แนวร่วมพรรคการเมืองนานาชาติแถลงการณ์ กังวลต่อการยุบพรรคก้าวไกล หวั่นเป็น ‘รัฐประหารโดยตุลาการ’
https://thestandard.co/concerned-about-the-dissolution-of-mfp/
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เครือข่าย Progressive Alliance ที่เป็นแนวร่วมของพรรคการเมืองจากหลายประเทศที่มีแนวคิดในเชิงก้าวหน้า ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับความถดถอยทางประชาธิปไตย และการปราบปรามพรรคการเมืองฝ่ายค้านในประเทศไทย โดยเนื้อหาระบุว่า
“เราผู้ลงนามในที่นี้ ขอแสดงความวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแห่งประเทศไทยที่ระบุว่า แผนของพรรคก้าวไกลในการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น เป็นการพยายามโค่นล้มรัฐบาลและประมุขแห่งรัฐของประเทศไทย คำตัดสินนี้เป็นการแทรกแซงการทำงานของรัฐสภาอย่างโจ่งแจ้ง และเป็นการละเมิดหลักการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตย
“คำตัดสินของศาลในครั้งนี้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมว่า ระบอบดังกล่าวจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อกดขี่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่งที่ระบบตุลาการของไทยถูกนำมาใช้เพื่อคุกคามพรรคฝ่ายค้านหลัก ซึ่งอาจถือเป็น ‘รัฐประหารโดยตุลาการ’ หากศาลตัดสินให้ยุบพรรคก้าวไกล แม้ว่ารัฐบาลปัจจุบันจะอ้างว่ามาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยและเคารพหลักนิติธรรม แต่เห็นได้ชัดว่าไม่เป็นความจริง และระบอบนี้ได้ละทิ้งทุกข้ออ้างถึงหลักการประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมไปโดยสิ้นเชิง
“เรากังวลว่าการดำเนินการครั้งนี้ รวมถึงการจับกุม การดำเนินคดี และการตัดสินโทษนักเคลื่อนไหวและนักการเมืองที่สนับสนุนประชาธิปไตยในประเทศไทย จะเป็นบ่วงรัดประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศ ประชาชนชาวไทยมีสิทธิในการชุมนุมอย่างสงบ การแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมทางการเมือง เราเกรงว่าในท้ายที่สุด การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล และการปิดกั้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองในประเทศ
“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฝ่ายตุลาการยุบพรรคการเมืองที่ก้าวหน้า พรรคอนาคตใหม่ซึ่งมาก่อนพรรคก้าวไกลก็ถูกยุบด้วยเหตุผลคล้ายกัน เพื่อสกัดกั้นการเติบโตของขบวนการก้าวหน้า และปิดปากนักวิจารณ์ทางการเมือง แม้จะพบกับอุปสรรคนี้ เรายังคงยืนยันความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับมิตรสหายในพรรคก้าวไกล และขบวนการก้าวหน้าและประชาธิปไตยในประเทศไทย การต่อสู้ของพวกเขาเพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตย และปฏิรูประบบการเมืองเพื่อประโยชน์ของทุกภาคส่วนของสังคมก็เป็นการต่อสู้ของเราด้วย
“ในฐานะผู้ก้าวหน้าและสังคมนิยมที่มุ่งมั่นต่อประชาธิปไตย เสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และความสามัคคีระหว่างประเทศ เรามองว่าการถดถอยทางการเมืองในประเทศไทยนี้เป็นอุปสรรคที่ตัดสิทธิคนนับล้านที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงผ่านการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2023 เราขอสนับสนุนให้ผู้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยยังคงร่วมกันปกป้องสิทธิมนุษยชน ท่ามกลางบททดสอบใหม่ๆ ต่อประชาธิปไตยไทย”
