"กระเทียม"
กระเทียมไม่ใช่แค่ส่วนผสมในการทำอาหารเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
 
“กระเทียม” เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการปรุงอาหารไทย โดยเชื่อกันว่าชาวจีนเป็นผู้นำเข้ามาให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งกระเทียมถือเป็นพืชโบราณที่รู้จักกันมานานหลายร้อยปีแล้วในแถบเอเชียกลาง ต่อมาได้แพร่หลายออกไปยังแถบตะวันออกกลางและประเทศใกล้เคียง โดยในยุคโบราณนั้นแต่เดิมกระเทียมนิยมใช้ทำเป็นยาที่มากสรรพคุณในการรักษา จากนั้นจึงพัฒนาความนิยมมาทำเป็นเครื่องเทศไว้ใส่ในอาหาร จนในที่สุดเวลาผ่านไป มีการใช้กระเทียมกันอย่างแพร่หลายมากพอๆ กับขิงและหัวหอมในหลายพื้นที่ทั่วโลก
ประโยชน์ของกระเทียม
ช่วยป้องกันโรคไข้หวัด
ช่วยต้านความดันโลหิตสูง & คอเลสเตอรอล
ลดอาการท้องอืด
ช่วยลดอาการปวดฟันด้วยวิธีธรรมชาติ
ช่วยปกป้องร่างกายจากแบคทีเรีย
แต่ละประเทศแต่ละที่ก็มีประวัติศาสตร์และวิธีการบริโภคหรือการนำกระเทียมมาปรุงอาหารแตกต่างกันไป แต่จุดที่เหมือนกัน คือ กระเทียมอยู่ในฐานะวัตถุดิบที่มีกลิ่นหอมที่ช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับจานอาหารได้อย่างดี
 
วิธีการถนอมกระเทียมในประเทศเกาหลี
 
ตัวอย่างเช่น ในประเทศเกาหลีนั้นมีกระบวนการที่ซับซ้อนในการทำกระเทียมเชื่อม โดยการนำกระเทียมไปตากแดดนานหลายสัปดาห์จนกลีบกระเทียมนุ่มและเป็นสีดำ ซึ่งจะทำให้เนื้อกระเทียมหวานอมเปรี้ยวนิดๆ เริ่มแรกได้นำมาใช้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ และยังนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารให้มีรสชาติที่อร่อยขึ้นอีกด้วย หรืออย่างทุกวันนี้ทางฝั่งประเทศตะวันตก พ่อครัวก็เริ่มมีการใช้กระเทียมดำในการสร้างสรรค์เมนูให้เกิดกระแสใหม่ๆ ขึ้นมา
 
 
กระเทียมดองในประเทศจีน
 
หรือแม้ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศจีนยังพบว่า มีวัฒนธรรมการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง คือ การเก็บแช่กระเทียมสีม่วงไว้ในน้ำส้มสายชูที่หมักจากข้าวไว้นานหลายสัปดาห์ เมื่อหมักกระเทียมจนได้ที่ เนื้อกระเทียมจะกลายเป็นสีเขียวและมีรสชาติที่พิเศษแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งชาวจีนจะเตรียมกระเทียมนี้ไว้สำหรับช่วงเทศกาลในฤดูใบไม้ผลิ โดยมีชื่อเรียกว่า “กระเทียม ลาบา” ถือเป็นอาหารชูรสที่สุดวิเศษ นิยมกินคู่กับเกี๊ยวในมื้อเย็น
 
กระเทียมในประเทศไทย
สำหรับเมืองไทย เราใช้วิธีการดอง อบ หรือไม่ก็ใช้กระเทียมสดมาทำอาหาร อาจจะใช้ทั้งกลีบ ทุบ บีบให้แตก หรือสับให้ละเอียดก็ได้ทั้งนั้น พ่อครัวบางคนอาจแช่กระเทียมดิบในน้ำมันพืชเพื่อดึงเอารสชาติออกมา แล้วนำน้ำมันนี้มาใช้ผัดอาหารให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น
ซึ่งความหลากหลายของชนิดกระเทียมนั้น ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่เพาะปลูก โดยกระเทียมในแถบเอเชียจะมีรสชาติและกลิ่นที่แรงกว่ากระเทียมที่ปลูกในตะวันตก โดยเฉพาะกระเทียมไทยนั้นมีกลิ่นแรงมาก แต่สามารถลดกลิ่นลงและทำให้มีรสชาติหวานขึ้นได้ตามระยะเวลาที่ปรุงอาหาร คือ ยิ่งปรุงให้สุกกลิ่นก็จะฉุนน้อยลงรสชาติหวานขึ้น และยังมีผลทำให้ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายมากขึ้นด้วย
จะเห็นว่ากระเทียมนั้นมีประวัติศาสตร์การนำมาใช้ปรุงอาหารแพร่หลายแทบทุก พื้นที่ในโลก สะท้อนให้เห็นว่า กระเทียมนั้นเป็นวัตถุดิบชั้นยอด ที่คนทั้งโลกต่างยกให้เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมให้ กับจานอาหารได้เป็นอย่างดี

Cr. Uniliverfoodsolutions