๓
ปาร์ตี้แสนกร่อย
เย็นย่ำของวันอาทิตย์ที่ ๒๑ ม.ค.๒๕๖๗ เพลาประมาณ ๑๖ นาฬิกาเศษ ข้าพเจ้าเผลองีบหลับบนเตียงนอนเก่าๆในห้องเช่าชั้น ๒ ห้อง ๒๐๖ ห้องเช้านี้เป็นตึกสูง ๔ ชั้น ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีบางบัว ชานกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ข้าพเจ้าได้ทำสัญญาเช่าเมื่อตุลาคมปีกลาย และอาศัยอยู่เรื่อยมาจวบจนปรัตยุบัน
เนื่องด้วยข้าพเจ้ากำลังศึกษาต่อปริญญาตรีใบที่ ๒ โดยเลือกศึกษาที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สาขาโทรทัศน์ ซึ่งจะต้องสอบไล่ในวันที่ ๒๘ ม.ค.ศกนี้แล้ว ข้าพเจ้าจึงอ่านหนังสือสอบจนผล็อยหลับไปแลเป็นเหตุให้ฝันในเรื่องราวที่จาจาระไนถัดไป
ข้าพเจ้าหลงเข้าไปอยู่ในงานปาร์ตี้แห่ง๑ สันนิษฐานว่าคงได้รับเชิญจาก “น้าวี” นักจัดรายการวิทยุชื่อดังท่านหนึ่ง
น้าวีเป็นนักจัดรายการวิทยุที่สถานีวิทยุแห่งหนึ่งแถวพระราม๙ รายการของน้าวีเป็นรายการด้านเศรษฐกิจ โดยออกอากาศให้ฟังทางหน้าปัดวิทยุ เย็นย่ำค่ำวันธรรมดา แลข้าพเจ้าเป็นแฟนรายการน้าวีมาปีกว่าเห็นจักได้ ทั้งยังมีโอกาสพูดคุยกับท่านบ้างทาง Facebook ซึ่งก็ค่อนข้างคุยถูกคออยู่พอสมควร จึงได้รับเชิญจากน้าวีให้มางานปาร์ตี้ที่ท่านเองเป็นเจ้าภาพงาน
ภาพฝันที่ข้าพเจ้าประจักษ์ ข้าพเจ้าจำได้แม่นเทียวว่ามีบุคคลกำลังสนทนากัน ๓ คน คน๑คือน้าวี ซึ่งอยู่ในชุดสูทสีดำ กางเกงสแล็กสีดำ มีหูกระต่ายสีแดง ชุดของน้าวีมิได้ออกแบบมาให้ “ผู้ชาย”สวมใส่ หากแต่ออกแบบมาเพื่อ “เพศที่สาม” อันเป็นเพศสภาพที่แท้จริงของน้าวี
นอกจากน้าวีจักยืนอยู่ในวงสนทนา ก็ปรากฏหญิงชราผมหยิกสีดอกเลาท่าน๑ สวมชุดผ้าไหมเสื้อกระดุมจีนสีชมพู กระโปรงยาวเทียมเข่าสีเข้ากันกับเสื้อ เป็นการคุมโทน รองเท้าส้นสูงสีออกแดงๆ ส่วนบุคคลที่สามนั้นจักเป็นใครไม่ได้เลยนอกจากตัวของข้าพเจ้าเอง
ข้าพเจ้าผู้แต่งตัวไม่เป็น มาในชุดเสื้อสูทสีชมพู เสื้อชั้นในเป็นเสื้อยืดสีดำ ใส่กางเกงสแล็กสีดำ รองเท้าคัทชูสีดำ ดูเหมือนว่าในวงสนทนา หญิงชราท่านนั้นกำลังถามคำถามข้าพเจ้าด้วยศัพท์แสงที่ยากเกินจักเข้าใจ มันเป็นภาษาไทยคำอังกฤษคำที่พวกนักวิชาการเขาชอบใช้กัน แลคำถามก็ยาวป็นหางว่าวจนข้าพเจ้าหน้าซีดแลไม่สามารถตอบคำถามของหญิงชราท่านนั้นได้
ทันใดนั้นสิ่งสุดคาดคิดพลันเกิดขึ้น ด๊อกเตอร์หญิงแก่ชราผู้นั้นก็เหวี่ยงวีนใส่ข้าพเจ้า แล้วเดินออกจากวงสนทนาในบัดดล ยังผลให้น้าวีรู้สึกเสียหน้าเป็นอันมาก ท่านจึงมาตำหนิข้าพเจ้าด้วยการพูดภาษาไทยสำเนียง “ออกสาว”
“คุณทวีโรจน์...คุณจ๊ะ...คุณมันไม่มีการศึกษา!!!”
