การที่ตัวร้ายอย่าง Dementus ควบ Harley Davidson ไปตามถนนโลกันตร์อย่าบ้าคลั่งด้วยสุ่มเสียงอันทรงพลังและดิบเถื่อน มันช่างสมกับธีมของหนังเรื่องนี้เสียเหลือเกิน ที่ต้นไปจนถึงกลางเรื่องมันช่างดุเดือดเลือดพล่าน ขับขานพลังแห่งความโหดร้ายไปจนแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้
แต่พอถึงปลายเรื่องความทรงพลังทั้งหมดมันกลับค่อยๆแผ่วปลายไป ไม่ต่างอะไรกับเครื่อง 2 สูบ V-Twin ที่ปลายย้วย และมักโดน 4 สูบ กินขาด
ตัวหนังดำเนินเนื้อเรื่องผ่านฉากแอ็คชั่นที่สาดเข้ามาแทบจะตลอดเวลา แกนของเรื่องอย่างความเป็นมาของ Furiosa ดูทำไม่ค่อยถึงเท่าไหร่ เหมือนทำเพื่อจะให้ไปถึงฉากเเอ็คชั่นเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นใรส่วนของแอ็คชั่นมันก็ไม่ได้เยอะแยะมากมายเหมือนภาคที่มาก่อนอย่าง Mad max fury road
แต่ก็แลกมาด้วยการเปิดกว้างของโลกหลังล่มสลายไป ไม่ว่าจะพาเราไปทำความรู้จักกับ Gas Town หรือ Bullet farm ที่เอาตรงๆอยากให้ทำซีรีย์แยกออกมานะ ให้ขยายในส่วนต่างๆของเมืองมากกว่านี้ เพราะในหนังฉายแต่ภาพกว้างๆ ทำให้อดอยากดูวิถีชีวิตของชาวเมืองพวกนี้จริงๆว่าใช้ชีวิตกันยังไง
ในส่วนของตัวร้ายทำออกมาได้น่าประทับใจ ที่ดูเก่งกร้านโลก แต่ก็ไม่ได้ทิ้งความเป็นคนจนเก่งเวอร์วังอะไรขนาดนั้น ซึ่งผมเอาใจช่วยตัวร้ายนะ อาจจะเป็นเพราะมันพูดมากมั้ง สำหรับผม ตัวละครไหนมันพูดมาก มันยิ่งทำให้เรารู้จักมันมากขึ้น พอรู้จัก ก็อดคิดแทนมันไม่ได้ว่าถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบมัน เราจะทำแบบมันไหม
กลับกันตัวละครหลักอย่าง Furiosa บทพูดน้อยมาก ทำให้ผมรู้สึกต่อกับเธอไม่ติดเท่าไหร่ ถึงจะเห็นเธอมาตั้งแต่เด็กก็เถอะ แต่ด้วยความที่ Furiosa มีการตัดสินใจขัดแย้งในตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ผมเดาทางน้องไม่ถูก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ สังเกตว่ากลางเรื่องเธอตัดสินใจหนีกลับ โดยที่สายตาแทบจะปล่อยวางทุกอย่างแล้ว แต่ท้ายเรื่องเธอกลับพูดกับ Dementus เกี่ยวกับเรื่องของแม่ในตอนต้นเรื่อง ซึ่งผมคิดว่าถ้าบทตรงนี้เปลี่ยนจาก “เอ็งพรากแม่ไปจากข้า เอาชีวิตวัยเด็กข้าคืนมา” เป็น “เอ็งพรากทุกอย่างไปจากข้า ไม่ว่าจะแม่หรือคนสำคัญของข้า เอ็งเอาทุกอย่างของข้าไปหมดเลย ทีนี้ตาข้าบ้าง” ผมว่ามันจะดูเมคเซ้นขึ้นมาหน่อยนะ
กระทั่งข้อกังขาในเรื่องความเก่งกาจ ฉกาจฉกรรจ์ ไปเสียทุกเรื่อง ทั้งปืนทั้งรถ แม่นเหมือนจับวางทุกนัด ทุกเกียร์ มันเลยทำให้ดูห่างไกลกับโลกใบนี้จัง เทียบกับภาคก่อนหน้าอย่าง MAX คือพี่แก มีอ่อน มีโหดบ้างพอให้เอาใจช่วย ภาคนี้ เอาน้องไม่ลงเลย
และที่ผมผิดหวังที่สุดคือท้ายเรื่องนี่แหละ กับสงคราม40วัน พี่เอ้ยยยยย พี่เล่นMontageแบบนี้ เพื่อ!!!! และม่างตัดมาตอนจบเลย คืออะไร คือ
ไม่ต้องทำถึง 40 วันก็ได้ เอามาซักวันสองวันแรกก็ได้ ให้เห็นเดือดๆหน่อยเหอะ นี่อะไร๊! ตอนท้ายโคตรแผ่ว บิ้วมาซะ โอ้โห้ ทั้งสายตา ทั้งแขนเหล็ก ทำ ทำไม ทำไปเพื่ออะไร
