3. เตรียมเอกสาร ที่ผมเตรียมไปมีดังนี้
- Appointment confirmation
- DS160 confirmation
- ใบเสร็จจ่ายเงินค่าสมัคร (ธนาคารกรุงศรี)
- รูปถ่าย
- พาสปอร์ตทุกเล่ม เล่มเก่ามีไปมาหลายประเทศ และเคยมี Schengen visa 2 รอบ
- ใบรับรองงาน
- Salary slip (ใบเงินเดือน)
- Bank statment (bank transaction)
- Fund portfolio (กองทุน) อันนี้เตรียมไปเผื่อเอง 555
- แพลนเที่ยวคร่าวๆในแต่ละวัน
เอาล่ะ เริ่ม !
เริ่มต้นเกริ่นก่อนว่า ก่อนหน้าวันสัมภาษณ์3วัน สถานฑูตส่งเมลมาเลื่อนวันสัมภาษณ์ไปสัปดาห์หน้า เวลา 9.15 น. (ลางไม่ดีแต่เริ่ม)
ซึ่งเป็นรอบค่อนข้างสาย
พอถึงวันสัมภาษณ์จริง ผมไปถึงเวลา 8.15 น. แบบเผื่อเหลือๆเลย กลัวสาย
สิ่งแรกที่เห็นเลย นักศึกษาเยอะม๊าก ล้นๆจุกๆ
- สัมภาษณ์ที่สถานฑูตอเมริกา ข้างตึก All season เพลินจิต
- แนะนำว่า ให้ฝากของก่อน เอาเข้าไปได้แค่มือถือ แว่น กระเป๋าตัง หรือกระเป๋าเล้กๆเท่านั้น
นาฬิกา กุญแจรถ หูฟัง เอาเข้าบ่ได้เด้อ
- มีที่รับฝากของบริการแถวตลาดข้างๆด้วยราคาไม่เป็นมิตรที่ราคา100บาท รับฝากแบบบ้านๆมาก
ขอให้ดู route การเดินตามรูปด้านล่างครับ ตั้งแต่หน้าประตูถึงห้องสัมภาษณ์จะเป็นตามนี้
1. ติด tracking ไปรษณีย์
บริเวณนี้ยังเป็นหน้าอาคาร ริมถนนเลย
ต่อแถวให้พนักงานติด tracking number ในหลังพาสปอร์ต เพื่อกรณีเราผ่านสัมภาษณ์แล้งเค้าจะส่งไปที่อยู่ตามใบนี้
โดยพนักงานจะถามเราว่าเรามารอบเวลาอะไร เพื่อเช็คชื่อไปด้วย
2. ปิดมือถือ เตรียมเข้าอาคาร
ย้ายไปอีกแถวริมถนนเช่นเดิม เพื่อรอต่อคิวเข้าตัวอาคาร
ของผม Security มาทักผมว่าให้ไปฝากของด้วย (เค้าเห็นผมใส่นาฬิกาอยู่) จึงต้องวิ่งไปฝากของก่อนแล้วกลับมาต่อแถวใหม่
โดย Secuity จะให้ปิดมือถือและเรียกมาตรวจมือถือทีละ 5 คน แล้วปล่อยเข้าตึก
3. ฝากมือถือ + แสกนสัมภาระ
ห้องรับฝากมือถือต้องใช้บัตรปชชในการรับฝาก โดยเจ้าหน้าที่จะให้เบอร์รับฝากของ (Key tag) มาคล้องที่ข้อมือเราด้วย
พร้อมแสกนของสัมภาระในตัวแบบเข้าสนามบิน
4. รอ ร๊อ รอ
ห้องนี้เป็นอาคาร outdoor มีหลังคา มีพัดลมครับ
เดินเข้ามารอคิวสัมภาษณ์ตามเวลาที่จอง ไม่แน่ใจว่าผมรอนานเท่าไหร่ แต่รู้สึกนานมากกกกกกกกก
รอเกิน10โมงแน่ๆ กว่าเค้าจะเรียกคิวสัมภาษณ์รอบของ 9.15 น.
