JJNY : โรมเข้าทำเนียบ│‘ก้าวไกล’จี้‘มาริษ’แสดงวิสัยทัศน์│ชาวสวนจี้รัฐแก้ปัญหาราคาปาล์ม│“ไบเดน”ให้ยูเครนใช้อาวุธอย่างจำกัด

โรม เข้าทำเนียบ ถกเข้มสมช. สถานการณ์ในพม่า-แก๊งคอล กระตุกทำงานความมั่นคงเชิงรุก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4603853
 
 
“โรม” เข้าทําเนียบฯ ถกสมช.ปมเมียนมา-แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ กระตุกทำงานเชิงรุก แก้ปัญหาความมั่นคง

เมื่อเวลา 09.55 วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เลขาธิการ สมช. และผู้บริหาร สมช. เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันว่า กมธ.ทำงานร่วมกับสมช.ในหลายเรื่อง โดยเฉพะปัญหาความไม่สงบในประเทศเมียนมา รวมไปถึงแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเกี่ยวโยงกับเรื่องไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต ซึ่งเรื่องไฟฟ้าเราเคยให้การบ้าน สมช. ให้ช่วยเราคิดว่าบริษัทที่กำลังมีการพิจารณา เพื่อจะต่อไฟฟ้าไปยังที่ทำการของแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ เราจะยอมให้ต่อไฟฟ้าไปหรือไม่ รวมไปถึงการหารือมิติความมั่นคงด้านต่างๆ ในเรื่องความมั่นคงปลอยภัยทางไซเบอร์ โดยเรื่องแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่แค่กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งจะแก้ปัญหาได้

วันนี้มาเน้นย้ำเรื่องประเทศเมียนมา เพราะมีความท้าทายเยอะ รวมถึงเรื่องชายแดนภาคใต้ ที่สมช.มีบทบาทเยอะ ในการส่งเสริมการแก้ไขปัญหา เนื่องจากตั้งแต่พล.ต.อ.รอย มารับตำแหน่งเลขาธิการ สมช. เราไม่ได้หารือกันเลย และจะมีการติดตามงานต่างๆที่ กมธ. เคยพูดคุยกับ สมช. เอาไว้” นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องยาเสพติด แม้จะเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ส. แต่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง โดยตามแนวชายแดนมีการก่อตัวของรัฐยาเสพติด ทำให้เป็นปัญหาความมั่นคง ซึ่ง ป.ป.ส. ไม่ได้รับผิดชอบในภาพรวมของความมั่นคง โดย สมช. สามารถเข้าไปมีบทบาทในทุกมิติได้ เราอยากเห็นการทำงานของ สมช. ต่อเนื่องให้มากกว่าที่เป็นอยู่ และต้องเป็นการทำงานเชิงรุก
  

 
‘ก้าวไกล’ จี้ ‘มาริษ’ แสดงวิสัยทัศน์ต่อปชช.จะพาประเทศไปทางไหน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4603803

‘ส.ส.ก้าวไกล’ จี้ ‘รมว.ตปท.’ คนใหม่แสดงวิสัยทัศน์ต่อปชช.จะพาประเทศไปทางไหน หวังเป็นตัวของตัวเอง ไม่รับคำสั่งอย่างเดียว
 
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายจุลพงษ์ อยู่เกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงเรียกร้องให้นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คนใหม่แสดงวิสัยทัศน์ด้านการต่างประเทศต่อสาธารณชน ใน 4 เรื่อง คือ
 
1. ภายใต้สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์การแข่งขันของประเทศมหาอำนาจทั้งจีน และสหรัฐ รวมทั้งภายใต้การค้าระหว่างประเทศที่เป็นการค้าเสรีขององค์การการค้าโลก ประเทศไทยมีผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมอะไรบ้างที่ต้องรักษาบนเวที และเวทีอาเซียน
 
2. ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รมว.ต่างประเทศมีจุดยืนด้านความสัมพันธ์ของประเทศไทยกับจีน สหรัฐ และอาเซียนเช่นไร
 
3. การแก้ปัญหาที่ไทยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาที่รุนแรงขึ้นทุกวัน และปัญหาการหลั่งไหลของผู้สู้รบเข้ามาในประเทศไทย รวมทั้งรมว.ต่างประเทศมีท่าทีเช่นไรต่อมติอาเซียนที่สนับสนุนให้ไทย จัดตั้งระเบียงมนุษยธรรมตามแนวชายแดนไทยเมียนมา และจะแสวงหาความร่วมมือและการสนับสนุนจากประเทศอาเซียน จีน สหรัฐ อย่างไรบ้าง
 