ทั้งนี้ ท้ายแถลงการณ์ได้ลงนามชื่อพรรคการเมืองต่างๆ จากเกือบ 30 ประเทศ อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็มได้ทาง:
https://progressive-alliance.info/2024/05/28/statement-on-the-regression-of-democracy-and-suppression-of-political-opposition-in-thailand/?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR0TNvdc3hBuSJj-oWHS1elZyhUK5t8WSlL4-XnOVlxrQFGS6mpdkvYOJvk_aem_AWY7a0b-w2ARnBulS2M1QZt_meL_r_0BO8koe0XFveHjHXcwYHOXDTL4mnEWkxBNkwPPbUJc_DHw9r-76KWamLCz
ก้าวไกลเตรียมแถลง สู้คดียุบพรรค 9 มิ.ย.นี้ ยันไม่ได้ล้มล้างการปกครอง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4607378
ก้าวไกลเตรียมแถลง สู้คดียุบพรรค 9 มิ.ย.นี้ ยันไม่ได้ล้มล้างการปกครอง
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยื่นคำชี้แจงต่อสู้คดีล้มล้างการปกครองของพรรค ก.ก. ต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ตามกระบวนการเราจะยื่นในวันที่ 4 มิถุนายน คาดว่าจะมีการแถลงแนวทางการต่อสู้ รวมถึงการเผยแพร่เอกสาร ที่เราได้ยื่นต่อศาลในวันที่ 9 มิถุนายน โดยแนวทางในการต่อสู้เราตั้งใจจะแถลงในวันนั้นทีเดียว ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ทำเต็มที่ในสิ่งที่เราทำได้ เพื่อยืนยันแนวทางการต่อสู้คดีของเรา โดยทั้งนี้ ทาง ส.ส.ของเราก็เตรียมงานในสภาอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน ทั้งในเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประชามติ และการประชุมงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568
เมื่อถามว่าความรู้สึกของคนในพรรคที่มีต่อการสู้คดียังคงดีอยู่ใช่หรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า เราก็ทำเต็มที่ในการปกป้องพรรค เรายังมองว่านี่คือภารกิจสำคัญที่ไม่ใช่เฉพาะการปกป้องพรรค แต่มันเป็นการยืนยันหลักการที่เราเห็นว่าถูกต้องอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้เราเสียสมาธิในการทำงานด้านอื่นๆ โดยเฉพาะงานในส่วนของสภา ขอยืนยันว่าเรายังคงเดินหน้าเต็มที่เป็นเอกภาพ
ผู้สมัครส.ว.โวย กกต.มั่วคุณสมบัติกลุ่มอาชีพ หวั่นเปิดช่องฮั้วแหลก
https://www.matichon.co.th/politics/thai-senate-2024/news_4607210
ผู้สมัครส.ว.โวย กกต.มั่วคุณสมบัติกลุ่มอาชีพ หวั่นเปิดช่องฮั้วแหลก
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนของผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดเลย รายหนึ่ง เผยว่า ตนไม่มั่นใจกับการทำงานของ กกต.เท่าไรนัก เริ่มตั้งแต่ตั้งกฎระเบียบขั้นตอนของการรับสมัคร การมารับสมัครของตนครั้งนี้ เพื่อต้องการทราบว่า การคัดเลือกและระเบียบแปลกๆ ที่สุดในโลกจะเป็นยังไง ปัจจุบันได้ผ่านขั้นตอนตรวจคุณสมบัติ และมีการตัดสิทธิของผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติไป แต่ที่ยังติดใจประเด็นเรื่องของคุณสมบัติของกลุ่มผู้ประกอบอาชีพ ที่ กกต.แบ่ง 20 กลุ่มอาชีพ หลังจาก กกต.ได้มีเอกสารแนะนำตัวออกมา ตนไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้ออกมาได้ยังไง