อาจเพราะวันนั้นน้อง นศ มาสัมภาษณ์ Work and travel เยอะมากมั้ง
มือถือก็ไม่มีให้เล่น นาฬิกาก็ไม่มีให้ดู ....
5. เรียกคิว
และแล้วเจ้าหน้าที่ก็เรียกคิวรอบเวลา 9.15 น. (เย้)
ต่อแถวยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แล้วไปเตรียมเข้าห้องสัมภาษณ์
6. รอเตรียมเข้าห้องสัมภาษณ์
บริเวรหน้าห้องสัมภาษณ์ ตรงนี้รอไม่นานครับ แล้วเจ้าหน้าที่จะปล่อยเราเข้าห้อง เย้ๆ จะได้สัมแล้ว
7. สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ไทย
หยุดจ่ะ ๆ ๆ ๆ ๆ เข้ามาปุ้บ มีแถวอีก ม้วนเป็นเกมส์งู ทรุด
ไม่เป็นไร คงไม่นานไปกว่านั่งรอเมื่อกี้แล้ว
โดยหัวแถวจะมีเค้าเตอร์สัมภาษณ์สองส่วน คือด่านแรก และด่านสอง
ด่านแรกคือคุยกับเจ้าหน้าที่คนไทย จะเปิดไว้ประมาณ4เคาเตอร์
ด่านสองคือคุยกับเจ้าหน้าที่ต่างชาติ จะเปิดไว้ประมาณ3เคาเตอร์
โดยเคาเตอร์จะเหมือนติดต่อเค้าเตอร์ธนาคาร หรือจ่ายค่ายาในรพ.อะครับ นึกออกมั้ย 555
เรายืนคุย มีกระจกกั้น มีไมค์โครโฟนติดที่ฝั่งเราด้านซ้าย
เมื่อแถวหมด เจ้าหน้าที่ด่านแรกจะเรียกเราไปคุย เนื้อหาจะไม่ค่อยมีอะไร
โดยเค้าจะขอพาสปอร์ต ถามว่าจะไปทำอะไร ไปกี่วัน ขอรูปถ่าย
ด่านนี้ถ้ารูปผิดระเบียบก็ต้องไปถ่ายใหม่ที่บูทถ่ายรูปด่วนในห้องเดียวกัน ค่าถ่าย150บาท รับแบงค์เท่านั้น ไม่มีทอน
จากนั้นจะต้องแสกนนิ้วมือกับเครื่องสแกนนิ้วข้างๆ 3 step ดังนี้
1. 4นิ้วซ้าย วางนิ้วชิดกัน
2. 4นิ้วขวา วางนิ้วชิดกัน
3. นิ้วโป้งทั้งสองข้างพร้อมกัน
ปล. ห้องนี้มีนาฬิกาให้ดูแล้ว ซึ่งเวลา 10โมงครึ่งจ้า...
8.
สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ฑูตต่างชาติ
ไฮไลท์ของงาน
วันที่ผมไป เค้าเตอร์เจ้าหน้าที่ฑูตเปิดแค่ 3 เค้าเตอร์ โดย 1 ในนั้นสำหรับ Work and travel เท่านั้น ที่เหลืออีกสองที่ก็สำหรับ Visa B1/B2 (วีซ่าท่องเที่ยว)
ต่อแถวไปเรื่อยๆ ตื่นเต้นบ้าง แม้เราจะมั่นใจในโปรไฟล์+หลักฐานตัวเองก็ตาม - -.
วันที่ผมไป มีผู้ชายหัวล้านประจำที่ช่อง Work and travel
เจ้าหน้าที่ผู้หญิงผมสีบลอนด์ และผู้ชายใส่แว่น อยู่อีก 2 ที่เหลือ (ผู้ชายใส่แว่นพูดไทยเก่งมาก แอบได้ยิน)
สังเกตุว่าคนก่อนหน้า สัมภาษณ์นานมากกกกกก ทั้ง3เค้าเตอร์เลย
แม้แต่คนคิวก่อนหน้าผมที่เคยได้ Visa USA มาแล้ว ยังคุยนานเลย
และก็ถึงตาผม ได้เข้าที่ "เจ้าหน้าที่ผู้หญิงผมสีบลอนด์"
และที่คือบทที่คุยกันครับ (ภาษาอังกฤษ)
เจ้าหน้าที่: สวัสดีค่ะ
ผม : สวัสดีตอนเช้าครับ
เจ้าหน้าที่: #$%@*^$ อ่อดๆ (เสียงเบามาก อู้อี้ ฟังไม่ชัด)
ผม : -สตั้น- //จะเอานิ้วไปแสกนที่เครื่องข้างๆ
เจ้าหน้าที่: ไม่ๆ #$%@*^$ วอร์ดๆ
ผม: พาสเวิร์ด??
