รีวิววีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา 2024

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ
 
วันนี้ได้โอกาสมาแชร์ประสบการณ์การสัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาเพื่อส่งต่อข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวค่ะ  ก่อนที่จขกท.จะเริ่มกรอกฟอร์ม DS-160 รวมถึงการจองวันสัมภาษณ์ จขกท.เข้ามาเก็บข้อมูลจากหลายๆ กระทู้ที่ชาวพันทิปมาแชร์ไว้ ซึ่งเป็นประโยชน์มากจริงๆ  ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ค่ะ


 
เริ่มกันเลยนะคะ

หลังจากได้อ่านข้อมูลในเว็บ https://th.usembassy.gov/visas/nonimmigrant-visas/ จนพอเข้าใจแล้ว ก็มาเริ่มที่การกรอกฟอร์ม DS-160
ทุกท่านสามารถหากระทู้แนะนำการกรอกแบบฟอร์ม ซึ่งมีชาวพันทิปหลายท่านทำกระทู้ไว้ได้ละเอียดดีมากค่ะ ระหว่างที่กรอก DS-160 ก็ใช้ Application ID ไปสมัครในเว็บ https://portal.ustraveldocs.com/ เพื่อไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมและจองวันนัดสัมภาษณ์ไว้ก่อนเลย ไม่ต้องรอให้กรอกฟอร์มจนเสร็จนะคะ เพราะยังมีเวลาให้แก้ไขข้อมูลได้เรื่อยๆ แล้วค่อยไปถ่ายรูป+อัพโหลดรูปใน DS-160 สัก 2 อาทิตย์ก่อนจะถึงวันนัดสัมภาษณ์ จากนั้นค่อยกดส่งฟอร์ม DS-160 อย่างน้อยก่อนวันนัดสัมภาษณ์ 3 วันทำการ 
 
สเต็ปแรก - การกรอก DS-160
เนื่องจากจขกท.อ่านประสบการณ์จากหลายๆ ท่านที่มาแชร์ทั้งที่วีซ่าผ่าน และไม่ผ่าน (ทั้งๆ ที่บางท่านก็เคยได้วีซ่ามาแล้ว) บ้างก็ว่าที่วีซ่าไม่ผ่านอาจจะเพราะเป็นสาวโสดเดินทางคนเดียว และ/หรือ มีคนรู้จักที่นั่น ก็อาจเป็นเหตุในการถูกปฏิเสธวีซ่า จขกท.เข้าข่ายทั้งสองอย่างก็เลยมีความหวั่นใจอยู่บ้างค่ะ แต่ก็ตัดสินใจกรอกข้อมูลตามจริงทุกอย่าง ไม่มีปิดบังใดๆ เนื่องจากวีซ่าท่องเที่ยว 10 ปีที่หมดอายุไปแล้ว จขกท.เดินทางไปอแมริกาก็กรอกในใบตม.แจ้งว่าไปพักกับคนรู้จักทุกครั้ง ถ้าคราวนี้กรอกว่าไม่มีคนรู้จัก อาจจะโดนสงสัย เพราะทางสถานทูตต้องมีประวัติของเราเก็บไว้แน่นอน ที่สำคัญจขกท.กรอกในส่วนของการทำงานค่อนข้างเยอะ ตั้งใจเขียนให้เจ้าหน้าที่กงสุลอ่านแล้วเข้าใจได้ว่างานของเราคืออะไร สำคัญยังไง งานที่รับผิดชอบหลักๆ มีอะไรบ้าง แต่ไม่เยิ่นเย้อค่ะ
 
