เรื่องย่อ - ฟูริโอซ่า เด็กน้อยที่เติบโตมาใน กรีนเพรส ดินแดนอุดมสมบูรณ์ที่เหลืออยู้ไม่กี่แห่งบนโลก วันนึง เธอพบว่า บ้านเกิดของเธอ มีผู้บุกรุกเข้ามา แถมคนที่บุกรุกก็ไม่ใช่โจรทั่วไป แต่เป็นลูกน้องของ เดเมนตัส จอมวายร้ายที่มีลูกน้องเป็นกองทัพ ฟูริโอซ่า พยามจัดการผู้บุกรุกด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายก็พลาดท่า โดนลักพาตัวกลับไปด้วย แม่ของเธอรู้ข่าวพยามไปช่วย แต่ก็โดนเดเมนตัส ฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ส่วนฟูริโอซ่าก็ถูกเดเมนตัสกักขังไว้ เพื่อให้บอกที่ตั้งของ กรีนเพรส แต่ไม่ทันที่ฟูริโอซ่าจะได้บอก เดเมนตัสก็พบดินแดนอุดมสมบูรณ์อีกแห่ง นั่นก็คือ ซิทาเดล อาณาจักรของ อิมเมอร์ทัล โจ เดเมนตัส ที่หมายมั่นปั้นมือจะยึดซิทาเดลเป็นของตัวเอง ก็เลยประกาศสงคราม ท่ามกลางสงครามระหว่าง 2 แก๊งค์ เด็กน้อยฟูริโอซ่า จะเอาตัวรอดยังไง แล้วเธอจะทวงแค้น เดเมนตัส ผู้โหดเหี้ยมได้หรือไม่ ติดตามได้ในโรงภาพยนต์
mad max ในความทรงจำผมนี่เลือนลางมาก จำได้แค่ว่าเป็นหนังแอคชั่นไตรภาคที่ถูกสร้างมานานมากแล้ว จนกระทั่งพอหนังครบ 30 ปี ก็มีภาคใหม่ mad max : fury road ออกมา ตอนที่ผมเข้าไปดูนี่เข้าไปดูแบบหัวโล่งๆเลยครับ แต่หลังจากดูเสร็จ mad max : fury road ก็กลายเป็นหนังแอคชั่นในดวงใจผมไปเลย ฉากแอคชั่นที่อัดเข้ามานี่มันส์มาก โดยเฉพาะฉากขบวนรถวิ่งฝ่าพายุทะเลทราย ฉากนั้นเป็น ไอคอนนิค ในโลกภาพยนต์เลยทีเดียว นอกจากฉากแอคชั่นที่จัดมาอย่างจุใจแล้ว ตัวละครในเรื่องก็เท่กันทุกตัวเลย โดยเฉพาะ ฟูริโอซ่า สาวแกร่งสุดเท่ พร้อมกับแขนกล อย่างเท่เลย แล้วพอว่ารู้ว่า ตัวฟูริโอซ่า จะมีภาคแยกเป็นของตัวเอง ผมก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูเลยครับ
แต่การสร้างหนังพวก เล่าพวกจุดกำเนิดตัวละครแบบนี้ มันก็มีความยากของมันอยู่ คือเนื้อเรื่องของภาคตัวเองก็ต้องเล่า แต่เรื่องที่เล่า มันก็ต้องไปเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องภาคที่แล้วด้วย ยิ่งตัวฟูริโอซ่า เรารู้ความเป็นมาของเธอน้อยมาก รู้แค่ เธอเคยเกิดและโตที่ดินแดนอุดมสมบูรณ์ แล้วก็มีเป้าหมายที่จะกลับไปบ้าน แต่นอกเหนือจากนั้นเราไม่รู้อะไรเลย ตรงนี้มันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็คือ มันอิสระ สามารถจะแต่งเติมยังไงก็ได้ แต่ข้อเสียก็คือ มันก็มีเรื่องต้องเล่าเยอะ ไม่ว่าจะเป็น ฟูริโอซ่า มาอยู่กับ อิมเมอร์ทัลโจ ได้ยังไง ฟูริโอซ่า มาเป็นคนขับรถบรรทุกได้ยังไง ฟูริโอซ่า แขนขาดได้ยังไง ฟูริโอซ่า กับบรรดาเมียๆของอิมเมอร์ทัลโจ มีความสัมพันธ์กันยังไง ทำไมสุดท้ายจึงเลือกช่วย ทั้งที่ก็รู้ว่ามันจะพ่วงปัญหาตามมา
