ปฐมฌานในสัมมาสมาธิ เป็นอย่างไร?
สำหรับตัวผมเมื่อจิตสงบรวมเป็นสัมมาสมาธิ (ปฐมฌาน-อรูปฌาน) จะปรากฏ เอกัคคตา คือ ความตั้งมั่นรวมเป็นหนึ่งของจิต ซึ่งจะไม่ปรากฏหรือปรากฏน้อยมากในขณิกและอุปจารสมาธิ ปฐมฌานในสัมมาสมาธิประกอบด้วยองค์ฌาน 5 คือ วิตก วิจารณ์ ปีติ สุขและเอกัคคตา หากไม่ครบ 5 องค์ยังไม่เป็นสัมมาสมาธิ
ในปฐมฌาน เอกัคคตา จิตจะตั้งมั่นใน วิตก วิจารณ์ (มีปีติ สุข แต่จิตตั้งมั่นใน วิตก วิจารณ์มากกว่า) เช่น ทำอานาปานสติ จิตจะตั้งมั่นรู้ลมหายใจเข้า-ออก
หรือภาวนาพุทโธ ก็จะภาวนาพุทโธเป็นสายไม่สอดส่ายไปในนิวรณ์ 5 คือ ความใคร่ในกาม ความโกรธปองร้ายผู้อื่น ความง่วงหดหู่ใจ ความคิดฟุ้งซ่านรำคาญใจ และความลังเลสงสัยใดๆ อาการเหล่านี้จะไม่ปรากฏเลยในสัมมาสมาธิ (ปฐมฌาน-อรูปฌาน)
ข้อสังเกตุอีกประการ เมื่อถึงปฐมฌาน จิตจะแยกออกจากกาย 25% ทุติยฌาน 50% ตติยฌาน 75% จตุตถฌานและอรูปฌาน 100% ไปตั้งมั่นที่จิตแทน จิตจะเห็นจิตได้ชัดเจนที่สุดในจตุตถฌาน ดังนั้น เมื่อจิตแยกออกจากกายที่ปฐมฌาน จะไม่สามารถออกจากสมาธิได้ทันที หรือไม่ควรปลุกผู้เข้าปฐมฌานขึ้นไป จะต้องให้ผู้ทำสมาธิคลายออกจากสมาธิเองให้จิตกับมารวมกับกายที่อุปจารสมาธิ
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต เคยสอนผมตอนนั่งฟังธรรมแล้วจิตรวมเป็นปฐมฌาน ท่านกล่าวว่า เมื่อจิตรวมเป็นปฐมฌาน จะยังได้ยินเสียงธรรมที่เทศน์สอนอยู่ แต่ไม่ไปทำลายความสงบของจิตเลย คือ ฟังเข้าหูแต่ไม่เข้าสมอง (ไม่เกิดความคิดฟุ้งซ่านปรุงแต่ง) แต่ธรรมเข้าไปที่จิตใจโดยตรง จิตจะตั้งมั่นอยู่กับลมหายใจเข้า-ออก เมื่อออกจากสมาธิจะไม่รู้ว่าเทศน์เรื่องอะไร เพราะจิตตั้งมั่นอยู่กับลมหายใจ เมื่อจิตเข้าปฐมฌานอย่าพยายามออกจากสมาธิทันทีหรือมีคนมาปลุก ต้องให้จิตคลายออกจากสมาธิเอง หากออกจากสมาธิทันทีครั้งต่อๆไป จิตจะสงบรวมเป็นปฐมฌานได้ยาก
ปฐมฌานในสัมมาสมาธิ เป็นอย่างไร?
สำหรับตัวผมเมื่อจิตสงบรวมเป็นสัมมาสมาธิ (ปฐมฌาน-อรูปฌาน) จะปรากฏ เอกัคคตา คือ ความตั้งมั่นรวมเป็นหนึ่งของจิต ซึ่งจะไม่ปรากฏหรือปรากฏน้อยมากในขณิกและอุปจารสมาธิ ปฐมฌานในสัมมาสมาธิประกอบด้วยองค์ฌาน 5 คือ วิตก วิจารณ์ ปีติ สุขและเอกัคคตา หากไม่ครบ 5 องค์ยังไม่เป็นสัมมาสมาธิ
ในปฐมฌาน เอกัคคตา จิตจะตั้งมั่นใน วิตก วิจารณ์ (มีปีติ สุข แต่จิตตั้งมั่นใน วิตก วิจารณ์มากกว่า) เช่น ทำอานาปานสติ จิตจะตั้งมั่นรู้ลมหายใจเข้า-ออก
หรือภาวนาพุทโธ ก็จะภาวนาพุทโธเป็นสายไม่สอดส่ายไปในนิวรณ์ 5 คือ ความใคร่ในกาม ความโกรธปองร้ายผู้อื่น ความง่วงหดหู่ใจ ความคิดฟุ้งซ่านรำคาญใจ และความลังเลสงสัยใดๆ อาการเหล่านี้จะไม่ปรากฏเลยในสัมมาสมาธิ (ปฐมฌาน-อรูปฌาน)
ข้อสังเกตุอีกประการ เมื่อถึงปฐมฌาน จิตจะแยกออกจากกาย 25% ทุติยฌาน 50% ตติยฌาน 75% จตุตถฌานและอรูปฌาน 100% ไปตั้งมั่นที่จิตแทน จิตจะเห็นจิตได้ชัดเจนที่สุดในจตุตถฌาน ดังนั้น เมื่อจิตแยกออกจากกายที่ปฐมฌาน จะไม่สามารถออกจากสมาธิได้ทันที หรือไม่ควรปลุกผู้เข้าปฐมฌานขึ้นไป จะต้องให้ผู้ทำสมาธิคลายออกจากสมาธิเองให้จิตกับมารวมกับกายที่อุปจารสมาธิ
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต เคยสอนผมตอนนั่งฟังธรรมแล้วจิตรวมเป็นปฐมฌาน ท่านกล่าวว่า เมื่อจิตรวมเป็นปฐมฌาน จะยังได้ยินเสียงธรรมที่เทศน์สอนอยู่ แต่ไม่ไปทำลายความสงบของจิตเลย คือ ฟังเข้าหูแต่ไม่เข้าสมอง (ไม่เกิดความคิดฟุ้งซ่านปรุงแต่ง) แต่ธรรมเข้าไปที่จิตใจโดยตรง จิตจะตั้งมั่นอยู่กับลมหายใจเข้า-ออก เมื่อออกจากสมาธิจะไม่รู้ว่าเทศน์เรื่องอะไร เพราะจิตตั้งมั่นอยู่กับลมหายใจ เมื่อจิตเข้าปฐมฌานอย่าพยายามออกจากสมาธิทันทีหรือมีคนมาปลุก ต้องให้จิตคลายออกจากสมาธิเอง หากออกจากสมาธิทันทีครั้งต่อๆไป จิตจะสงบรวมเป็นปฐมฌานได้ยาก