สุดท้ายนี้ยังไงก็เชียร์ให้ไปดูครับ ด้วยสุ่มเสียงอันทรงพลังของเครื่องยนต์ กับงานภาพของเรื่องที่ผมว่า ดูในไหนก็ไม่ให้ฟีลเท่าโรงหนัง ไปดูแค่ต้นทางกลางเรื่องก็คุ้มแล้ว ส่วนตอนท้ายก็ช่างมันเหอะ
8/10
[CR] Furiosa: A Mad Max Saga : Harley Davidson แห่งโลกภาพยนตร์! torque ดุ แต่ปลายแผ่ว ย้วยจัด
การที่ตัวร้ายอย่าง Dementus ควบ Harley Davidson ไปตามถนนโลกันตร์อย่าบ้าคลั่งด้วยสุ่มเสียงอันทรงพลังและดิบเถื่อน มันช่างสมกับธีมของหนังเรื่องนี้เสียเหลือเกิน ที่ต้นไปจนถึงกลางเรื่องมันช่างดุเดือดเลือดพล่าน ขับขานพลังแห่งความโหดร้ายไปจนแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้
แต่พอถึงปลายเรื่องความทรงพลังทั้งหมดมันกลับค่อยๆแผ่วปลายไป ไม่ต่างอะไรกับเครื่อง 2 สูบ V-Twin ที่ปลายย้วย และมักโดน 4 สูบ กินขาด
ตัวหนังดำเนินเนื้อเรื่องผ่านฉากแอ็คชั่นที่สาดเข้ามาแทบจะตลอดเวลา แกนของเรื่องอย่างความเป็นมาของ Furiosa ดูทำไม่ค่อยถึงเท่าไหร่ เหมือนทำเพื่อจะให้ไปถึงฉากเเอ็คชั่นเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นใรส่วนของแอ็คชั่นมันก็ไม่ได้เยอะแยะมากมายเหมือนภาคที่มาก่อนอย่าง Mad max fury road
แต่ก็แลกมาด้วยการเปิดกว้างของโลกหลังล่มสลายไป ไม่ว่าจะพาเราไปทำความรู้จักกับ Gas Town หรือ Bullet farm ที่เอาตรงๆอยากให้ทำซีรีย์แยกออกมานะ ให้ขยายในส่วนต่างๆของเมืองมากกว่านี้ เพราะในหนังฉายแต่ภาพกว้างๆ ทำให้อดอยากดูวิถีชีวิตของชาวเมืองพวกนี้จริงๆว่าใช้ชีวิตกันยังไง
ในส่วนของตัวร้ายทำออกมาได้น่าประทับใจ ที่ดูเก่งกร้านโลก แต่ก็ไม่ได้ทิ้งความเป็นคนจนเก่งเวอร์วังอะไรขนาดนั้น ซึ่งผมเอาใจช่วยตัวร้ายนะ อาจจะเป็นเพราะมันพูดมากมั้ง สำหรับผม ตัวละครไหนมันพูดมาก มันยิ่งทำให้เรารู้จักมันมากขึ้น พอรู้จัก ก็อดคิดแทนมันไม่ได้ว่าถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบมัน เราจะทำแบบมันไหม
กลับกันตัวละครหลักอย่าง Furiosa บทพูดน้อยมาก ทำให้ผมรู้สึกต่อกับเธอไม่ติดเท่าไหร่ ถึงจะเห็นเธอมาตั้งแต่เด็กก็เถอะ แต่ด้วยความที่ Furiosa มีการตัดสินใจขัดแย้งในตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ผมเดาทางน้องไม่ถูก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระทั่งข้อกังขาในเรื่องความเก่งกาจ ฉกาจฉกรรจ์ ไปเสียทุกเรื่อง ทั้งปืนทั้งรถ แม่นเหมือนจับวางทุกนัด ทุกเกียร์ มันเลยทำให้ดูห่างไกลกับโลกใบนี้จัง เทียบกับภาคก่อนหน้าอย่าง MAX คือพี่แก มีอ่อน มีโหดบ้างพอให้เอาใจช่วย ภาคนี้ เอาน้องไม่ลงเลย
และที่ผมผิดหวังที่สุดคือท้ายเรื่องนี่แหละ กับสงคราม40วัน พี่เอ้ยยยยย พี่เล่นMontageแบบนี้ เพื่อ!!!! และม่างตัดมาตอนจบเลย คืออะไร คือ
ไม่ต้องทำถึง 40 วันก็ได้ เอามาซักวันสองวันแรกก็ได้ ให้เห็นเดือดๆหน่อยเหอะ นี่อะไร๊! ตอนท้ายโคตรแผ่ว บิ้วมาซะ โอ้โห้ ทั้งสายตา ทั้งแขนเหล็ก ทำ ทำไม ทำไปเพื่ออะไร
สุดท้ายนี้ยังไงก็เชียร์ให้ไปดูครับ ด้วยสุ่มเสียงอันทรงพลังของเครื่องยนต์ กับงานภาพของเรื่องที่ผมว่า ดูในไหนก็ไม่ให้ฟีลเท่าโรงหนัง ไปดูแค่ต้นทางกลางเรื่องก็คุ้มแล้ว ส่วนตอนท้ายก็ช่างมันเหอะ
8/10
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้