ผลสัมภาษณ์ (ไม่ผ่าน)
ประวัติโดยย่อ
ทำงานอยู่บริษัทท่องเที่ยว ทัวร์ส์ ขายตั๋วเครื่องบิน
ประเทศที่เคยท่องเที่ยว สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน เวียดนาม ลาว
อายุงาน 8 ปี 10 เดือน
อายุ 36 ปี
เงินเดือน 3X,XXX
เพศชาย สถานะโสด
ยื่นขอคนเดียว
เงินซัพพอร์ตตัวเองประมาณ 10,000 USD
วัตถุประสงค์ ท่องเที่ยวปีหน้า (2023) ประมาณ 7-10 วัน แล้วแต่ช่วงตั๋วเครื่องบินราคาดี

เริ่มต้นด้วยยื่นกรอกแบบฟอร์ม DS-160 บนเว็ปไซต์ด้วยตนเอง
วันที่ 9.9.2022
ชำระเงินค่าวีซ่า 14.9.2022
เลือกวันสัมภาษณ์ 7.10.2022 ช่วงเช้า (คิวหลุดสัมภาษณ์)

เอกสารที่เตรียม
1. DS-160
2. Appointment Confirmation
3. Picture 2x2
4. สลิปเงินเดือน สาม เดือน
5  เอกสารรับรองเงินฝากธนาคาร 3XX,XXX THB
6. Passport 3 เล่ม
7. ทะเบียนบ้าน 2 เล่ม พร้อมเอกสารซื้อขาย

วันสัมภาษณ์ไปยืนต่อแถวประมาณ แปดโมงเช้า คิวยาวมากครับ
รอประมาณครึ่งชั่วโมงได้เข้าไป ฝากโทรศัพท์ไว้กับบัตรประชาชน พร้อมสายรัดข้อมือ
แสกนอาวุธเหมือนสนามบิน
เข้าไปแล้วมีไลน์ชี้ว่าเข้าไปแถวด้านไหนบ้าง ตรวจพาสสปอร์ตอีกครั้ง เชิญเข้าแถวด้านในห้องแผนผังตามด้านล่างนี้

รอคิวตรวจเอกสารน่าจะประมาณชั่วโมงกว่าๆ ตามแผนผังช่อง 11-15 ตรวจเอกสารและรูปถ่าย (หากไม่ได้มาตรฐานที่กำหนด มีตู้ให้ถ่ายด้านในราคา 150 บาทได้ทั้งหมด 4 รูป เงินสดเท่านั้น ไม่มีเงินทอน ใช้ธนบัตร 100,50,20 เท่านั้น)

เมื่อถึงคิวได้ช่อง 15 
ผม. ยื่นพาสสปอร์ต
จนท. ไปอเมริกาทำไมคะ
ผม. ท่องเที่ยวครับ
จนท. เคยเปลี่ยนชื่อใช่มั้ยคะ ชื่อเดิมอะไรคะ
ผม. ชื่อ....ครับ
จนท. ขอรูปถ่ายด้วยค่ะ ระหว่างนี้อ่านวิธีการแสกนลายนิ้วมือด้านขวาของตู้นะคะ
ผม. อ่าน
จนท. วางนิ้วได้เลยค่ะ เริ่มที่มือซ้าย สี่ นิ้ว มือขวา สี่ นิ้วและนิ้วโป้ง สอง ข้าง
ผม. ปฏิบัติตาม
จนท. เชิญช่อง 10 เพื่อยืนยันลายนิ้วมือค่ะ

ผมเดินไปช่อง 10
ผม. ยื่นพาสสปอร์ต
จนท. เป็นชาวอเมริกัน หน้าตาสวย
ผม. ผมมองหน้าเค้า โดยไม่ได้อ่านวิธีการที่ติดตรงตู้ด้านขวา
จนท. มือซ้ายค่ะ (พูดไทย สำเนียงฝรั่ง) 
ผม. งง (อะไรนะครับ)
จนท. มือช้ายค่ะ
ผม. อ่อครับ
จนท. ขอบคุณค่ะ ยื่นพาสสปอร์ตให้
ผม. รับพาสสปอร์ตไปต่อแถว พื้นที่ ไลน์คิวตรวจเอกสารแล้ว