ผู้ฟังได้ยินแล้วมีน้ำโหจึงกึ่งพูดกึ่งตวาดไปว่า
“น้าวีจะให้ผมจบ ป.โท รึไง จึงจะเรียกว่า มีการศึกษา!!!”
พูดจบข้าพเจ้าก็เดินออกไปจากตรงที่น้าวียืนอยู่ แล้วมุ่งไปที่โต๊ะบาร์ ซึ่งมี “สาวบาร์เทนเดอร์” คอยชงเครื่องดื่มอยู่ตรงนั้น
งานปาร์ตี้ถูกจัดในโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งมีห้องจัดเลี้ยงที่กว้างขวางแขกที่มาในงานนี้ไม่ได้มีแต่คนไทยเท่านั้น มีคนจีน ฝรั่ง แลอีกมากมาย คนจากสถานทูตประเทศต่างๆก็มา เพราะน้าวีท่านเป็นคนกว้างขวาง เป็นลูกครึ่งไทย-อินเดีย เคยไปเรียนถึงประเทศสหรัฐอเมริกา จึงไม่แปลกที่งานเลี้ยงของท่านจักมีอาคันตุกะต่างชาติจำนวนมาก
ด้วยพื้นที่จัดเลี้ยงอันกว้างขวางดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าจึงเดินราวๆ ๕๐ เมตร กว่าจะถึงบริเวณโต๊ะบาร์ที่มีชั้นวางสุราเรียงรายหลายยี่ห้อ หน้าชั้นวางนั้นมีบาร์เทนเดอร์สาวสวยอายุราว ๒๐ ต้นๆ กำลังยืนชงเครื่องดื่มในชุดสูทกางเกงสีดำ สูทสีดำมีเสื้อยืดชั้นในสีขาว มีหูกระต่ายสีดำ ทำให้ดูตัดกัน มันคือสูทผู้ชายดีๆที่ผู้หญิงสวมใส่ก็เท่ไปอีกแบบ
ข้าพเจ้าเดินไปอยู่ตรงข้ามสตรีผู้นั้น เจ้าหล่อนยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวสวยเรียงรายดุจเม็ดข้าวโพด หล่อนสวัสดีข้าพเจ้า
“สวัสดีค่ะ...รับอะไรดีคะ?”
“ผมเอาอเมริกาโนเย็นไม่หวานแก้วนึงครับ”
“รอสักครู่นะคะพี่”
เจ้าหล่อนกำลังเตรียมเครื่องชงกาแฟอย่างุว่นวายโกลาหล คงเพราะไม่ค่อยมีใครมาสั่งกาแฟกันตรงนี้กระมัง พวกคนส่วนใหญ่เขาคงมาสั่งเหล้าจำพวก “ออนเดอะร็อก” “ไหมไทย” “โมฮีโต้” เสียมากกว่า มิทราบข้าพเจ้านึกครึ้มอะไรกันหนอจึงปรารถนากาแฟในเพลานี้
เมื่อกระบวนการชงใกล้เสร็จ หล่อนกำลังรินกาแฟเย็นใส่แก้วที่มีน้ำแข็งบรรจุไว้แล้ว ข้าพเจ้าซึ่งยืนรออยู่อย่างใจจดใจจ่อก็รีบพูดให้เจ้าหล่อนหันมาสนใจ
“ขอใส่เหล้าเข้าไปในกาแฟได้ไหม?”