ซึ่งส่วนตัวผมนะครับ การเชื่อมโยงระหว่าง 2 ภาค น่าผิดหวัง
ฟูริโอซ่า มาอยู่กับ อิมเมอร์ทัลโจ ได้ยังไง ผมน่ะ ไม่ชอบเหตุผลในหนังเลย แต่พอรับได้ เพราะเหตุผลมันก็เหมาะกับตัวอิมเมอร์ทัลโจดี
ฟูริโอซ่า มาเป็นคนขับรถบรรทุกได้ยังไง อันนี้แปลกๆแหละ หนีจากการเกือบเป็นหนึ่งในฮาเร็ม แล้วไปแอบแผงอยู่ในทีมช่างเครื่อง มันแปลกๆตรงนี้
ฟูริโอซ่า แขนขาดได้ยังไง อันนี้น่าผิดหวังมาก ตอนที่ฟูริโอซ่าสักดวงดาวลงบนแขน แล้วก็บอกเรื่องนี้กับพระเอก ผมนี่คิดในใจ โดนพระเอกหักหลัง เอาไปบอกเดเมนตัสแน่ๆ สุดท้ายก็โดนตัดแขน แต่ที่ไหนได้ แขนขาดก็แค่แขนขาดซะเฉยๆ ไม่ได้มีอิมแพ๊คอะไรเลย
ฟูริโอซ่า มีความสัมพันธ์ กับบรรดาเมียของอิมเมอร์ทัลโจยังไง อันนี้ น่าเสียดายมาก หนังแทบไม่เล่าเลย ตัวฟูริโอซ่ากับบรรดาเมียๆ เหมือนอยู่กันคนละโลก ไม่มีจุดเชื่อมเข้าหากันเลย
แต่มันก็มีสิ่งที่น่าผิดหวังมากกว่า นั่นก็คือฉากแอคชั่น
ภาค fury road เราตื่นตามตื่นใจกับรถวิ่งเข้าใส่กัน มีทั้งยิง ทั้งระเบิด อัดใส่กัน ระเบิดตูมตาม แต่พอมาภาคนี้ มีให้ดูแค่ฉากเดียว ก็คือฉากโจรบินได้ มาปล้นรถ แล้วก็ไม่ค่อยสนุกด้วยนะ เพราะภาคนี้มีเรื่องให้เล่าเยอะ สุดท้ายเรื่องเล่าต่างๆมันไปลดเวลาฉากแอคชั่นหมดเลย ฉากแอคชั่นภาคนี้ เลยหนักไปทางซุ่มยิงกันแทน
สิ่งที่ชอบครับ
1 น้องจอย เกินต้านจริงๆครับ ก่อนผมจะเข้าไปดู ผมก็เห็นคอมเมนต์ผ่านๆตามาว่า ขนาดตัวมอมแมมยังสวยเลย ดูสิครับ
2 คาแรคเตอร์ตัวละคร ที่ยังคงทำได้เท่ทุกตัวเหมือนเดิม แต่ตัวที่ผมชอบที่สุดก็คือตัวร้ายหลักของเรื่อง อย่าง เดเมนตัส ที่ต้องเป็นจุดศูนย์รวมความแค้น ซึ่งตัวละครก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก เป็นตัวละครที่มีทั้งความเท่ ความเก่ง เอามาปะทะกับอิมเมอร์ทัลโจก็ทำได้สูสี แต่แอบเสียดายตรงที่ได้ คริส แฮมเวิร์ส มาเล่นทั้งที แต่ตัวละครไม่ได้ต่อยกะใครเลย
3 ถึงแม้ผมจะบ่นฉากแอคชั่นของภาคนี้ แต่ก็มีฉากที่ชอบอยู่นะครับ ฉากที่ เดเมนตัส ขับรถไล่ล่า พระเอกกับฟูริโอซ่า ฉากนั้นทำได้ลุ้นดีมาก ยิ่งกล้องมันตั้งที่รถของเดเมนตัส มันก็ยิ่งทำให้รู้สึก จะไล่ทันแล้ว จะไล่ทันแล้ว
