จากข้อมูลของอุตสาหกรรมการลงทุนทางการเงินเมื่อ วันที่ 15
HYBE ได้ยื่นคำร้องต่อ
FSS (Financial Supervisory Service) ในวันที่ 14 เพื่อขอให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ว่าผู้บริหาร
ADOR รวมถึงซีอีโอ
มินฮีจิน แพร่กระจายข้อมูลที่เป็นเท็จ, การปรับตลาดราคาและการซื้อขายหุ้นโดยใช้ข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัท
ว่ากันว่า HYBE ได้รวมคำขอให้สอบสวนนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ
นาย A ไว้ในคำร้องนี้ด้วย
ตามอุตสาหกรรมในระหว่างกระบวนการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของ ADOR
ตามคำกล่าวอ้างของ
HYBE
HYBE พบว่า
นาย A ได้จัดการประชุมแยกกันระหว่างผู้บริหารของ ADOR และนักลงทุนต่างชาติที่มาเยือนเกาหลีเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา
ในการประชุมครั้งนี้เป็นที่รู้กันว่านักลงทุนต่างชาติระบุว่าพวกเขายินดีลงทุนทันทีหากมูลค่าของ ADOR อยู่ที่ประมาณ 1.4 ล้านล้านวอน
สิ่งนี้ขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของ
มินฮีจิน ในงานแถลงข่าวที่ว่าเขาไม่เคยพบกับนักลงทุนรายใดเลย
ในวันที่ 15 เมษายน รองประธาน ADOR ได้ขายหุ้นที่ HYBE มอบให้ทั้งหมด 950 หุ้น ในราคามูลค่า 200 ล้านวอน
HYBE มองว่านี่เป็นการเตรียมการสำหรับราคาหุ้นที่ลดลงโดยใช้ข้อมูลที่ป็นความลับของริษัท
ช่วงเวลาในการขายหุ้นของรองประธาน ADOR คือหนึ่งวันก่อนที่ผู้บริหาร ADOR รวมถึงซีอีโอ มินฮีจิน จะส่ง 'อีเมลฉบับที่สอง' ที่ทำให้เกิดข้อสงสัยต่าง ๆ รวมถึงกล่าวอ้างว่า HYBE มีการจัดการที่ไม่ดี และเลือกปฏิบัติต่อ ADOR
HYBE เชื่อว่า
นาย A ให้ความเห็นทบทวนเกี่ยวกับการยึดสิทธิการจัดการ โดยเสนอเงื่อนไขในการแก้ไขข้อตกลงผู้ถือหุ้นที่ลงนามโดย HYBE และซีอีโอ มินฮีจิน และจัดประชุมกับนักลงทุนต่างชาติเพื่อขายหุ้น ADOR
พบว่า
นาย A ได้รับคำขอจากรองประธานา ADOR ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีบทบาทสำคัญในการพยายามที่จะแยกตัวออกเป็นอิสระในการบริหารจัดการ
รองประธาน ADOR ถูกเรียกว่า 'มือขวาของมินฮีจิน' เขาย้ายจาก HYBE ไปที่ ADOR เมื่อต้นปีนี้ ก่อนจะถูกสงสัยว่าทำความลับทางการค้าที่สำคัญ (สัญญาต่างๆ) ของ HYBE รั่วไหล
กล่าวกันว่ามีการเตรียมเอกสารสรุปแผนการชักจูงให้ HYBE ให้ขายหุ้น ADOR โดยสรุปสินทรัพย์ข้อมูลที่ HYBE รักษาความปลอดภัยไว้ และเริ่มกระบวนการดำเนินการโดยให้รองประธานถ่ายทอดเรื่องที่ฝ่ายบริหารของ ADOR หารือกับ นาย A จากนั้นรับความคิดเห็นทบทวนและรายงานต่อซีอีโอมินฮีจิน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
นาย A ยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับเงื่อนไขทางเลือกในข้อตกลงผู้ถือหุ้นที่ลงนามระหว่าง HYBE และ ซีอีโอมินฮีจิน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเป็นแกนหลักของความขัดแย้งนี้ ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มินฮีจิน ขอให้ HYBE แก้ไขข้อตกลงระหว่างผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับการจำหน่ายหุ้น ADOR ตามสัญญา
มินฮีจิน สามารถโอนหุ้น 13.5% ของเขาไปยัง HYBE ผ่านทางออปชั่นพุต และในช่วงเวลานั้น เขาขอให้ HYBE ประเมินมูลค่าของ ADOR จาก 13 เท่าของกำไรจากการดำเนินงานเป็น 30 เท่า
