คำเตือน บทความมีเนื้อหาสปอย์หนัง Furiosa 

Furiosa คือหนังเรื่องที่ 5 และนับเป็นหนึ่งในเรื่องราวของจักรวาล Mad Max ที่เล่าถึงเรื่องราวหลังสงครามโลกครั้งที่ 3 จนโลกกลายเป็นแดนทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา ในจักรวาลหลักนั้นจะเล่าถึง Max และเรื่องราวที่เขาพบระหว่างตระเวณเดินทางไปในโลกที่แตกสลายเพื่อหาที่ Plains of Silence (ที่ราบแห่งความเงียบงัน) 

ในหนังเรื่องที่ 4 ของจักรวาล Mad Max:Fury Road จะเล่าถึงสิ่งที่ Max ประสบและการหลบหนีของเขาจากการไล่ล่าของ อิมมอร์แทน โจ ไปพร้อม ๆ กับ อิมเพอเรเตอร์(ผู้บัญชาการ)ของโจ ฟูริโอซ่า 

ส่วนในภาค Furiosa นี้เป็นการเล่าย้อนถึงความเป็นมาของตัว ฟูริโอซ่า เองตั้งแต่เด็กจนโตและไปเชื่อมกับภาค Fury Road ซึ่งทำให้ผู้ชมได้รับรู้เรื่องราวของโลก Mad Max อีกทางหนึ่งด้วย



ในหนังเราจะเห็นได้ว่าขณะนั้น แม้โลกจะล่มสลายแต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ร่วมกันกลายเป็นเมืองใหญ่อยู่ โดยหนังจะเล่าถึง 3 เมืองใหญ่ คือ แก๊สทาวน์, บูแลดฟาร์ม และ ซิทาเดล

ทั้งสามเมืองมีความสัมพันธ์แบบเกื้อกูลกัน  

แก๊สทาวน์ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งอีก 2 เมืองต้องการเพื่อนำไปใช้กับรถยนต์และเครื่องจักร

บูแลดฟาร์มผลิตอาวุธกระสุน  ซึ่งอีก 2 เมืองต้องการเพื่อใช้ในการป้องกันตัวเองและไล่ล่าทรัพยากรในโลกอันไร้ขื่อแปนี้

ซิทาเดลมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ทำให้สามารถเพาะปลูกผลิตอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมืองอื่น ๆ ก็ต้องการอาหารเพื่อเลี้ยงชีพประชากร

แต่ความสัมพันธ์นี้ก็ต้องสั่นคลอนจากการมาของ เดเมนทัส ขุนพลนักบิดที่ผู้เขียนเห็นทีไรก็นึก โอดิน จากตำนานเทพนอร์ส พร้อมเหล่าขุนศึกและไพล่พลคนไบค์เกอร์ของเค้าที่เร่ร่อน ล่าและปล้นชิงไปทั่ว wasteland



เมื่อ เดเมนทัส ค้นพบ ซิทาเดล สิ่งที่น่าสนใจคือเขาไม่ตีเมืองตรง ๆ แต่เลือกแสดงพลังและโน้มน้าวคนในเมื่องให้แข็งขืนกับผู้ปกครองคนปัจจุบันด้วยสัญญาว่าจะแบ่งผลประโยชน์ทรัพยากรให้มากขึ้น เหมือนช่วงหนึ่งในหนังที่ เดเมนทัส ให้กองคาราวานที่ต้อนจับมาได้สู้และฆ่ากันเองเพื่อแย่งเอาชีวิตรอดโดยได้รับเข้ากลุ่มไบค์เกอร์ ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่เสียไพล่พลและลงแรงมาก