เจ้าหน้าที่: //ขยับมาใกล้ๆไมค์ฝั่งเค้า ขอพาสปอร์ตค่ะ
ผม : อ๋อออออ นี่ครับ 5555 ตื่นเต้นๆ //(โอ๊ยยยยย อ้อเนอะ ทุกคนในฮอลนี้งง)
เจ้าหน้าที่: //ยิ้ม ขำ... เอา4นิ้วมือขวาวางที่เครื่องสแกนค่ะ
ผม : //วางนิ้ว
เจ้าหน้าที่: จะไปUSAทำอะไรคะ
ผม : จะไปเที่ยวกับเพื่อนครับ
เจ้าหน้าที่: ไม่เยี่ยมเพื่อน? ขยับไปใกล้ๆไมค์หน่อยค่ะ ไม่ได้ยิน
ผม : //ขยับ จะไปเยี่ยมเพื่อนที่แมนฮัทตันครับ เค้าอยู่ที่นู่นเป็นศิลปินช่างภาพ
เจ้าหน้าที่: ไปกี่วันคะ
ผม : 15 วันครับ
เจ้าหน้าที่: ตอนนี้ทำงานอะไรครับ
ผม: เป็น IT Consultant ที่ บริษัท xxxxxx ครับ ผมมีใบรับรองงานด้วยนะถ้าอยากดู (เสนอเต็มที่ อุตส่าห์ขอบริษัทมา...)
เจ้าหน้าที่: //ยกมือ ไม่เป็นไรค่ะ .... ทำงานที่นี่มากี่ปีแล้วคะ
ผม: จะครบ 5 ปีแล้วครับ
เจ้าหน้าที่: โอเคค่ะ วีซ่าผ่านแล้ว คุณจะได้พาสปอร์ตคืนในไม่เกินสัปดาห์หน้านะคะ
ผม: ขอบคุณครับ
9. กลับ!
เดินออกจากห้องมาเลยครับ แล้วกลับไปจุดฝากมือถือ แล้วเอา key tag ที่ข้อมือคืนเจ้าหน้าที่เพื่อรับมือถือ
สรุป
- เจ้าหน้าที่ไม่ดูอะไรเลย (ฮ่วย) ยกเว้นพาสปอร์ต... แม้แต่ DS160 และใบนัด ที่ปริ้นมาก็ไม่ได้ใช้
- คนก่อนหน้าผมที่เคยได้วีซ่า ยังสัมไม่เสร็จเลยแม้ตอนที่ผมสัมภาษณ์เสร็จแล้ว
- บางก่อนหน้าก็มีโดนขอดูเอกสารเพิ่มเติม(ที่เตรียมมา) ทั้งจากเจ้าหน้าที่ฑูตคนอื่น หรือเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่ผมคุยด้วย
- คหสต. คิดว่าต้องตอบให้ตรงกับที่กรอกใน DS160 และฉะฉานในการตอบ (ไม่ช็อตไมค์ยืนคิด) น่าจะทำให้ผ่านง่ายขึ้น
รีวิว สัมภาษณ์ Visa USA (อเมริกา) May 2022
จะขอมาแชร์ปสก.การไปสัมภาษณ์วีซ่า USA นะครับ
จริงๆก็มีหลายกระทู้แล้วที่รีวิวเรื่องนี้ แต่ละกระทู้ก็มีปสก.ไม่เหมือนกันซะทีเดียว
วันนี้เลยอยากมาแชร์กรณีของผมบ้างนะครับ จะพยายามให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จำได้นะ
สมัครวีซ่าท่องเที่ยว
ก่อนสัมภาษณ์
1. กรอก DS160 ที่เว็บสถานฑูต ผมกรอกตามกระทู้นะครับ ขออนุญาติแชร์ลิ้งค์ครับ
https://ppantip.com/topic/39639272
2. จ่ายตัง แล้วกลับมาจองคิววันสัมภาษณ์ (เลื่อนวันได้สองครั้ง)
https://www.ustraveldocs.com/th/
3. เตรียมเอกสาร ที่ผมเตรียมไปมีดังนี้
- Appointment confirmation
- DS160 confirmation
- ใบเสร็จจ่ายเงินค่าสมัคร (ธนาคารกรุงศรี)
- รูปถ่าย
- พาสปอร์ตทุกเล่ม เล่มเก่ามีไปมาหลายประเทศ และเคยมี Schengen visa 2 รอบ
- ใบรับรองงาน
- Salary slip (ใบเงินเดือน)
- Bank statment (bank transaction)
- Fund portfolio (กองทุน) อันนี้เตรียมไปเผื่อเอง 555
- แพลนเที่ยวคร่าวๆในแต่ละวัน
เอาล่ะ เริ่ม !