ข้อมูลส่วนตัวคร่าวๆ ของจขกท
.
1. ก่อนเหตุการณ์911 จขกท.เคยได้วีซ่าท่องเที่ยวครั้งแรกหลังจากเรียนจบปริญญาตรีและทำงานได้ 1 ปี ไปขอพร้อมกับของคุณแม่ เพื่อเดินทางไปเยี่ยมพี่ชายที่เรียนปริญญาโทที่ซาน ฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย  ก่อนเหตุการณ์ 911 เป็นการสุ่มเรียกสัมภาษณ์ แต่จขกท.ไม่ได้ถูกเรียกสัมภาษณ์ จขกท.ได้วีซ่าท่องเที่ยว 3 เดือน ส่วนคุณแม่ได้วีซ่า 10 ปี  ตอนกรอกแบบฟอร์มก็แจ้งไปตามจริงว่าไปเยี่ยมพี่ชายที่เรียนอยู่ที่นั่นได้ 1 ปีแล้ว
 .
2. เคยได้วีซ่านักเรียน 5 ปี ไม่ได้ถูกเรียกสัมภาษณ์ เป็นการขอวีซ่าก่อนเหตุการณ์ 911 แล้วก็เกิดเหตุการณ์ 911 ในปีนั้น (จขกท.เรียนและกลับไทยก่อนวีซ่าครบ 5 ปี)
 .
3. เคยได้วีซ่าท่องเที่ยว 10 ปี หลังจากกลับจากอเมริกาด้วยวีซ่านักเรียน หลังเหตุการณ์ 911 ผู้สมัครทุกคนต้องเข้ารับการสัมภาษณ์ (ทำงานได้เกือบ 2 ปี จึงไปขอวีซ่าท่องเที่ยวอีกครั้ง) เดินทางด้วยวีซ่าท่องเที่ยวทั้งหมด 5 ครั้ง แต่ละครั้งทาง immigration จะสแตมป์ให้ 6 เดือน จขกท.อยู่ประมาณ 14-16 วันในแต่ละครั้ง ไม่เคยอยู่เกินวันที่กรอกไว้ในใบตม.ขาเข้าอเมริกา

 เพิ่มเติม
1. จขกท.ยังไม่ได้แต่งงาน ปัจจุบันทำงานอยู่บริษัทสัญชาติอเมริกัน อายุงาน 10+ปี
2. แจ้งไปตามความจริงว่ามีคนรู้จัก เป็นเพื่อนผู้ชายชาวอเมริกันที่เคยทำงานด้วยกัน
3. ไม่ได้กรอกแผนการเดินทางที่แน่นอนในฟอร์ม DS-160 แต่ก็ทำแผนเที่ยวไปด้วยเผื่อถูกถาม
4. ไม่ได้ให้เพื่อนชาวอเมริกันทำจดหมายเชิญใดๆ
5. นอกจากประเทศอเมริกา เคยเดินทางไปประเทศออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง จีน พม่า ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์
 .
สเต็ปสอง - การชำระเงินที่ธนาคารกรุงศรี
ทุกท่านสามารถหากระทู้แนะนำการกรอกแบบฟอร์ม ซึ่งมีชาวพันทิปหลายท่านทำกระทู้ได้ละเอียดดีมากค่ะ
ระหว่างที่กรอก DS-160 ก็สมัครในเว็บ https://portal.ustraveldocs.com/ เพื่อไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมและจองวันนัดสัมภาษณ์ไว้ก่อนเลย เพราะคิวแน่นมากค่ะ
 . 
สเต็ปสาม - การสัมภาษณ์
จขกท.นัดคิววันที่ 12 เมษายน เวลา 8.15 น. ไปถึงหน้าสถานฑูต คิดว่าเพราะส่วนใหญ่หยุดสงกรานต์กันแล้ว รถไม่ติด ไปถึงอย่างไว ตอน 7.30 น. ยังไม่มีการต่อแถวหน้าสถานฑูตเลย แป๊บนึงก็มีเจ้าหน้าที่เดินมาถามว่ามาเรื่องขอวีซ่าใช่ไหม แล้วพาไปรอหน้าประตู จึงมีเจ้าหน้าที่มาขอพาสปอร์ตเล่มล่าสุด ไปติด tracking number เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแจ้งว่าให้ปิดโทรศัพท์ด้วย จขกท.จึงขอถ่ายรูปตัว tracking number ที่แปะหลังเล่มพาสปอร์ตก่อนค่อยปิดโทรศัพท์  จากนั้นจึงผ่านเข้าประตูด้านหน้า ต้องใช้บัตรประชาชนเพื่อฝากโทรศัพท์ จขกท.ใช้กระเป๋าสะพายใบเล็กจึงเอาเข้าไปด้วยได้ค่ะ
 .
เดินผ่านประตูเข้าไปส่วนด้านในสถานฑูต เดินไปหน่อย จะมีเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่เคอยช็ครูปถ่ายว่าใช้ได้ไหม
ไปเข้าแถวเช็คพาสปอร์ตที่ Booth 15 แสกนลายนิ้วมือที่ Booth 11 // จากนั้นก็เข้าแถวเพื่อสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงสุล (Consular officer) ชาวอเมริกันเช้านี้เปิดทำการอยู่ 2 Booth คือ Booth 5 เป็นเจ้าหน้าที่กงสุลหนุ่ม ท่าทางใจดี และ Booth 8 เจ้าหน้าที่กงสุลเป็นสุภาพสตรีดูท่าทางใจดีเหมือนกัน
จขกท.ได้คิวสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงสุล Booth 5 จขกท.เดินเข้าไปพร้อมไหว้สวัสดีตามมารยาทไทยเลยค่ะ
.
สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดตามนี้ค่ะ
ระหว่างการสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่กงสุลมองหน้าจอคอมและพิมพ์บางอย่างไปด้วย สลับกับหันมองหน้าจขกท.เพื่อถามคำถาม
.
จขกท:  สวัสดีค่ะ (พร้อมยกมือไหว้), Good Morning. 
Consular officer:  Good Morning, How are you?
จขกท:  I'm good, and you?
Consular officer:  I'm fine, thanks. Your passport, please. 
จขกท:  All my passports? (จขกทเอาเล่มเก่าไปด้วยรวมเล่มล่าสุดก็ 5 เล่ม ซึ่งเล่มล่าสุดเพิ่งทำมาใหม่เลย)
Consular officer:  Just the current one. 
จขกท:  OK, this one. 

