วิปัสสนา คือ เห็นฯ/ สติทำลายอกุศลฯ(สติเกิดร่วมกับอกุศลไม่ได้)
ปล.(ส่วนตัว)เมื่อมีสติเกิดขึ้นจะมีปัญญาเกิดร่วมด้วยไหม! ใครว่าไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยมีไหม?
จริงอยู่ว่าสติมิได้ทำลายอกุศลโดยตรง!
เพราะมีสังขารธรรมอื่นๆเกิดร่วมด้วย เช่น
สัมปชัญญะ ปัญญา หรือการเห็นไตรลักษณ์
เครื่องหมาย "ฯ" หมายถึง ย่อไว้ หรือละไว้ในฐานที่เข้าใจ ต้องดูคลิปถ้าอยากรู้ส่วนที่ย่อไว้
/สติสัมปชัญญะ, สติปัญญา/
บางความเห็นก็ว่าปัญญาเป็นตัวตัด
ปัญญามีหลายระดับอย่างนั้นอย่างนี้
และว่ามีปัญญาต้องมีสติ
แต่มีสติอาจไม่มีปัญญา
ก็ขยายความออกไป ว่ากันไป
แต่ที่แน่ๆเมื่อมีสติ ขณะนั้นไม่เป็นอกุศล
ผู้มีปัญญาย่อมเลือกแฟ้นธรรม
และถือเอาส่วนที่เป็นมีประโยชน์กับตน
มองตนไม่เที่ยวมองผู้อื่น
ส่วนไหนเห็นว่าผิดก็ทิ้งไป
ที่ใช้ได้ก็เอาไปพิจารณา
#คำสาวกมันก็มีผิดปนเป็นธรรมดา
มีแต่พุทธวจน ที่บริสุทธิ์บริบูรณ์
E-Tipitaka
โปรแกรมตรวจหาและเทียบเคียง
พุทธวจนจากพระไตรปิฎก
http://etipitaka.com
แอพ/โปรแกรม รวบรวม
พระไตรปิฎก 7 ชุด ทั้ง ไทย/บาลี/โรมัน
รวมพุทธวจน 4 ชุด
https://youtu.be/MoCmG_TjFHs
ภิกษุ ท. ! อานาปานสติสมาธินี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มาก แล้ว ย่อมเป็นของรำงับ เป็นของประณีต เป็นของเย็น เป็นสุขวิหาร และ
ย่อมยังอกุศลธรรมอันลามก อันเกิดขึ้นแล้วและเกิดขึ้นแล้ว ให้อันตรธานไป ให้รำงับไป โดยควรแก่ฐานะ.
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนฝุ่นธุลีฟุ้งขึ้นแห่งเดือนสุดท้ายของฤดูร้อน ฝนหนักที่ผิดฤดูตกลงมา ย่อมทำฝุ่นธุลีเหล่านั้นให้อันตรธานไป ให้รำงับไปได้โดยควรแก่ฐานะ, ข้อนี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! อานาปานสติสมาธิ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ก็เป็นของประณีต เป็นของเย็น เป็นสุขวิหาร และย่อมยังอกุศลธรรมอันลามก ที่เกิดขึ้นแล้ว และเกิดขึ้นแล้ว ให้อันตรธานไปโดยควรแก่ฐานะได้ ฉันนั้น.
ภิกษุ ท. ! ก็อานาปานสติสมาธิ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว อย่างไรเล่า ? ที่เป็นของรำงับ เป็นของประณีต เป็นของเย็น เป็นสุขวิหารและย่อมยังอกุศลธรรมอันลามกที่เกิดขึ้นแล้ว และเกิดขึ้นแล้ว ให้อันตรธานไปโดยควรแก่ฐานะได้.
ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ไปแล้วสู่ป่าก็ตาม ไปแล้วสู่โคนไม้ก็ตาม ไปแล้วสู่เรือนว่างก็ตาม นั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบแล้ว ตั้งกายตรง ดำรงสติมั่น. ภิกษุนั้น ....ฯลฯ.... (ตรัสอานาปานสติ อันมีวัตถุ ๑๖ ) .... เห็นความสลัดคืนอยู่เป็นประจำ จักหายใจออก ดังนี้.
ภิกษุ ท. ! อานาปานสติสมาธิ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้วด้วยอาการอย่างนี้ ย่อมเป็นของรำงับ เป็นของประณีต เป็นของเย็น เป็นสุข
วิหาร และย่อมยังอกุศลธรรมอันลามก ที่เกิดขึ้นแล้ว และเกิดขึ้นแล้ว ให้อันตรธานไป โดยควรแก่ฐานะ ดังนี้ แล.
- มหาวาร. สํ. ๑๙/๔๐๗/๑๓๕๒ - ๑๓๕๔.
ปรุงดี ปรุงชั่ว ปรุงว่าง ตัวผู้รู้(สติปัญญา)
เหมือนเรืออย่าทำลายกลางน้ำ จะก้าวขึ้นฝั่งและขึ้นฝั่งแล้วก็อย่าแบกเรือไปด้วย
https://youtu.be/umK9uVRX0bM
https://youtu.be/dsM1_VDOG3o
มรรคคือบทศึกษา
https://youtu.be/UwndrzKN4bk
วิปัสสนา คือ เห็นฯ/ สติทำลายอกุศลฯ(สติเกิดร่วมกับอกุศลไม่ได้)
ปล.(ส่วนตัว)เมื่อมีสติเกิดขึ้นจะมีปัญญาเกิดร่วมด้วยไหม! ใครว่าไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยมีไหม?