4. ขอให้แสดงวิสัยทัศน์และแนวทางการดำเนินการในเรื่องการค้าระหว่างประเทศ ภายใต้เงื่อนไขใหม่ๆของโลก
 
นายจุลพงษ์ กล่าวต่อว่า ในอดีตงานการต่างประเทศมักจะถูกมองว่าเป็นงานภาครัฐเท่านั้นไม่เกี่ยวกับประชาชน แต่ปัจจุบันประชาชนรับทราบข่าวสารหลายช่องทาง ดังนั้น การแสดงวิสัยทัศน์ของรมว.ต่างประเทศ ควรให้ประชาชนรับทราบไม่ควรเป็นความลับ เพื่อประชาชนจะต้องรับรู้ว่ารัฐมนตรีจะนำทิศทางการต่างประเทศของไทยไปทางใด ไม่ใช่อะไรก็อ้างว่าเป็นความลับ เพราะรมว.ต่างประเทศ ไม่ใช่ข้าราชการประจำที่ต้องคอยรับฟังคำสั่งอีกต่อไป เพราะท่านไม่ได้เป็นเพียงคณะทำงานหรือที่ปรึกษารัฐมนตรีแล้ว คนไทยหวังว่าท่านจะเป็นตัวของตัวเองที่จะแสดงบนบาทบนเวทีโลกในฐานะรมว.ต่างประเทศ


 
ชาวสวนจี้รัฐแก้ปัญหาราคาปาล์ม เตรียมระดมทั้งภาคใต้เคลื่อนไหวใหญ่
https://www.matichon.co.th/region/news_4603900

ชาวสวนจี้รัฐแก้ปัญหาราคาปาล์ม เตรียมระดมทั้งภาคใต้เคลื่อนไหวใหญ่ ชี้แม้พณ.สั่งรง.รับซื้อโลละ 4.50 บาทแล้ว แต่ลานเทยังกดราคา

เตรียมเคลื่อนทั้งภาคใต้ ชาวสวนปาล์มตรัง น้อยใจ ขรก.ขึงขังสกัด-ปราบม็อบ แทนที่จะฟังเสียงความเดือดร้อน กำหนดเส้นตาย 1 มิ.ย.นี้ ขอ 6บาท/กก. เพราะแยกต้นทุนแล้ว 5 บาท/กก. ชี้ 2 มาตรการกรมการค้าภายในยังขาดการปฏิบัติจริง โรงสกัดเริ่มขยับราคาขึ้นแล้ว แต่ลานเทยังรับซื้อราคาต่ำ เหตุแบกความเสี่ยง ติดคิวรอเท 5 วัน ทำขาดทุน
 
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า ตามที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทั่วประเทศรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4.50 บาท และหากผลผลิตสุกเต็มที่มีคุณภาพดี ให้ปรับราคาเพิ่มขึ้นสอดคล้องอัตราสกัดน้ำมันปาล์ม ล่าสุดพบว่าในวันนี้ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบในพื้นที่จังหวัดตรังทั้ง 4 แห่ง ประกาศปรับราคารับซื้อผลปาล์มดิบเป็นกิโลกรัมละ 4.30 -4.50 บาทแล้ว จากเดิมก่อนหน้านี้ราคาตกไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 3 บาทเศษถึงกิโลกรัมละ 4.00 บาทเท่านั้น
 