“ด...ได้ค่ะ”
แล้วหล่อนก็เอาเหล้ารัม รินลงไปในอเมริกาโน่เย็น แต่ไม่ทันที่ข้าพเจ้าจักดื่มมัน ข้าพเจ้าก็ตื่นขึ้นเสียก่อนในเวลา ๑๘ นาฬิกาเศษ
เช้าวันถัดมาข้าพเจ้ารีบบอกน้าวีทาง Facebook ถึงเรื่องราวที่ข้าพเจ้าฝัน น้าวีถึงขั้นอุทานว่า
“ว้ายยยยยยยยยยยย”
จ๊ะ เสือไบ
๒๒ ม.ค. ๒๕๖๗
เรื่องสั้น ชุด "ฝัน STory" ตอน ปาร์ตี้แสนกร่อย (โดย จ๊ะ เสือไบ)
เนื่องด้วยข้าพเจ้ากำลังศึกษาต่อปริญญาตรีใบที่ ๒ โดยเลือกศึกษาที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สาขาโทรทัศน์ ซึ่งจะต้องสอบไล่ในวันที่ ๒๘ ม.ค.ศกนี้แล้ว ข้าพเจ้าจึงอ่านหนังสือสอบจนผล็อยหลับไปแลเป็นเหตุให้ฝันในเรื่องราวที่จาจาระไนถัดไป
ข้าพเจ้าหลงเข้าไปอยู่ในงานปาร์ตี้แห่ง๑ สันนิษฐานว่าคงได้รับเชิญจาก “น้าวี” นักจัดรายการวิทยุชื่อดังท่านหนึ่ง
น้าวีเป็นนักจัดรายการวิทยุที่สถานีวิทยุแห่งหนึ่งแถวพระราม๙ รายการของน้าวีเป็นรายการด้านเศรษฐกิจ โดยออกอากาศให้ฟังทางหน้าปัดวิทยุ เย็นย่ำค่ำวันธรรมดา แลข้าพเจ้าเป็นแฟนรายการน้าวีมาปีกว่าเห็นจักได้ ทั้งยังมีโอกาสพูดคุยกับท่านบ้างทาง Facebook ซึ่งก็ค่อนข้างคุยถูกคออยู่พอสมควร จึงได้รับเชิญจากน้าวีให้มางานปาร์ตี้ที่ท่านเองเป็นเจ้าภาพงาน
ภาพฝันที่ข้าพเจ้าประจักษ์ ข้าพเจ้าจำได้แม่นเทียวว่ามีบุคคลกำลังสนทนากัน ๓ คน คน๑คือน้าวี ซึ่งอยู่ในชุดสูทสีดำ กางเกงสแล็กสีดำ มีหูกระต่ายสีแดง ชุดของน้าวีมิได้ออกแบบมาให้ “ผู้ชาย”สวมใส่ หากแต่ออกแบบมาเพื่อ “เพศที่สาม” อันเป็นเพศสภาพที่แท้จริงของน้าวี
นอกจากน้าวีจักยืนอยู่ในวงสนทนา ก็ปรากฏหญิงชราผมหยิกสีดอกเลาท่าน๑ สวมชุดผ้าไหมเสื้อกระดุมจีนสีชมพู กระโปรงยาวเทียมเข่าสีเข้ากันกับเสื้อ เป็นการคุมโทน รองเท้าส้นสูงสีออกแดงๆ ส่วนบุคคลที่สามนั้นจักเป็นใครไม่ได้เลยนอกจากตัวของข้าพเจ้าเอง
ข้าพเจ้าผู้แต่งตัวไม่เป็น มาในชุดเสื้อสูทสีชมพู เสื้อชั้นในเป็นเสื้อยืดสีดำ ใส่กางเกงสแล็กสีดำ รองเท้าคัทชูสีดำ ดูเหมือนว่าในวงสนทนา หญิงชราท่านนั้นกำลังถามคำถามข้าพเจ้าด้วยศัพท์แสงที่ยากเกินจักเข้าใจ มันเป็นภาษาไทยคำอังกฤษคำที่พวกนักวิชาการเขาชอบใช้กัน แลคำถามก็ยาวป็นหางว่าวจนข้าพเจ้าหน้าซีดแลไม่สามารถตอบคำถามของหญิงชราท่านนั้นได้
ทันใดนั้นสิ่งสุดคาดคิดพลันเกิดขึ้น ด๊อกเตอร์หญิงแก่ชราผู้นั้นก็เหวี่ยงวีนใส่ข้าพเจ้า แล้วเดินออกจากวงสนทนาในบัดดล ยังผลให้น้าวีรู้สึกเสียหน้าเป็นอันมาก ท่านจึงมาตำหนิข้าพเจ้าด้วยการพูดภาษาไทยสำเนียง “ออกสาว”
“คุณทวีโรจน์...คุณจ๊ะ...คุณมันไม่มีการศึกษา!!!”