ระหว่างนั้นผมตื่นเต้นมาก ขนาดผมไม่ค่อยคิดอะไรนะครับ คิดในใจจะได้มั้ยนะ จะได้หรือเปล่า
ผมสังเกตหลายๆคน ดูจากการแต่งตัว ก็โดนปฏิเสธแล้ว
หลายคนต้องสู้กับ จนท กงศุล โดยพยายามพูด
มีเคสนึงไปกันสองคน ผญ ใส่ชุด ตร ผช แต่งตัวปกติ โดย จนท กงศุล ถามภาษาอังกฤษแล้วไม่เข้าใจ เลยไปเรียก จนท คนไทย มาพูดให้ สุดท้ายก็ไม่ผ่าน
 
พอมาถึงคิวแล้ว จริงๆ ผมอยากสัมภาษณ์ช่อง 8 มาก ปกติเป็นคนถือเคล็ด ตัวเลข แต่วันนั้น ได้เลข 6 หมดเลย
ปรากฏว่าช่อง 6 ว่างพอดี เลยได้ช่องนั้น
(สัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ)
ผม. ยื่นพาสสปอร์ต พร้อมรูปถ่าย
จนท. สวัสดีค่ะ
ผม. สวัสดีครับ
จนท. ทำไมถึงจะไปอเมริกาค่ะ
ผม. ไปท่องเที่ยวและไปถ่ายวีดีโอลงยูทูปช่องตัวเองครับ
จนท. บริษัทที่ทำงานทำเกี่ยวกับอะไรคะ
ผม. เป็นบริษัทท่องเที่ยวทำทัวร์ครับ
จนท. ทำมานานหรือยังค่ะ
ผม. แปดปีแล้วครับ
จนท. ช่วงโควิดละ ผ่านมาได้อย่างไร
ผม. ผมยังรอดอยู่ครับ โดยบริษัทปรับเปลี่ยนจากทัวร์มาขายของนำเข้าและขายให้คนไทยครับ
จนท. แล้วเคยบินมั้ย
ผม. เคยครับ
จนท. ที่ไหนบ้าง
ผม. เวียดนาม ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง อิตาลี
จนท. แล้วใครซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้
ผม. ผมเองครับ
จนท. พิมพ์ๆๆๆๆๆๆ เงียบไปประมาณ 15 วินาที
ผม. มองไปที่พาสสปอร์ตที่อยู่ข้างในตู้นั้น
จนท. โอเค คุณตอบเร็วมาก แต่เสียใจด้วยนะคะ เราไม่สามารถออกวีซ่าให้คุณได้ ด้วยเหตุผลของทางกงสุลค่ะ
ผม. ขอบคุณครับ

โดยที่เค้าไม่ได้ขอดูเอกสารอะไรที่ผมนำไปเลย ดูแค่หนังสือเดินทางเล่มล่าสุดเท่านั้น

ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนคนอกหักมากครับ เสียใจแบบบอกไม่ถูก ทั้งๆที่ในใจ ก็คิดว่า ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ เตรียมใจมาแล้ว
แต่พอเข้าสถานการณ์จริงๆ มันก็รู้สึกเสียใจอยู่ดีนะครับ

เอาเป็นว่า ผมไม่รู้ว่าเค้าพิจารณาจากอะไร แต่ผมไม่ได้มีเจตนาที่ต้องการไปอยู่ที่นั้นเลย 
แค่ท่องเที่ยวเท่านั้น เสียใจตรงไม่ดูเอกสารอะไรเลย เตรียมไปตั้งเยอะแยะ เสียใจครับ T_T