สิ่งที่ไม่ชอบครับ
1 ดูหนังอยู่ดีๆ แล้วรู้สึกเหมือนโดนด่า เอ้า !! ตอนที่ฟูริโอซ่า ฆ่าเดเมนตัส ผมก็คิดในใจ อะไรอ่ะ เดเมนตัสทำเลวมาตั้งเยอะ ทั้งฆ่าแม่ ฆ๋าพระเอก แต่โดนยิงตายง่ายๆงี้เองเหรอ ผมกะลังคิดของผมอยู่ดีๆ หนังมันก็พูดขึ้นมาว่า ขอโทษได้ไหมล่ะ ที่ให้ตายง่ายๆแบบนี้ ขอโทษล่ะกันที่วิปริตให้ไม่พอ ผมนี่ร้อง เอ้า !! เลย
2 จุดจบของ เดเมนตัส น่ารำคาญมาก คือ ฟูริโอซ่า อยากให้เดเมนตัสกลัวตาย แต่เดเมนตัสก็ไม่ยอมกลัว กลายเป็นว่า สุดท้าย ฟูริโอซ่าก็ยังเอาชนะเดเมนตัสไม่ได้อยู่ดี และด้วยความที่แกไม่กลัวฟูริโอซ่า เดเมนตัสก็พูดเยอะมาก พูดจนผมนี่อยากให้ซีนนี้มันจบเร็วๆจัง เป็นการปิดฉากตัวร้ายที่ไม่น่าจดจำเลย
3 อันนี้แผลใหญ่สุดครับ ฉากแอคชั่น คาดหวังจาก fury road แต่พอมาภาคนี้มันดร็อปเกินไป
สรุป
คาดหวังไว้เยอะ ก็เจ็บเยอะหน่อย เพราะต้องเล่าเรื่องเยอะ ฉากแอคชั่นก็เลยหายหมด แล้วขนาดเล่าเรื่องเยอะแล้วนะ เรื่องที่เล่าก็ยังไม่ตอบสิ่งที่อยากรู้เลย
[CR] Furiosa: A Mad Max Saga (2024) ก่อนจะแก้แค้น ช่วยสู้กันก่อนเถอะ !!(spoil)
เรื่องย่อ - ฟูริโอซ่า เด็กน้อยที่เติบโตมาใน กรีนเพรส ดินแดนอุดมสมบูรณ์ที่เหลืออยู้ไม่กี่แห่งบนโลก วันนึง เธอพบว่า บ้านเกิดของเธอ มีผู้บุกรุกเข้ามา แถมคนที่บุกรุกก็ไม่ใช่โจรทั่วไป แต่เป็นลูกน้องของ เดเมนตัส จอมวายร้ายที่มีลูกน้องเป็นกองทัพ ฟูริโอซ่า พยามจัดการผู้บุกรุกด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายก็พลาดท่า โดนลักพาตัวกลับไปด้วย แม่ของเธอรู้ข่าวพยามไปช่วย แต่ก็โดนเดเมนตัส ฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ส่วนฟูริโอซ่าก็ถูกเดเมนตัสกักขังไว้ เพื่อให้บอกที่ตั้งของ กรีนเพรส แต่ไม่ทันที่ฟูริโอซ่าจะได้บอก เดเมนตัสก็พบดินแดนอุดมสมบูรณ์อีกแห่ง นั่นก็คือ ซิทาเดล อาณาจักรของ อิมเมอร์ทัล โจ เดเมนตัส ที่หมายมั่นปั้นมือจะยึดซิทาเดลเป็นของตัวเอง ก็เลยประกาศสงคราม ท่ามกลางสงครามระหว่าง 2 แก๊งค์ เด็กน้อยฟูริโอซ่า จะเอาตัวรอดยังไง แล้วเธอจะทวงแค้น เดเมนตัส ผู้โหดเหี้ยมได้หรือไม่ ติดตามได้ในโรงภาพยนต์