ผู้ฟังได้ยินแล้วมีน้ำโหจึงกึ่งพูดกึ่งตวาดไปว่า
“น้าวีจะให้ผมจบ ป.โท รึไง จึงจะเรียกว่า มีการศึกษา!!!”
พูดจบข้าพเจ้าก็เดินออกไปจากตรงที่น้าวียืนอยู่ แล้วมุ่งไปที่โต๊ะบาร์ ซึ่งมี “สาวบาร์เทนเดอร์” คอยชงเครื่องดื่มอยู่ตรงนั้น
งานปาร์ตี้ถูกจัดในโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งมีห้องจัดเลี้ยงที่กว้างขวางแขกที่มาในงานนี้ไม่ได้มีแต่คนไทยเท่านั้น มีคนจีน ฝรั่ง แลอีกมากมาย คนจากสถานทูตประเทศต่างๆก็มา เพราะน้าวีท่านเป็นคนกว้างขวาง เป็นลูกครึ่งไทย-อินเดีย เคยไปเรียนถึงประเทศสหรัฐอเมริกา จึงไม่แปลกที่งานเลี้ยงของท่านจักมีอาคันตุกะต่างชาติจำนวนมาก
ด้วยพื้นที่จัดเลี้ยงอันกว้างขวางดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าจึงเดินราวๆ ๕๐ เมตร กว่าจะถึงบริเวณโต๊ะบาร์ที่มีชั้นวางสุราเรียงรายหลายยี่ห้อ หน้าชั้นวางนั้นมีบาร์เทนเดอร์สาวสวยอายุราว ๒๐ ต้นๆ กำลังยืนชงเครื่องดื่มในชุดสูทกางเกงสีดำ สูทสีดำมีเสื้อยืดชั้นในสีขาว มีหูกระต่ายสีดำ ทำให้ดูตัดกัน มันคือสูทผู้ชายดีๆที่ผู้หญิงสวมใส่ก็เท่ไปอีกแบบ
ข้าพเจ้าเดินไปอยู่ตรงข้ามสตรีผู้นั้น เจ้าหล่อนยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวสวยเรียงรายดุจเม็ดข้าวโพด หล่อนสวัสดีข้าพเจ้า
“สวัสดีค่ะ...รับอะไรดีคะ?”
“ผมเอาอเมริกาโนเย็นไม่หวานแก้วนึงครับ”
“รอสักครู่นะคะพี่”
เจ้าหล่อนกำลังเตรียมเครื่องชงกาแฟอย่างุว่นวายโกลาหล คงเพราะไม่ค่อยมีใครมาสั่งกาแฟกันตรงนี้กระมัง พวกคนส่วนใหญ่เขาคงมาสั่งเหล้าจำพวก “ออนเดอะร็อก” “ไหมไทย” “โมฮีโต้” เสียมากกว่า มิทราบข้าพเจ้านึกครึ้มอะไรกันหนอจึงปรารถนากาแฟในเพลานี้
เมื่อกระบวนการชงใกล้เสร็จ หล่อนกำลังรินกาแฟเย็นใส่แก้วที่มีน้ำแข็งบรรจุไว้แล้ว ข้าพเจ้าซึ่งยืนรออยู่อย่างใจจดใจจ่อก็รีบพูดให้เจ้าหล่อนหันมาสนใจ
“ขอใส่เหล้าเข้าไปในกาแฟได้ไหม?”
“ด...ได้ค่ะ”
แล้วหล่อนก็เอาเหล้ารัม รินลงไปในอเมริกาโน่เย็น แต่ไม่ทันที่ข้าพเจ้าจักดื่มมัน ข้าพเจ้าก็ตื่นขึ้นเสียก่อนในเวลา ๑๘ นาฬิกาเศษ
เช้าวันถัดมาข้าพเจ้ารีบบอกน้าวีทาง Facebook ถึงเรื่องราวที่ข้าพเจ้าฝัน น้าวีถึงขั้นอุทานว่า
“ว้ายยยยยยยยยยยย”