ผู้สมัคร ส.ว.บางรายอย่างกลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ได้แก่ ผู้เคยเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐหรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน แต่มีผู้สมัครบางรายเขียนในใบ ส.ว.3 ข้อมูลแนะนำตัวผู้สมัคร ลงประวัติว่ามีอาชีพเกษตรกรรม แต่ไปลงสมัครกลุ่มที่ 1 และเขียนประวัติหรือประสบการณ์ว่า เป็นผู้รักษาความสงบในหมู่บ้าน แบบนี้มันไม่เข้านิยามของกลุ่ม 1 อย่างใดเลย กกต.ยังให้ผ่านคุณสมบัติออกมาได้อย่างไร มีเยอะมาก ไม่ใช่แต่เฉพาะกลุ่ม 1 อย่างเดียว มีแบบนี้ทุกกลุ่ม อย่างกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ ผู้เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา ตุลาการ อัยการ ตำรวจ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมายหรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัครบางรายเขียนลงใบแนะนำตัว มีอาชีพทำไร่ แต่เขียนประวัติและแนะนำตัว ลงกลุ่มที่ 2 ว่า เคยเป็นสมาชิก อบต. 2 สมัย มันไม่เกี่ยวอะไรกับผู้ประกอบอาชีพด้านกฎหมาย
และขอยกตัวอย่างอีกกลุ่ม กลุ่มที่ 8 เป็นกลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน มีผู้สมัครบางราย มีอาชีพ เกษตรกร และลงสมัครในกลุ่มที่ 8 โดยอ้างมีประสบการณ์ เป็นคณะกรรมการหมู่บ้านซ่อมน้ำประปาในหมู่บ้าน และในกลุ่มอาชีพทั้ง 20 กลุ่ม ที่ กกต.ได้กำหนดออกมา จะมีกลุ่มผู้สมัครแบบนี้ที่ไม่ตรงกับอาชีพจริง แต่ไปสมัครในกลุ่มอาชีพที่ไม่ใช่อาชีพจริงๆ เข้าไปเกือบทุกกลุ่ม ซึ่งถ้ามองเสมือนว่า ส่งกลุ่มบุคคลพวกนี้ไปสมัครหวังเพื่อไปลงคะแนน พรรคพวกที่วางไว้ จึงเข้าแทรกลงไปทุกกลุ่ม ในเรื่องนี้ ทาง กกต. ต้องออกมาชี้แจง กกต.ให้กลุ่มพวกนี้ไม่ตรงกับผู้ประกอบอาชีพจริงๆ ผ่านคุณสมบัติมาได้ยังไง มันเหมือนฮั้วกันมากกว่า และคงไม่ใช่มีจังหวัดเดียวแน่.
เกษตรกร แฉ ลานเทฮั้วโรงงานหยุดซื้อปาล์มหวังกดราคากินส่วนต่าง หลังคน.สั่งรง.รับซื้อ 4.50 บาท/กก.
https://www.matichon.co.th/region/news_4607629
เกษตรกร แฉ ลานเทฮั้วโรงงานหยุดซื้อปาล์มหวังกดราคากินส่วนต่าง หลังคน.สั่งรง.รับซื้อ 4.50 บาท/กก. วอนรบ.แก้ปัญหาจริงจัง
จากกรณีที่อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.)ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลว.28 พ.ค.67 ถึงนายกสมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม เรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มน้ำมัน โดยให้โรงงานแจ้งข้อมูลปัญหา และอุปสรรคของโรงงานต่อกรมการค้าภายในเป็นรายวัน ส่วนประเด็นรับซื้อผลปาล์มราคาไม้ต่ำกว่า กก.ละ 4.50 บาท และหากผลผลิตสุกเต็มที่คุณภาพดีให้ปรับราคาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทางกรมการค้าภายในจะติดตามอัตราสกัดน้ำมันปาล์มทุกสัปดาห์เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่เกษตรกรนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ตรวจสอบลานเทปาล์มบางแห่งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า มีการปิดรับซื้อผลปาล์มโดยไม่บอกสาเหตุ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มบางรายได้นำผลปาล์มมาขายแต่ไม่สามารถขายได้ พร้อมบอกว่าจะนำปาล์มไปขายที่ลานเทอื่นที่เปิดขายเท่าที่ทราบคือ รับซื้ออยู่ในราคากิโลกรัมละ 3-3.50 บาท ราคายังไม่มีการปรับแต่อย่างใด ส่วนเหตุผลคือ ปาล์มแล้งจัดโรงงานไม่รับซื้อ
ขณะที่นาย