ปัญหาคือ ซิทาเดล ที่ปกครองโดย อิมมอทัล โจ นั้นสามัคคีกว่าที่ เดเมนทัส คิด กำลังทหารเองก็เข็มแข็งและพร้อมยอมพลีชีพเพื่อผู้นำ อีกทั้งชัยภูมิที่เป็นเขาสูงก็ทำให้ได้เปรียบกองกำลังแว้นซิ่งของ เดเมนทัส ซึ่งเปรียบเหมือนเป็นกองทหารม้าอย่างมาก

การ “ล่าอาณานิคม” ครั้งแรกของ เดเมนทัส จึงจบลงที่ความพ่ายแพ้ ต้องหนีหัวซุกหัวซุน



สิ่งที่ทำให้ตัวละครอย่าง เดเมนทัส น่าสนใจคือ เมื่อ ซิทาเดล แข็งแกร่งจนตีตรง ๆ ไม่ได้ ก็เริ่มมองหาจุดอ่อน

และก็พบว่า ซิทาเดล มีการส่งรถบรรทุกไปแลกเปลี่ยนสินค้าเป็นน้ำมันจาก แก๊สทาวน์ เป็นประจำ ซึ่งหมายถึง ซิทาเดล มีความต้องการใช้น้ำมันสูงและอาจถึงขั้นอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีน้ำมัน

เดเมนทัส จึงเปลี่ยนแผนมายึดแก๊สทาวน์เพื่อไถ่ซิทาเดล โดยการโจมตีรถขนส่งจาก ซิทาเดล ส่งคนปลอมเป็น War Boy แล้วแสร้งทำเป็นว่าขบวนรถโดนโจมตี หลอกให้ แก๊สทาวน์ เปิดประตูเมืองให้เข้าไปหลบภัย พอเข้าไปได้แล้ว คนที่ซ่อนอยู่ก็จะออกมาเปิดประตูเมืองให้ไพล่พลคนไบค์เกอร์บุกเมือง

ม้าไม้เมืองทรอย คลาสสิกเสมอ



อันที่จริงแผนเกือบไม่สำเร็จแล้ว แต่ด้วยความเด็ดขาด หรืออาจจะผสมความเห็นแก่ตัวของ เดเมนทัส มองลูกน้องเป็นผักปลาด้วยก็ไม่แน่ใจ เมื่อ แก๊สทาวน์ มีทีท่าไม่หลงกล จึงสั่งให้ลูกน้องยิงเอาตายจริง ๆ กับคนของตัวเองที่ปลอมเป็น War Boy ทำให้ทาง แก๊สทาวน์ เชื่อและยอมเปิดประตูเมือง

เมื่อยึด แก๊สทาวน์ ได้แล้ว เดเมนทัส จึงได้แต้มต่อจำนวนมหาศาลเหนือ อิมมอทัล โจ และบีบให้ โจ ส่งน้ำและอาหารจำนวนมากขึ้นแลกกับน้ำมันได้สำเร็จ ส่วนโจก็ขอ ฟูริโอซ่า ซึ่งยังเด็กอยู่ขณะนั้นกับแพทย์ของ เดเมนทัส มาอยู่ด้วย

ถ้ามองแค่เป้าหมายก็คือว่า เดเมนทัส ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
แต่เราก็ได้เห็นข้อบกพร่องของ เดเมนทัส ด้วย นั้นคือไม่ใส่ใจความรู้สึกของลูกน้องตนเอง



จำได้ไหมว่าตอน เดเมนทัส ใช้แผนม้าไม้ลอบเข้าเมืองเพื่อยึดแก๊สทาวน์นั้น เพื่อให้แก๊สทาวน์เชื่อว่าเป็นรถจากซิทาเดลจริงจึงสั่งให้ยิงสังหารคนของตัวเองที่ปลอมตัวเป็น War Boy 