เริ่มต้นเกริ่นก่อนว่า ก่อนหน้าวันสัมภาษณ์3วัน สถานฑูตส่งเมลมาเลื่อนวันสัมภาษณ์ไปสัปดาห์หน้า เวลา 9.15 น. (ลางไม่ดีแต่เริ่ม)
ซึ่งเป็นรอบค่อนข้างสาย
พอถึงวันสัมภาษณ์จริง ผมไปถึงเวลา 8.15 น. แบบเผื่อเหลือๆเลย กลัวสาย
สิ่งแรกที่เห็นเลย นักศึกษาเยอะม๊าก ล้นๆจุกๆ
- สัมภาษณ์ที่สถานฑูตอเมริกา ข้างตึก All season เพลินจิต
- แนะนำว่า ให้ฝากของก่อน เอาเข้าไปได้แค่มือถือ แว่น กระเป๋าตัง หรือกระเป๋าเล้กๆเท่านั้น
นาฬิกา กุญแจรถ หูฟัง เอาเข้าบ่ได้เด้อ
- มีที่รับฝากของบริการแถวตลาดข้างๆด้วยราคาไม่เป็นมิตรที่ราคา100บาท รับฝากแบบบ้านๆมาก
ขอให้ดู route การเดินตามรูปด้านล่างครับ ตั้งแต่หน้าประตูถึงห้องสัมภาษณ์จะเป็นตามนี้
1. ติด tracking ไปรษณีย์
บริเวณนี้ยังเป็นหน้าอาคาร ริมถนนเลย
ต่อแถวให้พนักงานติด tracking number ในหลังพาสปอร์ต เพื่อกรณีเราผ่านสัมภาษณ์แล้งเค้าจะส่งไปที่อยู่ตามใบนี้
โดยพนักงานจะถามเราว่าเรามารอบเวลาอะไร เพื่อเช็คชื่อไปด้วย
2. ปิดมือถือ เตรียมเข้าอาคาร
ย้ายไปอีกแถวริมถนนเช่นเดิม เพื่อรอต่อคิวเข้าตัวอาคาร
ของผม Security มาทักผมว่าให้ไปฝากของด้วย (เค้าเห็นผมใส่นาฬิกาอยู่) จึงต้องวิ่งไปฝากของก่อนแล้วกลับมาต่อแถวใหม่
โดย Secuity จะให้ปิดมือถือและเรียกมาตรวจมือถือทีละ 5 คน แล้วปล่อยเข้าตึก
3. ฝากมือถือ + แสกนสัมภาระ
ห้องรับฝากมือถือต้องใช้บัตรปชชในการรับฝาก โดยเจ้าหน้าที่จะให้เบอร์รับฝากของ (Key tag) มาคล้องที่ข้อมือเราด้วย
พร้อมแสกนของสัมภาระในตัวแบบเข้าสนามบิน
4. รอ ร๊อ รอ
ห้องนี้เป็นอาคาร outdoor มีหลังคา มีพัดลมครับ
เดินเข้ามารอคิวสัมภาษณ์ตามเวลาที่จอง ไม่แน่ใจว่าผมรอนานเท่าไหร่ แต่รู้สึกนานมากกกกกกกกก
รอเกิน10โมงแน่ๆ กว่าเค้าจะเรียกคิวสัมภาษณ์รอบของ 9.15 น.