อธิราษฏร์ ดำดี นักวิชาการเกษตร (ปาล์ม) ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ช่วงแล้งไม่มีผลต่ออัตราน้ำมัน เปอร์เซ็นน้ำมันปาล์มของไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังลานปาล์มแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางขัน ทราบว่ารับซื้อปาล์มคละอยู่ที่ กก.ละ 3.50 บาท ราคาขึ้น 50 สตางค์ซึ่งก่อนหน้านี้ซื้ออยู่ที่ 3 บาทและนำไปขายที่โรงงาน 3.50 บาท
ต่อข้อถาม กรมการค้าภายในได้ทำหนังสือถึงนายกสมาคมฯ ให้รับซื้อผลปาล์มในราคา 4.50 บาท แต่ลานเทซื้อเพียงกิโลกรัมละ 3.50 บาท ก็ไม่เกิดความเป็นธรรมแก่เกษตรกรใช่หรือไม่ คุณคงไม่ทราบหนังสือฉบับนั้นส่งถึงนายกสมาคมฯเท่านั้นไม่ได้ถึงลานเทปาล์มด้านนอกถ้าใครอยากได้ราคา 4.50 บาท ก็ให้ผลตามไปขายที่หน้าโรงงานไม่ต้องมาขายลานเท เพราะที่นั่นเขารับซื้อในราคาอย่างนั้นบวกทั้งภาษีด้วย แต่ลานเทอย่างพวกเรารับซื้อกิโลกรัมละ 3.50 บาท ก็หรูแล้ว
พวกคุณไม่ทันโรงงานหรอกจะบอกความจริงให้ ลานเทที่มีอยู่ทั้งหมดสมมุติว่ามี 100 แห่ง 50 แห่งจะเป็นนอมินีของโรงงานน้ำมันปาล์ม เขาทำเรื่องนี้กันมานานแล้วโรงงานจะกินอิ่มหมีพีมันแล้วพร้อมแลกเศษเงินกิโลกรัมละ .50-1 บาท เราจะสังเกตได้อย่างไรหรือว่าลานเทไหนเป็นของชาวบ้านและลานเทไหนเป็นของโรงงานก็ลานเทไหนไม่รับซื้อก็เป็นของโรงงานนั่นแหละ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมานานแล้วกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม ต้องลงมาตรวจสอบอย่างจริงจังเสียทีพวกเราลานเทเอกชนไม่ได้มีปัญหาอะไรกำไรอย่างดีก็กิโลกรัมละ 50 สตางค์หรืออย่างมากก็ 1 บาทเราไม่เอาเปรียบกันแต่ที่เอาเปรียบคือลานเทของโรงงานเท่านั้นเอง
“
ลานเทปาล์มน้ำมันในนครศรีฯ เริ่มหยุดรับซื้อปาล์มน้ำมัน นี้คือวิกฤตรอบใหม่ ที่รัฐบาลต้องเร่งจัดการ ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร ใครอยู่เบื้องหลัง และเกษตรกรจะไปขายปาล์มที่ไหน”
JJNY : 5in1 ‘รัฐประหารโดยตุลาการ’│ก้าวไกลสู้คดียุบพรรค│ผู้สมัครส.ว.โวย กกต.│แฉลานเทฮั้วโรงงาน│น้ำท่วมครั้งใหญ่ในศรีลังกา
https://thestandard.co/concerned-about-the-dissolution-of-mfp/
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เครือข่าย Progressive Alliance ที่เป็นแนวร่วมของพรรคการเมืองจากหลายประเทศที่มีแนวคิดในเชิงก้าวหน้า ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับความถดถอยทางประชาธิปไตย และการปราบปรามพรรคการเมืองฝ่ายค้านในประเทศไทย โดยเนื้อหาระบุว่า
“เราผู้ลงนามในที่นี้ ขอแสดงความวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแห่งประเทศไทยที่ระบุว่า แผนของพรรคก้าวไกลในการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น เป็นการพยายามโค่นล้มรัฐบาลและประมุขแห่งรัฐของประเทศไทย คำตัดสินนี้เป็นการแทรกแซงการทำงานของรัฐสภาอย่างโจ่งแจ้ง และเป็นการละเมิดหลักการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตย
“คำตัดสินของศาลในครั้งนี้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมว่า ระบอบดังกล่าวจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อกดขี่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่งที่ระบบตุลาการของไทยถูกนำมาใช้เพื่อคุกคามพรรคฝ่ายค้านหลัก ซึ่งอาจถือเป็น ‘รัฐประหารโดยตุลาการ’ หากศาลตัดสินให้ยุบพรรคก้าวไกล แม้ว่ารัฐบาลปัจจุบันจะอ้างว่ามาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยและเคารพหลักนิติธรรม แต่เห็นได้ชัดว่าไม่เป็นความจริง และระบอบนี้ได้ละทิ้งทุกข้ออ้างถึงหลักการประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมไปโดยสิ้นเชิง