นี่ทำให้ OctoBoss หนึ่งในขุนศึกของ เดเมนทัส ซึ่งเป็นผู้นำหน่วย paramotor ไม่พอใจ คาดว่าเพราะเหล่า War Boy ตัวปลอมนั้นคือลูกน้องของแกเอง แม้หนังจะไม่เล่ารายละเอียดแต่ก็เล่าโดยสรุปผ่านปากตัวละครว่า OctoBoss ขุนศึกผู้นำหน่วย paramotor คนนั้นพร้อมลูกน้องจำนวนหนึ่ง ไม่รู้กี่มากน้อย แต่ผู้เขียนเชื่อว่าหน่วยเครื่องร่อนทั้งหมดได้แยกตัวออกมา ไม่อยู่ภายใต้ เดเมนทัส อีกต่อไป

นี่ทำให้ความสามารถในการรบและไล่ล่าของกลุ่มไบค์เกอร์ของ เดเมนทัส ลดลงอย่างมาก อย่างในหนังซึ่งได้แสดงให้ว่าหน่วย paramotor นั้นสามารถใช้การบินและตำแหน่งที่สูงกว่าสร้างความได้เปลี่ยนในการไล่ล่าได้ขนาดไหน 

ถ้ากลุ่มนี้ยังอยู่กับ เดเมนทัส บางที เดเมนทัส อาจจะตี ซิทาเดล ได้สำเร็จก็ได้



ข้อบกพร่องของ เดเมนทัส อีกข้อหนึ่งคือ เขาอาจจะเก่งในการควบคุมกองกำลัง แต่การปกครองประชาชน บริหารบ้านเมืองนั้น ไม่ได้เรื่องเลย

ในหนังไม่ระบุสาเหตุว่าอะไร แต่ก็ถึงขนาดประชาชนใน แก๊สทาวน์ ที่แทบไม่มีอาวุธ ไม่พอใจ ลุกฮือขึ้นสู้กับกองกำลังไบค์เกอร์เลยทีเดียว

เดเมนทัส จึงใช้วิธีโทษคนอื่น
ผู้เขียนนึกถึงเยอร์มันหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ขึ้นมาเลย

บอกประชาชนว่า ที่ขาดแคลนอาหารจนประชาชนต้องอดอยากนั้น ก็เพราะ ซิทาเดล ไม่ส่งอาหารมาให้ตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ (ทั้ง ๆ  ซิทาเดล ส่งอาหารมาให้เยอะแล้วขึ้นตามที่ตกลงไว้หลัง แก๊สทาวน์ โดน เดเมนทัส ยึดใหม่ ๆ )

เชื่อว่า กองกำลังไบค์เกอร์ อาจจะด้วยความเห็นชอบของ เดเมนทัส ด้วยก็เป็นได้ เก็บอาหารส่วนใหญ่ไว้กินกันเอง แทบไม่แจกจ่ายประชาชน จึงเกิดการลุกฮือขึ้นในที่สุด



แก๊สทาวน์ ภายใต้การปกครองของ เดเมนทัส เริ่มสร้างปัญหาต่อทั้ง ซิทาเดล และ บูแลดฟาร์ม ขึ้นเรื่อย ๆ เช่น เพิ่มอัตราแลกเปลี่ยนน้ำมันกับอาหารหรืออาวุธกระสุนแบบน่าเกลียด จนในที่สุด ผู้นำบูแลดฟาร์มก็ทนไม่ไหว มาคุยกับ โจ ผู้นำ ซิทาเดล ให้จัดการกับ เดเมนทัส โดยจะสนับสนุนอาวุธให้ ซึ่ง โจ ได้สั่งให้ส่ง War Rig (ขบวนรถบรรทุก) ไป บูแลดฟาร์ม ขนกระสุนมาให้มากที่สุดเพื่อเตรียมความพร้อมก่อน 