อาจเพราะวันนั้นน้อง นศ มาสัมภาษณ์ Work and travel เยอะมากมั้ง
มือถือก็ไม่มีให้เล่น นาฬิกาก็ไม่มีให้ดู ....
5. เรียกคิว
และแล้วเจ้าหน้าที่ก็เรียกคิวรอบเวลา 9.15 น. (เย้)
ต่อแถวยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แล้วไปเตรียมเข้าห้องสัมภาษณ์
6. รอเตรียมเข้าห้องสัมภาษณ์
บริเวรหน้าห้องสัมภาษณ์ ตรงนี้รอไม่นานครับ แล้วเจ้าหน้าที่จะปล่อยเราเข้าห้อง เย้ๆ จะได้สัมแล้ว
7. สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ไทย
หยุดจ่ะ ๆ ๆ ๆ ๆ เข้ามาปุ้บ มีแถวอีก ม้วนเป็นเกมส์งู ทรุด
ไม่เป็นไร คงไม่นานไปกว่านั่งรอเมื่อกี้แล้ว
โดยหัวแถวจะมีเค้าเตอร์สัมภาษณ์สองส่วน คือด่านแรก และด่านสอง
ด่านแรกคือคุยกับเจ้าหน้าที่คนไทย จะเปิดไว้ประมาณ4เคาเตอร์
ด่านสองคือคุยกับเจ้าหน้าที่ต่างชาติ จะเปิดไว้ประมาณ3เคาเตอร์
โดยเคาเตอร์จะเหมือนติดต่อเค้าเตอร์ธนาคาร หรือจ่ายค่ายาในรพ.อะครับ นึกออกมั้ย 555
เรายืนคุย มีกระจกกั้น มีไมค์โครโฟนติดที่ฝั่งเราด้านซ้าย
เมื่อแถวหมด เจ้าหน้าที่ด่านแรกจะเรียกเราไปคุย เนื้อหาจะไม่ค่อยมีอะไร
โดยเค้าจะขอพาสปอร์ต ถามว่าจะไปทำอะไร ไปกี่วัน ขอรูปถ่าย
ด่านนี้ถ้ารูปผิดระเบียบก็ต้องไปถ่ายใหม่ที่บูทถ่ายรูปด่วนในห้องเดียวกัน ค่าถ่าย150บาท รับแบงค์เท่านั้น ไม่มีทอน
จากนั้นจะต้องแสกนนิ้วมือกับเครื่องสแกนนิ้วข้างๆ 3 step ดังนี้
1. 4นิ้วซ้าย วางนิ้วชิดกัน
2. 4นิ้วขวา วางนิ้วชิดกัน
3. นิ้วโป้งทั้งสองข้างพร้อมกัน
ปล. ห้องนี้มีนาฬิกาให้ดูแล้ว ซึ่งเวลา 10โมงครึ่งจ้า...
8. สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ฑูตต่างชาติ
ไฮไลท์ของงาน
วันที่ผมไป เค้าเตอร์เจ้าหน้าที่ฑูตเปิดแค่ 3 เค้าเตอร์ โดย 1 ในนั้นสำหรับ Work and travel เท่านั้น ที่เหลืออีกสองที่ก็สำหรับ Visa B1/B2 (วีซ่าท่องเที่ยว)
ต่อแถวไปเรื่อยๆ ตื่นเต้นบ้าง แม้เราจะมั่นใจในโปรไฟล์+หลักฐานตัวเองก็ตาม - -.