แต่อย่างไรก็ตามเป็นราคารับซื้อหน้าโรงงานสกัดที่กิโลกรัมละ 4.50 บาทเท่านั้น ขณะที่ลานเทต่างๆซึ่งต้องรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรงจะต้องปรับราคารับซื้อลงมาอีก โดยลานเทซึ่งเกษตรกรขายได้ยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 3.60-3.80 บาทเท่านั้น เนื่องจากลานเทต้องแบกรับความเสี่ยงราคารายวันของโรงงาน ประกอบกับการบรรทุกปาล์มไปส่งโรงงานสกัด ยังต้องไปติดคิวรอขายอีกประมาณ 2-3 วัน หรือบางแห่งต้องติดคิวนานถึง 5 วัน ทำให้ต้องสูญเสียน้ำหนักของปาล์ม เนื่องจากขณะนี้ทุกโรงงานยังมีรถบรรทุกปาล์มจากลานเทต่างๆ ไปติดคิวรอขายยาวเหยียดเต็มทุกโรงงาน อย่างไรก็ตามลานเททั้งหมดในจังหวัดตรัง ยังต้องเปิดรับซื้อและสลับการหยุดรับซื้อ เพื่อเคลียร์ปาล์มที่คงค้างในลานเท ไม่ได้เปิดรับซื้อทุกวัน
รายงานข่าวแจ้งว่า เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนปาล์มจังหวัดตรัง ได้ประกาศเลื่อนนัดการชุมนุม จากเดิมนัดชุมนุมเรียกร้องในช่วงเย็นวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลากลางจังหวัดตรัง เพื่อยื่นหนังสือผ่านนายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ไปยังรัฐบาลเพื่อเร่งแก้ไขปัญหา ซึ่งในการเลื่อนชุมนุมครั้งนี้ เพื่อให้เวลาทางจังหวัดและรัฐบาลถึงวันที่ 1 มิ.ย.นี้ หากราคาปาล์มไม่ขยับขึ้นถึงกิโลกรัมละ 6 บาท ซึ่งสะท้อนราคาตามกลไกจริงของตลาด ก็จะเตรียมชุมนุมใหญ่พร้อมกันทั่วภาคใต้ โดยมองว่าราคาที่รัฐกำหนดกิโลกรัมละ 4.50 บาท ยังเป็นราคาที่ไม่สะท้อนราคาตามกลไกจริงของตลาด เพราะเกษตรกรมีต้นทุนตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 5 บาทแล้ว
 
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะนี้กลุ่มเกษตรกรมีความไม่สบายใจต่อการตอบรับปัญหาและการปฏิบัติต่อเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ได้รับความเดือดร้อนเตรียมออกมาชุมนุมเรียกร้อง โดยมีความพยายามล้อบบี้สกัดกั้นการชุมนุมโดยภาครัฐแทนที่จะรับฟังปัญหาความเดือดร้อนส่งต่อนำไปสู่การแก้ไข โดยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนการนัดชุมนุมเรียกร้องของเกษตรกรชาวสวนปาล์มเพียง 1 วัน ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวแทนสภาเกษตรกรจังหวัดตรัง สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง ตัวแทนจากโรงสกัดปาล์มน้ำมัน โดยที่ประชุมแจ้งให้ทราบเพียง มติที่กรมการค้าภายในเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ในการประชุมที่โรงแรมวังใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เรื่อง การรายงานข้อมูลการผลิตของโรงงานสกัด และ การปรับราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันสูงขึ้นในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4.50 บาทเท่านั้น ซึ่งเกษตรกรมองว่าเป็นมาตรการทั่วไปจากส่วนกลาง ที่ในการปฏิบัติจริงยังขาดการติดตามกำกับดูแลตรวจสอบเชิงลึกอย่างจริงจังในแต่ละพื้นที่
 
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ทั้งนี้ในที่ประชุม มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดรายหนึ่ง พยายามพูดไปยังหัวหน้าส่วนราชการต่างๆอย่าให้เกษตรกรออกมาชุมนุม โดยเฉพาะการมาชุมนุมที่ศาลากลาง เพราะจะทำให้เสียภาพลักษณ์ของจังหวัด เพราะจังหวัดอื่นยังไม่มีม็อบออกมา และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตการชุมนุมพิจารณาหาสถานที่รองรับการชุมนุมอื่น อาทิ สนามกีฬาทุ่งแจ้งซึ่งอยู่ไกลออกไป และหากการชุมนุมมีการทำเกินเลย เช่น การเททิ้งผลผลิต ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มีแผนปราบม็อบกันอยู่แล้ว ทั้งนี้สำหรับท่าทีดังกล่าว ทำให้กลุ่มเกษตรกรเกิดความน้อยใจและไม่สบายใจในท่าที่จากภาครัฐ และเตรียมหารือกับเครือข่ายชาวสวนปาล์มทั้งภาคใต้ เพื่อกำหนดท่าที่การเคลื่อนไหวต่อไป โดยกำหนดเส้นตายการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลถึงวันที่ 1 มิ.ย.นี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่