“เรากังวลว่าการดำเนินการครั้งนี้ รวมถึงการจับกุม การดำเนินคดี และการตัดสินโทษนักเคลื่อนไหวและนักการเมืองที่สนับสนุนประชาธิปไตยในประเทศไทย จะเป็นบ่วงรัดประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศ ประชาชนชาวไทยมีสิทธิในการชุมนุมอย่างสงบ การแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมทางการเมือง เราเกรงว่าในท้ายที่สุด การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล และการปิดกั้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองในประเทศ
“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฝ่ายตุลาการยุบพรรคการเมืองที่ก้าวหน้า พรรคอนาคตใหม่ซึ่งมาก่อนพรรคก้าวไกลก็ถูกยุบด้วยเหตุผลคล้ายกัน เพื่อสกัดกั้นการเติบโตของขบวนการก้าวหน้า และปิดปากนักวิจารณ์ทางการเมือง แม้จะพบกับอุปสรรคนี้ เรายังคงยืนยันความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับมิตรสหายในพรรคก้าวไกล และขบวนการก้าวหน้าและประชาธิปไตยในประเทศไทย การต่อสู้ของพวกเขาเพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตย และปฏิรูประบบการเมืองเพื่อประโยชน์ของทุกภาคส่วนของสังคมก็เป็นการต่อสู้ของเราด้วย
“ในฐานะผู้ก้าวหน้าและสังคมนิยมที่มุ่งมั่นต่อประชาธิปไตย เสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และความสามัคคีระหว่างประเทศ เรามองว่าการถดถอยทางการเมืองในประเทศไทยนี้เป็นอุปสรรคที่ตัดสิทธิคนนับล้านที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงผ่านการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2023 เราขอสนับสนุนให้ผู้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยยังคงร่วมกันปกป้องสิทธิมนุษยชน ท่ามกลางบททดสอบใหม่ๆ ต่อประชาธิปไตยไทย”
ทั้งนี้ ท้ายแถลงการณ์ได้ลงนามชื่อพรรคการเมืองต่างๆ จากเกือบ 30 ประเทศ อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็มได้ทาง: https://progressive-alliance.info/2024/05/28/statement-on-the-regression-of-democracy-and-suppression-of-political-opposition-in-thailand/?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR0TNvdc3hBuSJj-oWHS1elZyhUK5t8WSlL4-XnOVlxrQFGS6mpdkvYOJvk_aem_AWY7a0b-w2ARnBulS2M1QZt_meL_r_0BO8koe0XFveHjHXcwYHOXDTL4mnEWkxBNkwPPbUJc_DHw9r-76KWamLCz
ก้าวไกลเตรียมแถลง สู้คดียุบพรรค 9 มิ.ย.นี้ ยันไม่ได้ล้มล้างการปกครอง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4607378
ก้าวไกลเตรียมแถลง สู้คดียุบพรรค 9 มิ.ย.นี้ ยันไม่ได้ล้มล้างการปกครอง
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยื่นคำชี้แจงต่อสู้คดีล้มล้างการปกครองของพรรค ก.ก. ต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ตามกระบวนการเราจะยื่นในวันที่ 4 มิถุนายน คาดว่าจะมีการแถลงแนวทางการต่อสู้ รวมถึงการเผยแพร่เอกสาร ที่เราได้ยื่นต่อศาลในวันที่ 9 มิถุนายน โดยแนวทางในการต่อสู้เราตั้งใจจะแถลงในวันนั้นทีเดียว ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ทำเต็มที่ในสิ่งที่เราทำได้ เพื่อยืนยันแนวทางการต่อสู้คดีของเรา โดยทั้งนี้ ทาง ส.ส.ของเราก็เตรียมงานในสภาอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน ทั้งในเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประชามติ และการประชุมงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568
