พอดีผมมานึกพิจารณาในอาการของสติกับสัมปชัญญะ ว่าเหมือนต่างกันยังไง ก็มาพิจารณาตามที่ได้ยินว่าสติก็เหมือนนายด่านคอยตรวจดูคนเข้าออก ดังนั้นสติก็คืออาการปิดกั้นอกุศล( เช่นปิดกั้นนิวรณ์ แต่ทางสมถะใช้วิธีกดข่มนิวรณ์) ถ้าแปลอาการของสติ ก็น่าจะเป็นการระลึกรู้ และการรู้ที่ว่านี้ก็คือมีปัญญารู้ ปัญญาก็คือรู้ในสิ่งที่เป็นกุศลและอกุศล
ส่วนสัมปชัญญะ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาเมื่อมีสติ และเมื่อกั้นอกุศลกั้นนิวรณ์ ก็จะมีสัมปชัญญะเกิดขึ้นตามมา(ตามแต่กำลังของสติและปัญญา) ถ้าจะแปลอาการของบสัมปชัญญะ ก็น่าจะเป็น ความรู้ตัว (จะแปลเป็นรู้สึกตัวทั่วพร้อมก็คงจะทำนองเดียวกัน)
สรุปว่าเมื่อมีสติ กั้นอกุศลนิวรณ์ก็จะเกิดสัมปชัญญะ ดำรงอยู่เฉพาะหน้าทุกขณะ เป็นปัจจุบันได้ และด้วยอาการนี้ก็จะเป็นได้ทั้งวิหารธรรมเครื่องอยู่หรือใช้ดำเนินทางวิปัสสนาได้สมบูรณ์ที่สุดได้
ไม่ทราบคิดเห็นยังไงกันบ้างครับ ถูกผิดยังไงบ้าง
สติ กับ สัมปชัญญะ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ส่วนสัมปชัญญะ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาเมื่อมีสติ และเมื่อกั้นอกุศลกั้นนิวรณ์ ก็จะมีสัมปชัญญะเกิดขึ้นตามมา(ตามแต่กำลังของสติและปัญญา) ถ้าจะแปลอาการของบสัมปชัญญะ ก็น่าจะเป็น ความรู้ตัว (จะแปลเป็นรู้สึกตัวทั่วพร้อมก็คงจะทำนองเดียวกัน)
สรุปว่าเมื่อมีสติ กั้นอกุศลนิวรณ์ก็จะเกิดสัมปชัญญะ ดำรงอยู่เฉพาะหน้าทุกขณะ เป็นปัจจุบันได้ และด้วยอาการนี้ก็จะเป็นได้ทั้งวิหารธรรมเครื่องอยู่หรือใช้ดำเนินทางวิปัสสนาได้สมบูรณ์ที่สุดได้
ไม่ทราบคิดเห็นยังไงกันบ้างครับ ถูกผิดยังไงบ้าง