การฝึกอานาปานสติสมาธิ ตามวิธีของพระพุทธเจ้าโดยตรง สำหรับผู้เริ่มต้น

ทรงแสดงอานาปานสติสมาธิกถา - พุทธวจน-อานาปานสติ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทรงแสดงอานาปานสติสมาธิกถา

[๑๗๘] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าสู่อุปัฏฐานศาลาประทับนั่งเหนือพุทธอาสน์ ที่จัดไว้ถวาย แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้สมาธิในอานาปานสตินี้แลอันภิกษุอบรมทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นคุณสงบ ประณีต เยือกเย็น อยู่เป็นสุข และยังบาปอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วๆ ให้อันตรธานสงบไปโดยฉับพลัน ดุจละอองและฝุ่นที่ฟุ้ง ขึ้นในเดือนท้ายฤดูร้อน ฝนใหญ่ที่ตกในสมัยมิใช่ฤดูกาล ย่อมยังละอองและฝุ่นนั้นๆ ให้อันตรธานสงบไปได้ โดยฉับพลัน ฉะนั้น

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อานาปานสติสมาธิ อันภิกษุอบรมอย่างไร ทำให้มากอย่างไร จึงเป็นคุณสงบ ประณีต เยือกเย็น อยู่เป็นสุข และยังบาปอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วๆ ให้อันตรธานสงบไปโดยฉับพลัน

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ อยู่ในป่าก็ตาม อยู่ ณ โคนไม้ก็ตาม อยู่ในสถานที่สงัดก็ตาม

นั่งคู้บัลลังก์ตั้งกายตรงดำรงสติบ่ายหน้าสู่กรรมฐาน

ภิกษุนั้นย่อมมีสติ  หายใจเข้า มีสติ  หายใจออก

เมื่อ หายใจเข้ายาว ก็รู้สึกว่า หายใจเข้ายาว หรือ

เมื่อ หายใจออกยาว ก็รู้สึกว่า หายใจออกยาว

เมื่อ หายใจเข้าสั้น ก็รู้สึกว่า หายใจเข้าสั้น หรือ

เมื่อ หายใจออกสั้น ก็รู้สึกว่า หายใจออกสั้น

ย่อมสำเหนียกว่า  เราจักรู้แจ้งซึ่งกองลมทั้งปวง  หายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า  เราจักรู้แจ้งซึ่งกองลมทั้งปวง  หายใจออก

ย่อมสำเหนียกว่า  เราจักระงับกายสังขาร หายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า  เราจักระงับกายสังขาร  หายใจออก

ย่อมสำเหนียกว่า  เราจักรู้แจ้งซึ่งปีติ  หายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า  เราจักรู้แจ้งซึ่งปีติ  หายใจออก

ย่อมสำเหนียกว่า  เราจักรู้แจ้งซึ่งสุข  หายใจเข้า  ย่อมสำเหนียกว่า เราจักรู้แจ้งซึ่งสุข  หายใจออก

ย่อมสำเหนียกว่า เราจักรู้แจ้งซึ่งจิตสังขาร  หายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า เราจักรู้แจ้งซึ่งจิตสังขาร  หายใจออก

ย่อมสำเหนียกว่า เราจักระงับจิตสังขาร  หายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า เราจักระงับจิตสังขาร  หายใจออก

ย่อมสำเหนียกว่า เราจักรู้แจ้งซึ่งจิต  หายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า เราจักรู้แจ้งซึ่งจิต  หายใจออก

ย่อมสำเหนียกว่า เราจักยังจิตให้บันเทิง  หายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า เราจักยังจิตให้บรรเทิง  หายใจออก

ย่อมสำเหนียกว่า เราจักตั้งจิตไว้มั่น  หายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า เราจักตั้งจิตไว้มั่น  หายใจออก

ย่อมสำเหนียกว่า เราจักปล่อยจิต  หายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า เราจักปล่อยจิต  หายใจออก

ย่อมสำเหนียกว่า เราจักพิจารณาเห็นธรรมอันไม่เที่ยง  หายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า เราจักพิจารณาเห็นธรรมอันไม่เที่ยง หายใจออก

ย่อมสำเหนียกว่า เราจักพิจารณาเห็นวิราคะ  หายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า เราจักพิจารณาเห็นวิราคะ  หายใจออก

ย่อมสำเหนียกว่า เราจักพิจารณาเห็นนิโรธ  หายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า เราจักพิจารณาเห็นนิโรธ  หายใจออก

ย่อมสำเหนียกว่า เราจักพิจารณาเห็นปฏินิสสัคคะ  หายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า เราจักพิจารณาเห็นปฏินิสสัคคะ  หายใจออก

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติสมาธิ อันภิกษุอบรมแล้วอย่างนี้แล ทำให้มากแล้วอย่างนี้แล จึงเป็นคุณสงบ ประณีต เยือกเย็น อยู่เป็นสุข และยังบาปอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ๆ ให้อันตรธานสงบไปได้โดยฉับพลัน.

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑
พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑

หน้าที่ ๒๙๐ ถึง ๒๙๑ /๗๕๔
ข้อที่ ๑๗๘



หรือเยี่ยมชมบล็อกที่  http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=faraday&month=15-02-2013&group=4&gblog=43

ทราบว่ามีท่านที่ฝึก อานาปานสติ กันมาจากสำนักสอนต่าง ๆ กันไป
เพื่อเป็นประโยชน์ร่วมกัน ขอทราบความคิดเห็นว่า เหมือนหรือต่างกันกับที่นำเสนอมาในกระทู้นี้อย่างไรบ้าง
อันจะทำให้ท่านที่ได้เข้ามาอ่าน ฟัง ได้รับทราบ ได้เรียนรู้ร่วมกันไปในคราวเดียวกัน
อันจะเป็นประโยชน์เกิดกับทุกท่าน ทุกคนที่สนใจร่วมกันในการฝึก อานาปานสติ ต่อไป

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่