เมื่อถามว่าความรู้สึกของคนในพรรคที่มีต่อการสู้คดียังคงดีอยู่ใช่หรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า เราก็ทำเต็มที่ในการปกป้องพรรค เรายังมองว่านี่คือภารกิจสำคัญที่ไม่ใช่เฉพาะการปกป้องพรรค แต่มันเป็นการยืนยันหลักการที่เราเห็นว่าถูกต้องอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้เราเสียสมาธิในการทำงานด้านอื่นๆ โดยเฉพาะงานในส่วนของสภา ขอยืนยันว่าเรายังคงเดินหน้าเต็มที่เป็นเอกภาพ
ผู้สมัครส.ว.โวย กกต.มั่วคุณสมบัติกลุ่มอาชีพ หวั่นเปิดช่องฮั้วแหลก
https://www.matichon.co.th/politics/thai-senate-2024/news_4607210
ผู้สมัครส.ว.โวย กกต.มั่วคุณสมบัติกลุ่มอาชีพ หวั่นเปิดช่องฮั้วแหลก
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนของผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดเลย รายหนึ่ง เผยว่า ตนไม่มั่นใจกับการทำงานของ กกต.เท่าไรนัก เริ่มตั้งแต่ตั้งกฎระเบียบขั้นตอนของการรับสมัคร การมารับสมัครของตนครั้งนี้ เพื่อต้องการทราบว่า การคัดเลือกและระเบียบแปลกๆ ที่สุดในโลกจะเป็นยังไง ปัจจุบันได้ผ่านขั้นตอนตรวจคุณสมบัติ และมีการตัดสิทธิของผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติไป แต่ที่ยังติดใจประเด็นเรื่องของคุณสมบัติของกลุ่มผู้ประกอบอาชีพ ที่ กกต.แบ่ง 20 กลุ่มอาชีพ หลังจาก กกต.ได้มีเอกสารแนะนำตัวออกมา ตนไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้ออกมาได้ยังไง
ผู้สมัคร ส.ว.บางรายอย่างกลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ได้แก่ ผู้เคยเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐหรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน แต่มีผู้สมัครบางรายเขียนในใบ ส.ว.3 ข้อมูลแนะนำตัวผู้สมัคร ลงประวัติว่ามีอาชีพเกษตรกรรม แต่ไปลงสมัครกลุ่มที่ 1 และเขียนประวัติหรือประสบการณ์ว่า เป็นผู้รักษาความสงบในหมู่บ้าน แบบนี้มันไม่เข้านิยามของกลุ่ม 1 อย่างใดเลย กกต.ยังให้ผ่านคุณสมบัติออกมาได้อย่างไร มีเยอะมาก ไม่ใช่แต่เฉพาะกลุ่ม 1 อย่างเดียว มีแบบนี้ทุกกลุ่ม อย่างกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ ผู้เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา ตุลาการ อัยการ ตำรวจ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมายหรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัครบางรายเขียนลงใบแนะนำตัว มีอาชีพทำไร่ แต่เขียนประวัติและแนะนำตัว ลงกลุ่มที่ 2 ว่า เคยเป็นสมาชิก อบต. 2 สมัย มันไม่เกี่ยวอะไรกับผู้ประกอบอาชีพด้านกฎหมาย
และขอยกตัวอย่างอีกกลุ่ม กลุ่มที่ 8 เป็นกลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน มีผู้สมัครบางราย มีอาชีพ เกษตรกร และลงสมัครในกลุ่มที่ 8 โดยอ้างมีประสบการณ์ เป็นคณะกรรมการหมู่บ้านซ่อมน้ำประปาในหมู่บ้าน และในกลุ่มอาชีพทั้ง 20 กลุ่ม ที่ กกต.ได้กำหนดออกมา จะมีกลุ่มผู้สมัครแบบนี้ที่ไม่ตรงกับอาชีพจริง แต่ไปสมัครในกลุ่มอาชีพที่ไม่ใช่อาชีพจริงๆ เข้าไปเกือบทุกกลุ่ม ซึ่งถ้ามองเสมือนว่า ส่งกลุ่มบุคคลพวกนี้ไปสมัครหวังเพื่อไปลงคะแนน พรรคพวกที่วางไว้ จึงเข้าแทรกลงไปทุกกลุ่ม ในเรื่องนี้ ทาง กกต. ต้องออกมาชี้แจง กกต.ให้กลุ่มพวกนี้ไม่ตรงกับผู้ประกอบอาชีพจริงๆ ผ่านคุณสมบัติมาได้ยังไง มันเหมือนฮั้วกันมากกว่า และคงไม่ใช่มีจังหวัดเดียวแน่.