ทว่า เดเมนทัส กลับเร็วกว่า หรืออ่านเกมขาดกว่า หรือเพราะตั้งใจจะตัดกำลัง ซิทาเดล อยู่แล้ว จึงชิงยึด บูแลดฟาร์ม ได้ก่อนและล่อให้  War Rig ที่มี ฟูริโอซ่า ไปด้วยนั้นเข้าเมือง ปิดประตูขังแล้วโจมตี War Rig คาดว่าเป้าหมายเพื่อทำลาย War Rig ที่ทำหน้าที่เหมือนรถบรรทุกทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อตัดทรัพยากร รวมถึงปิดปากไม่ให้ทาง ซิทาเดล รู้ว่า บูแลดฟาร์ม โดนยึดไปแล้ว

ปิดประตูตีแมว คลาสสิกแม้ในวันสิ้นโลก


 
ทว่ากลับผิดแผน การโต้กลับของ แจ๊ก คนขับ War Rig และ ฟูริโอซ่า ทำให้ บูแลดฟาร์ม เสียหายหนัก หนังไม่ได้เล่าว่ากระทบต่อกำลังการผลิตขนาดไหนแต่เชื่อว่ากระทบมากแน่ ๆ 

อย่างไรก็ตาม เดเมนทัส สามารถสังหาร War Boy ทุกคนได้สำเร็จ ทั้งยังจับตัว ฟูริโอซ่า ที่ตอนนั้นแขนซ้ายบาดเจ็บสาหัสและ แจ๊ก เพื่อนร่วมรบได้สำเร็จ จากนั้นก็สำเร็จโทษ แจ๊ก และจับ ฟูริโอซ่า มัดมือข้างหนึ่งแล้งดึงขึ้น แขวนให้ตัวลอยคอยดู แจ๊ก โดนลงทัณฑ์จนตาย 

ตรงนี้เองที่ เดเมนทัส ทำพลาด

ขณะที่ลูกน้องกำลังจับ ฟูริโอซ่า มัดมือเตรียมแขวน ลูกน้องเลือกมือขวาที่ปกติดี แต่พอ เดเมนทัส เห็นกลับสั่งให้มัดมือซ้ายที่บาดเจ็บหนักแทน 

เชื่อว่า เดเมนทัส จงใจทรมาน ฟูริโอซ่า ไปด้วยจึงให้มัดมือข้างที่บาดเจ็บแขวน

แต่ เดเมนทัส ประเมิน ฟูริโอซ่า ต่ำไป เธอใจกล้าพอที่จะตัดแขนข้างที่โดนมัดออก ซึ่งตัดสินใจได้ขึ้นง่ายมาเพราะแขนข้างนั้นใช้งานไม่ได้แล้ว จากนั้นแอบชิงมอเตอร์ไซส์หลบหนีไปไปยัง ซิทาเดล ได้สำเร็จ และแจ้งข่าวเรื่อง บูแลดฟาร์ม ให้ทราบก่อนที่ โจ จะโดน เดเมนทัส หลอกให้เคลื่อนกองกำลังออกไปยัง แก๊สทาวน์ แล้วชิงเข้าตี ซิทาเดล ตอนที่กำลังพลส่วนหนึ่งไม่อยู่ป้องกันเมือง



ส่วนตัวแล้ว คาดว่านอกจากแผนของ เดเมนทัส ที่จะล่อให้กำลังหลักออกไปยัง แก๊สทาวน์ ค่อยเข้าตี ซิทาเดล แล้ว อีกเป้าหมายของแผนนี้คงเพื่อล่อให้กำลังส่วนใหญ่ออกมาจาก ซิทาเดล ที่ได้เปรียบเรื่องที่ตั้งมากำจัดเสียในการรบบนที่ราบซึ่งทัพของ เดเมนทัส ได้เปรียบกว่ามาก พอกำลังพลของ ซิทาเดล  ร่อยหรอลงจึงค่อยตี  ซิทาเดล 

เป็นไปตามหนึ่งในพิชัยยุทธ์ซุนวู ข้าศึกรวมกันให้แยก หรือไม่ก็ ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม

ตรงนี้ในหนังมีจุดที่น่าสนใจคือ ในการเคลื่อนพลของ เดเมนทัส นั้น เขาเดินทัพในร่องเนิน ทำให้ข้าศึกมองเห็นได้ยาก แถมยังใช้รถสเปรย์ยางมะตอยนำ ทำให้ทัพไบค์เกอร์จำนวนมหาศาลของ เดเมนทัส เคลื่อนพลได้โดยไม่มีฝุ่นกระจายให้สังเกตเห็น แถมยังอาศัยฝุ่นที่ฝุ้งขึ้นมาเพื่อสังเกตว่าทัพใหญ่ของ โจ ออกไปยัง แก๊สทาวน์ แล้วตามแผนรึยัง



ก่อนที่ต่อมาหนังจะเฉลยว่า โจ เองก็เล่นกลศึกเป็นเช่นกัน ทัพใหญ่ของ โจ ที่ออกไปยัง แก๊สทาวน์ นั้นจริง ๆ แล้วแค่รถไม่กี่คัน คนไม่กี่คน แต่ติดที่ตะกุยดินให้ ฝุ่นฝุ้งมาก ๆ เหมือนว่าเป็นทัพใหญ่เคลื่อนพล

จริงคือเท็จ เท็จคือจริง

นี่ทำให้เกิดสงครามแบบเต็มอัตราศึกระหว่าง โจ แห่ง ซิทาเดล กับ เดเมนทัส ซึ่งในหนังเล่าว่ารบกัน 40 วัน จนศึกนี้ถูกเล่าขานว่าสงคราม 40 วัน และจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ เดเมนทัส

น่าเสียดายว่าหนังเลือกที่จะเล่าข้าม ไม่กล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับสงครามนี้ ทำให้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ไม่รู้ว่า เดเมนทัส แพ้ ได้ยังไง

จากนี้ไปจึงเป็นคาดเดาความเป็นไปของสงครามนี้



ปัจจัยแรกที่ทำให้ เดเมนทัส แพ้คือ ข่าวรั่ว 
เพราะ ฟูริโอซ่า รอดไปแจ้งข่าวให้ โจ ทัน ซึ่ง อันนี้นับว่าเป็นความโชคร้ายของ เดเมนทัส เองด้วย ที่คนแขนขาดดันรอดไปถึง ซิทาเดล ได้

ผลจากข่าวรั่วนี้ทำให้ โจ ดำเนินกลยุทธได้ถูกต้อง นอกจากจะไม่ติดกับ ส่งกำลังส่วนใหญ่ไป แก๊สทาวน์ และซ้อนแผนลวงกลับแล้ว ยังสั่งให้ลดกิจกรรมที่ต้องใช้น้ำมันลงอยู่ในระดับต่ำสุดเพื่อประหยัดเชื้อเพลิง ทำให้  ซิทาเดล มีน้ำมันเหลือพอใช้ได้นานขึ้น



ปัจจัยที่ 2 คือ ชัยภูมิ

ด้วยความที่ ซิทาเดล มีชัยภูมิเป็นภูเขาผาสูงชัน จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ทัพไบค์เกอร์จะบุกเข้าไปตรง ๆ 

วิธีที่ผู้เขียนนึกออกคือโจมตีจากข้างบน ส่งพลรบลงบนเขาแล้วเข้ายึดลิฟท์หรือโรยเชือกหรืออะไรก็ตามลงมาให้ไพล่พลของ เดเมนทัส ปีนขึ้นไปได้

แต่การจะทำแบบนั้นได้ต้องมีคนที่บินร่อนบนท้องฟ้าได้

และคนที่ทำแบบนั้นได้คือหน่วย paramotor ซึ่ง ปลีกตัวออกไปจาก เดเมนทัส และตายกันหมดหรือเกือบหมดแล้ว

ทำให้ทางเลือกของ เดเมนทัส ในการตี ซิทาเดล ลดลงไปอีก