วันที่ผมไป มีผู้ชายหัวล้านประจำที่ช่อง Work and travel
เจ้าหน้าที่ผู้หญิงผมสีบลอนด์ และผู้ชายใส่แว่น อยู่อีก 2 ที่เหลือ (ผู้ชายใส่แว่นพูดไทยเก่งมาก แอบได้ยิน)
สังเกตุว่าคนก่อนหน้า สัมภาษณ์นานมากกกกกก ทั้ง3เค้าเตอร์เลย
แม้แต่คนคิวก่อนหน้าผมที่เคยได้ Visa USA มาแล้ว ยังคุยนานเลย
และก็ถึงตาผม ได้เข้าที่ "เจ้าหน้าที่ผู้หญิงผมสีบลอนด์"
และที่คือบทที่คุยกันครับ (ภาษาอังกฤษ)
เจ้าหน้าที่: สวัสดีค่ะ
ผม : สวัสดีตอนเช้าครับ
เจ้าหน้าที่: #$%@*^$ อ่อดๆ (เสียงเบามาก อู้อี้ ฟังไม่ชัด)
ผม : -สตั้น- //จะเอานิ้วไปแสกนที่เครื่องข้างๆ
เจ้าหน้าที่: ไม่ๆ #$%@*^$ วอร์ดๆ
ผม: พาสเวิร์ด??
เจ้าหน้าที่: //ขยับมาใกล้ๆไมค์ฝั่งเค้า ขอพาสปอร์ตค่ะ
ผม : อ๋อออออ นี่ครับ 5555 ตื่นเต้นๆ //(โอ๊ยยยยย อ้อเนอะ ทุกคนในฮอลนี้งง)
เจ้าหน้าที่: //ยิ้ม ขำ... เอา4นิ้วมือขวาวางที่เครื่องสแกนค่ะ
ผม : //วางนิ้ว
เจ้าหน้าที่: จะไปUSAทำอะไรคะ
ผม : จะไปเที่ยวกับเพื่อนครับ
เจ้าหน้าที่: ไม่เยี่ยมเพื่อน? ขยับไปใกล้ๆไมค์หน่อยค่ะ ไม่ได้ยิน
ผม : //ขยับ จะไปเยี่ยมเพื่อนที่แมนฮัทตันครับ เค้าอยู่ที่นู่นเป็นศิลปินช่างภาพ
เจ้าหน้าที่: ไปกี่วันคะ
ผม : 15 วันครับ
เจ้าหน้าที่: ตอนนี้ทำงานอะไรครับ
ผม: เป็น IT Consultant ที่ บริษัท xxxxxx ครับ ผมมีใบรับรองงานด้วยนะถ้าอยากดู (เสนอเต็มที่ อุตส่าห์ขอบริษัทมา...)
เจ้าหน้าที่: //ยกมือ ไม่เป็นไรค่ะ .... ทำงานที่นี่มากี่ปีแล้วคะ
ผม: จะครบ 5 ปีแล้วครับ
เจ้าหน้าที่: โอเคค่ะ วีซ่าผ่านแล้ว คุณจะได้พาสปอร์ตคืนในไม่เกินสัปดาห์หน้านะคะ
ผม: ขอบคุณครับ
9. กลับ!
เดินออกจากห้องมาเลยครับ แล้วกลับไปจุดฝากมือถือ แล้วเอา key tag ที่ข้อมือคืนเจ้าหน้าที่เพื่อรับมือถือ
สรุป
- เจ้าหน้าที่ไม่ดูอะไรเลย (ฮ่วย) ยกเว้นพาสปอร์ต... แม้แต่ DS160 และใบนัด ที่ปริ้นมาก็ไม่ได้ใช้
- คนก่อนหน้าผมที่เคยได้วีซ่า ยังสัมไม่เสร็จเลยแม้ตอนที่ผมสัมภาษณ์เสร็จแล้ว
- บางก่อนหน้าก็มีโดนขอดูเอกสารเพิ่มเติม(ที่เตรียมมา) ทั้งจากเจ้าหน้าที่ฑูตคนอื่น หรือเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่ผมคุยด้วย
- คหสต. คิดว่าต้องตอบให้ตรงกับที่กรอกใน DS160 และฉะฉานในการตอบ (ไม่ช็อตไมค์ยืนคิด) น่าจะทำให้ผ่านง่ายขึ้น