เจ้าหน้าที่กงสุลรับพาสปอร์ตไปดูและพิมพ์คอม แล้วหันมาถามไปด้วย 
Consular officer:  What do you do for a living? 
จขกท:  I'm xxx engineer. 
Consular officer:  Why do you want to go to United States?
จขกท:  I'd like to go for vacation and to visit my friend.
Consular officer:  Where?
จขกท:  Indiana.
Consular officer:  How did you know each other?
จขกท:  We used to work togerther in the same project in xxx, Thailand.
Consular officer:  OK. Your visa is approved.
 จขกท:  Thank you, ขอบคุณค่ะ. Have a nice day! (วินาทีนั้นรู้สึกงงๆ ว่า ผ่านแล้ว?? ถามแค่นี้เหรอ)
Consular officer:  Thanks, you too. ยิ้ม
 
เอกสารที่เตรียมไปทั้งหมดแต่เจ้าหน้าที่กงสุล ขอแต่ passport เล่มล่าสุดเท่านั้นค่ะ
1. พาสปอร์ต
2. รูปถ่ายสี ขนาด 2x2 นิ้ว จำนวน 1 ใบ (พื้นหลังสีขาว) - ส่งคืนมาให้พร้อมกับพาสปอร์ตที่มีวีซ่า
 .
เอกสารต่างๆ ที่เตรียมไป แต่เจ้าหน้าที่กงสุลไม่เรียกดูเลย
3. สำเนา ทะเบียนบ้าน - ไม่ดู
4. สำเนา บัตรประชาชน - ไม่ดู
5. ใบยืนยันการขอวีซ่าตามแบบฟอร์ม DS-160 (Print หลังจากลงทะเบียนข้อมูลในระบบออนไลน์) - ไม่ดู
6. ใบนัดสัมภาษณ์ (Print หลังจากลงทะเบียนนัดวันเวลาสัมภาษณ์ในระบบออนไลน์) - ไม่ดู
7. ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่าตัวจริง - ไม่ดู
8. แผนการเดินทาง แสดงว่าจะเดินทางไปเที่ยวที่ไหน เมืองอะไร พักที่ไหน - ไม่ดู
9. หลักฐานแสดงรายได้ ได้แก่ รายการเดินบัญชี (Bank Statement) และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร - ไม่ดู
10. หนังสือรับรองการทำงาน - ไม่ดู
11. สลิปเงินเดือนย้องหลัง 6 เดือน - ไม่ดู
 
จขกท.นัดสัมภาษณ์วันที่ 12 เมษายน สถานฑูตหยุดเทศกาลสงกรานต์ เปิดทำการวันที่ 17 เมษายน ได้รับพาสปอร์ตพร้อมวีซ่า วันที่ 18 เมษายน
 
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะคะ

เพี้ยนเย้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่