mad max ในความทรงจำผมนี่เลือนลางมาก จำได้แค่ว่าเป็นหนังแอคชั่นไตรภาคที่ถูกสร้างมานานมากแล้ว จนกระทั่งพอหนังครบ 30 ปี ก็มีภาคใหม่ mad max : fury road ออกมา ตอนที่ผมเข้าไปดูนี่เข้าไปดูแบบหัวโล่งๆเลยครับ แต่หลังจากดูเสร็จ mad max : fury road ก็กลายเป็นหนังแอคชั่นในดวงใจผมไปเลย ฉากแอคชั่นที่อัดเข้ามานี่มันส์มาก โดยเฉพาะฉากขบวนรถวิ่งฝ่าพายุทะเลทราย ฉากนั้นเป็น ไอคอนนิค ในโลกภาพยนต์เลยทีเดียว นอกจากฉากแอคชั่นที่จัดมาอย่างจุใจแล้ว ตัวละครในเรื่องก็เท่กันทุกตัวเลย โดยเฉพาะ ฟูริโอซ่า สาวแกร่งสุดเท่ พร้อมกับแขนกล อย่างเท่เลย แล้วพอว่ารู้ว่า ตัวฟูริโอซ่า จะมีภาคแยกเป็นของตัวเอง ผมก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูเลยครับ
แต่การสร้างหนังพวก เล่าพวกจุดกำเนิดตัวละครแบบนี้ มันก็มีความยากของมันอยู่ คือเนื้อเรื่องของภาคตัวเองก็ต้องเล่า แต่เรื่องที่เล่า มันก็ต้องไปเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องภาคที่แล้วด้วย ยิ่งตัวฟูริโอซ่า เรารู้ความเป็นมาของเธอน้อยมาก รู้แค่ เธอเคยเกิดและโตที่ดินแดนอุดมสมบูรณ์ แล้วก็มีเป้าหมายที่จะกลับไปบ้าน แต่นอกเหนือจากนั้นเราไม่รู้อะไรเลย ตรงนี้มันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็คือ มันอิสระ สามารถจะแต่งเติมยังไงก็ได้ แต่ข้อเสียก็คือ มันก็มีเรื่องต้องเล่าเยอะ ไม่ว่าจะเป็น ฟูริโอซ่า มาอยู่กับ อิมเมอร์ทัลโจ ได้ยังไง ฟูริโอซ่า มาเป็นคนขับรถบรรทุกได้ยังไง ฟูริโอซ่า แขนขาดได้ยังไง ฟูริโอซ่า กับบรรดาเมียๆของอิมเมอร์ทัลโจ มีความสัมพันธ์กันยังไง ทำไมสุดท้ายจึงเลือกช่วย ทั้งที่ก็รู้ว่ามันจะพ่วงปัญหาตามมา
ซึ่งส่วนตัวผมนะครับ การเชื่อมโยงระหว่าง 2 ภาค น่าผิดหวัง
ฟูริโอซ่า มาอยู่กับ อิมเมอร์ทัลโจ ได้ยังไง ผมน่ะ ไม่ชอบเหตุผลในหนังเลย แต่พอรับได้ เพราะเหตุผลมันก็เหมาะกับตัวอิมเมอร์ทัลโจดี
ฟูริโอซ่า มาเป็นคนขับรถบรรทุกได้ยังไง อันนี้แปลกๆแหละ หนีจากการเกือบเป็นหนึ่งในฮาเร็ม แล้วไปแอบแผงอยู่ในทีมช่างเครื่อง มันแปลกๆตรงนี้
ฟูริโอซ่า แขนขาดได้ยังไง อันนี้น่าผิดหวังมาก ตอนที่ฟูริโอซ่าสักดวงดาวลงบนแขน แล้วก็บอกเรื่องนี้กับพระเอก ผมนี่คิดในใจ โดนพระเอกหักหลัง เอาไปบอกเดเมนตัสแน่ๆ สุดท้ายก็โดนตัดแขน แต่ที่ไหนได้ แขนขาดก็แค่แขนขาดซะเฉยๆ ไม่ได้มีอิมแพ๊คอะไรเลย
ฟูริโอซ่า มีความสัมพันธ์ กับบรรดาเมียของอิมเมอร์ทัลโจยังไง อันนี้ น่าเสียดายมาก หนังแทบไม่เล่าเลย ตัวฟูริโอซ่ากับบรรดาเมียๆ เหมือนอยู่กันคนละโลก ไม่มีจุดเชื่อมเข้าหากันเลย