จริงอยู่ว่าสติมิได้ทำลายอกุศลโดยตรง!
เพราะมีสังขารธรรมอื่นๆเกิดร่วมด้วย เช่น
สัมปชัญญะ ปัญญา หรือการเห็นไตรลักษณ์
เครื่องหมาย "ฯ" หมายถึง ย่อไว้ หรือละไว้ในฐานที่เข้าใจ ต้องดูคลิปถ้าอยากรู้ส่วนที่ย่อไว้
/สติสัมปชัญญะ, สติปัญญา/
บางความเห็นก็ว่าปัญญาเป็นตัวตัด
ปัญญามีหลายระดับอย่างนั้นอย่างนี้
และว่ามีปัญญาต้องมีสติ
แต่มีสติอาจไม่มีปัญญา
ก็ขยายความออกไป ว่ากันไป
แต่ที่แน่ๆเมื่อมีสติ ขณะนั้นไม่เป็นอกุศล
ผู้มีปัญญาย่อมเลือกแฟ้นธรรม
และถือเอาส่วนที่เป็นมีประโยชน์กับตน
มองตนไม่เที่ยวมองผู้อื่น
ส่วนไหนเห็นว่าผิดก็ทิ้งไป
ที่ใช้ได้ก็เอาไปพิจารณา
#คำสาวกมันก็มีผิดปนเป็นธรรมดา
มีแต่พุทธวจน ที่บริสุทธิ์บริบูรณ์
E-Tipitaka
โปรแกรมตรวจหาและเทียบเคียง
พุทธวจนจากพระไตรปิฎก
http://etipitaka.com
แอพ/โปรแกรม รวบรวม
พระไตรปิฎก 7 ชุด ทั้ง ไทย/บาลี/โรมัน
รวมพุทธวจน 4 ชุด
https://youtu.be/MoCmG_TjFHs
ภิกษุ ท. ! อานาปานสติสมาธินี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มาก แล้ว ย่อมเป็นของรำงับ เป็นของประณีต เป็นของเย็น เป็นสุขวิหาร และ
ย่อมยังอกุศลธรรมอันลามก อันเกิดขึ้นแล้วและเกิดขึ้นแล้ว ให้อันตรธานไป ให้รำงับไป โดยควรแก่ฐานะ.
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนฝุ่นธุลีฟุ้งขึ้นแห่งเดือนสุดท้ายของฤดูร้อน ฝนหนักที่ผิดฤดูตกลงมา ย่อมทำฝุ่นธุลีเหล่านั้นให้อันตรธานไป ให้รำงับไปได้โดยควรแก่ฐานะ, ข้อนี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! อานาปานสติสมาธิ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ก็เป็นของประณีต เป็นของเย็น เป็นสุขวิหาร และย่อมยังอกุศลธรรมอันลามก ที่เกิดขึ้นแล้ว และเกิดขึ้นแล้ว ให้อันตรธานไปโดยควรแก่ฐานะได้ ฉันนั้น.
ภิกษุ ท. ! ก็อานาปานสติสมาธิ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว อย่างไรเล่า ? ที่เป็นของรำงับ เป็นของประณีต เป็นของเย็น เป็นสุขวิหารและย่อมยังอกุศลธรรมอันลามกที่เกิดขึ้นแล้ว และเกิดขึ้นแล้ว ให้อันตรธานไปโดยควรแก่ฐานะได้.
ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ไปแล้วสู่ป่าก็ตาม ไปแล้วสู่โคนไม้ก็ตาม ไปแล้วสู่เรือนว่างก็ตาม นั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบแล้ว ตั้งกายตรง ดำรงสติมั่น. ภิกษุนั้น ....ฯลฯ.... (ตรัสอานาปานสติ อันมีวัตถุ ๑๖ ) .... เห็นความสลัดคืนอยู่เป็นประจำ จักหายใจออก ดังนี้.
ภิกษุ ท. ! อานาปานสติสมาธิ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้วด้วยอาการอย่างนี้ ย่อมเป็นของรำงับ เป็นของประณีต เป็นของเย็น เป็นสุข
วิหาร และย่อมยังอกุศลธรรมอันลามก ที่เกิดขึ้นแล้ว และเกิดขึ้นแล้ว ให้อันตรธานไป โดยควรแก่ฐานะ ดังนี้ แล.
- มหาวาร. สํ. ๑๙/๔๐๗/๑๓๕๒ - ๑๓๕๔.
ปรุงดี ปรุงชั่ว ปรุงว่าง ตัวผู้รู้(สติปัญญา)
เหมือนเรืออย่าทำลายกลางน้ำ จะก้าวขึ้นฝั่งและขึ้นฝั่งแล้วก็อย่าแบกเรือไปด้วย
https://youtu.be/umK9uVRX0bM
https://youtu.be/dsM1_VDOG3o
มรรคคือบทศึกษา
https://youtu.be/UwndrzKN4bk