เกษตรกร แฉ ลานเทฮั้วโรงงานหยุดซื้อปาล์มหวังกดราคากินส่วนต่าง หลังคน.สั่งรง.รับซื้อ 4.50 บาท/กก.
https://www.matichon.co.th/region/news_4607629
เกษตรกร แฉ ลานเทฮั้วโรงงานหยุดซื้อปาล์มหวังกดราคากินส่วนต่าง หลังคน.สั่งรง.รับซื้อ 4.50 บาท/กก. วอนรบ.แก้ปัญหาจริงจัง
จากกรณีที่อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.)ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลว.28 พ.ค.67 ถึงนายกสมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม เรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มน้ำมัน โดยให้โรงงานแจ้งข้อมูลปัญหา และอุปสรรคของโรงงานต่อกรมการค้าภายในเป็นรายวัน ส่วนประเด็นรับซื้อผลปาล์มราคาไม้ต่ำกว่า กก.ละ 4.50 บาท และหากผลผลิตสุกเต็มที่คุณภาพดีให้ปรับราคาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทางกรมการค้าภายในจะติดตามอัตราสกัดน้ำมันปาล์มทุกสัปดาห์เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่เกษตรกรนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ตรวจสอบลานเทปาล์มบางแห่งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า มีการปิดรับซื้อผลปาล์มโดยไม่บอกสาเหตุ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มบางรายได้นำผลปาล์มมาขายแต่ไม่สามารถขายได้ พร้อมบอกว่าจะนำปาล์มไปขายที่ลานเทอื่นที่เปิดขายเท่าที่ทราบคือ รับซื้ออยู่ในราคากิโลกรัมละ 3-3.50 บาท ราคายังไม่มีการปรับแต่อย่างใด ส่วนเหตุผลคือ ปาล์มแล้งจัดโรงงานไม่รับซื้อ
ขณะที่นายอธิราษฏร์ ดำดี นักวิชาการเกษตร (ปาล์ม) ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ช่วงแล้งไม่มีผลต่ออัตราน้ำมัน เปอร์เซ็นน้ำมันปาล์มของไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังลานปาล์มแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางขัน ทราบว่ารับซื้อปาล์มคละอยู่ที่ กก.ละ 3.50 บาท ราคาขึ้น 50 สตางค์ซึ่งก่อนหน้านี้ซื้ออยู่ที่ 3 บาทและนำไปขายที่โรงงาน 3.50 บาท
ต่อข้อถาม กรมการค้าภายในได้ทำหนังสือถึงนายกสมาคมฯ ให้รับซื้อผลปาล์มในราคา 4.50 บาท แต่ลานเทซื้อเพียงกิโลกรัมละ 3.50 บาท ก็ไม่เกิดความเป็นธรรมแก่เกษตรกรใช่หรือไม่ คุณคงไม่ทราบหนังสือฉบับนั้นส่งถึงนายกสมาคมฯเท่านั้นไม่ได้ถึงลานเทปาล์มด้านนอกถ้าใครอยากได้ราคา 4.50 บาท ก็ให้ผลตามไปขายที่หน้าโรงงานไม่ต้องมาขายลานเท เพราะที่นั่นเขารับซื้อในราคาอย่างนั้นบวกทั้งภาษีด้วย แต่ลานเทอย่างพวกเรารับซื้อกิโลกรัมละ 3.50 บาท ก็หรูแล้ว
พวกคุณไม่ทันโรงงานหรอกจะบอกความจริงให้ ลานเทที่มีอยู่ทั้งหมดสมมุติว่ามี 100 แห่ง 50 แห่งจะเป็นนอมินีของโรงงานน้ำมันปาล์ม เขาทำเรื่องนี้กันมานานแล้วโรงงานจะกินอิ่มหมีพีมันแล้วพร้อมแลกเศษเงินกิโลกรัมละ .50-1 บาท เราจะสังเกตได้อย่างไรหรือว่าลานเทไหนเป็นของชาวบ้านและลานเทไหนเป็นของโรงงานก็ลานเทไหนไม่รับซื้อก็เป็นของโรงงานนั่นแหละ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมานานแล้วกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม ต้องลงมาตรวจสอบอย่างจริงจังเสียทีพวกเราลานเทเอกชนไม่ได้มีปัญหาอะไรกำไรอย่างดีก็กิโลกรัมละ 50 สตางค์หรืออย่างมากก็ 1 บาทเราไม่เอาเปรียบกันแต่ที่เอาเปรียบคือลานเทของโรงงานเท่านั้นเอง
“ลานเทปาล์มน้ำมันในนครศรีฯ เริ่มหยุดรับซื้อปาล์มน้ำมัน นี้คือวิกฤตรอบใหม่ ที่รัฐบาลต้องเร่งจัดการ ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร ใครอยู่เบื้องหลัง และเกษตรกรจะไปขายปาล์มที่ไหน”