แต่มันก็มีสิ่งที่น่าผิดหวังมากกว่า นั่นก็คือฉากแอคชั่น
ภาค fury road เราตื่นตามตื่นใจกับรถวิ่งเข้าใส่กัน มีทั้งยิง ทั้งระเบิด อัดใส่กัน ระเบิดตูมตาม แต่พอมาภาคนี้ มีให้ดูแค่ฉากเดียว ก็คือฉากโจรบินได้ มาปล้นรถ แล้วก็ไม่ค่อยสนุกด้วยนะ เพราะภาคนี้มีเรื่องให้เล่าเยอะ สุดท้ายเรื่องเล่าต่างๆมันไปลดเวลาฉากแอคชั่นหมดเลย ฉากแอคชั่นภาคนี้ เลยหนักไปทางซุ่มยิงกันแทน
สิ่งที่ชอบครับ
1 น้องจอย เกินต้านจริงๆครับ ก่อนผมจะเข้าไปดู ผมก็เห็นคอมเมนต์ผ่านๆตามาว่า ขนาดตัวมอมแมมยังสวยเลย ดูสิครับ
2 คาแรคเตอร์ตัวละคร ที่ยังคงทำได้เท่ทุกตัวเหมือนเดิม แต่ตัวที่ผมชอบที่สุดก็คือตัวร้ายหลักของเรื่อง อย่าง เดเมนตัส ที่ต้องเป็นจุดศูนย์รวมความแค้น ซึ่งตัวละครก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก เป็นตัวละครที่มีทั้งความเท่ ความเก่ง เอามาปะทะกับอิมเมอร์ทัลโจก็ทำได้สูสี แต่แอบเสียดายตรงที่ได้ คริส แฮมเวิร์ส มาเล่นทั้งที แต่ตัวละครไม่ได้ต่อยกะใครเลย
3 ถึงแม้ผมจะบ่นฉากแอคชั่นของภาคนี้ แต่ก็มีฉากที่ชอบอยู่นะครับ ฉากที่ เดเมนตัส ขับรถไล่ล่า พระเอกกับฟูริโอซ่า ฉากนั้นทำได้ลุ้นดีมาก ยิ่งกล้องมันตั้งที่รถของเดเมนตัส มันก็ยิ่งทำให้รู้สึก จะไล่ทันแล้ว จะไล่ทันแล้ว
สิ่งที่ไม่ชอบครับ
1 ดูหนังอยู่ดีๆ แล้วรู้สึกเหมือนโดนด่า เอ้า !! ตอนที่ฟูริโอซ่า ฆ่าเดเมนตัส ผมก็คิดในใจ อะไรอ่ะ เดเมนตัสทำเลวมาตั้งเยอะ ทั้งฆ่าแม่ ฆ๋าพระเอก แต่โดนยิงตายง่ายๆงี้เองเหรอ ผมกะลังคิดของผมอยู่ดีๆ หนังมันก็พูดขึ้นมาว่า ขอโทษได้ไหมล่ะ ที่ให้ตายง่ายๆแบบนี้ ขอโทษล่ะกันที่วิปริตให้ไม่พอ ผมนี่ร้อง เอ้า !! เลย
2 จุดจบของ เดเมนตัส น่ารำคาญมาก คือ ฟูริโอซ่า อยากให้เดเมนตัสกลัวตาย แต่เดเมนตัสก็ไม่ยอมกลัว กลายเป็นว่า สุดท้าย ฟูริโอซ่าก็ยังเอาชนะเดเมนตัสไม่ได้อยู่ดี และด้วยความที่แกไม่กลัวฟูริโอซ่า เดเมนตัสก็พูดเยอะมาก พูดจนผมนี่อยากให้ซีนนี้มันจบเร็วๆจัง เป็นการปิดฉากตัวร้ายที่ไม่น่าจดจำเลย
3 อันนี้แผลใหญ่สุดครับ ฉากแอคชั่น คาดหวังจาก fury road แต่พอมาภาคนี้มันดร็อปเกินไป
สรุป
คาดหวังไว้เยอะ ก็เจ็บเยอะหน่อย เพราะต้องเล่าเรื่องเยอะ ฉากแอคชั่นก็เลยหายหมด แล้วขนาดเล่าเรื่องเยอะแล้วนะ เรื่องที่เล่าก็ยังไม่ตอบสิ่งที่อยากรู้เลย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้