นาย A เชื่อว่ามาตรฐานในการกำหนดมูลค่าของ ADOR อาจสูงถึง 35 เท่าของกำไรจากการดำเนินงาน ดังนั้นจึงมีรายงานว่าเขาแนะนำให้ มินฮีจิน เสนอมาตรฐานออปชั่นพุทออปชันที่ประมาณ 30 เท่าของกำไรจากการดำเนินงาน และดำเนินการโดยมีเป้าหมายในการตกลงเป็น 20 เท่าของจำนวนเงินในการเจรจาขั้นสุดท้าย
HYBE อ้างว่าการสมรู้ร่วมคิดของ
นาย A ส่งผลให้เกิดการสูญเสียทางธุรกิจ รวมถึงการสูญเสียชื่อเสียงของบริษัทและศิลปินโดยรวม
โดยเฉพาะอย่างซีอีโอ มินฮีจิน ที่อ้างสิทธิ์เกี่ยวกับ HYBE โดยมีเนื้อหาคล้ายกับคำแนะนำของ
นาย A และเมื่อเนื้อหาเหล่านี้กลายเป็นประเด็น ราคาหุ้นของ HYBE ก็ลดลง
เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมรายหนึ่งกล่าวว่า “การใช้ข้อมูลที่เป็นความลับของนาย A เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวนั้นขัดต่อกฎระเบียบด้านจริยธรรมของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์”
“และการแพร่กระจายข่าวลือเพื่อจุดประสงค์ในการซื้อขายหรือความผันผวนของตลาด เพื่อชักจูงให้เกิดการกระทำบางอย่างโดยการหลอกลวงนักลงทุนที่ไม่ระบุรายละเอียดนั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย นับเป็นการฝ่าฝืนกฏหมายตลาดทุน” เขากล่าว
.
.
ในขณะเดียวกัน ADOR คัดค้านคำขอของ HYBE ในการสอบสวนโดย FSS โดยกล่าวว่า
“มันเป็นเจตนาร้ายที่จะทำให้ผู้บริหารของ ADOR เสื่อมเสียและทำให้พวกเขาถูกไล่ออก”
ในส่วนที่น่าสงสัยว่ารองประธาร ADOR ขายหุ้น HYBE ทั้งหมดที่เขาถือไว้หนึ่งสัปดาห์ก่อนการตรวจสอบของ HYBE เขากล่าวว่า "ฝ่ายบริหารของ ADOR ไม่ได้ทราบถึงแผนการตรวจสอบของ HYBE ล่วงหน้า” และกล่าวเสริมว่า "รองประธานเซ็นสัญญาเช่าบ้านเมื่อวันที่ 8 เมษายน เขาปฏิเสธโดยกล่าวว่า “หุ้นถูกขายเพื่อชำระยอดค่าบ้านเช่า โดยส่วนต่างเพียง 19 ล้านวอน”
[EXCLUSIVE] HYBE ยื่นคำร้องต่อ FSS ให้สอบสวนผู้บริหาร ADOR จากข้อสัยว่ามีการจัดประชุมกับนักลงทุนต่างชาติ
ว่ากันว่า HYBE ได้รวมคำขอให้สอบสวนนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ นาย A ไว้ในคำร้องนี้ด้วย
ตามอุตสาหกรรมในระหว่างกระบวนการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของ ADOR
ตามคำกล่าวอ้างของ HYBE
HYBE พบว่านาย A ได้จัดการประชุมแยกกันระหว่างผู้บริหารของ ADOR และนักลงทุนต่างชาติที่มาเยือนเกาหลีเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา
ในการประชุมครั้งนี้เป็นที่รู้กันว่านักลงทุนต่างชาติระบุว่าพวกเขายินดีลงทุนทันทีหากมูลค่าของ ADOR อยู่ที่ประมาณ 1.4 ล้านล้านวอน
สิ่งนี้ขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของ มินฮีจิน ในงานแถลงข่าวที่ว่าเขาไม่เคยพบกับนักลงทุนรายใดเลย
ในวันที่ 15 เมษายน รองประธาน ADOR ได้ขายหุ้นที่ HYBE มอบให้ทั้งหมด 950 หุ้น ในราคามูลค่า 200 ล้านวอน
HYBE มองว่านี่เป็นการเตรียมการสำหรับราคาหุ้นที่ลดลงโดยใช้ข้อมูลที่ป็นความลับของริษัท
ช่วงเวลาในการขายหุ้นของรองประธาน ADOR คือหนึ่งวันก่อนที่ผู้บริหาร ADOR รวมถึงซีอีโอ มินฮีจิน จะส่ง 'อีเมลฉบับที่สอง' ที่ทำให้เกิดข้อสงสัยต่าง ๆ รวมถึงกล่าวอ้างว่า HYBE มีการจัดการที่ไม่ดี และเลือกปฏิบัติต่อ ADOR
HYBE เชื่อว่านาย A ให้ความเห็นทบทวนเกี่ยวกับการยึดสิทธิการจัดการ โดยเสนอเงื่อนไขในการแก้ไขข้อตกลงผู้ถือหุ้นที่ลงนามโดย HYBE และซีอีโอ มินฮีจิน และจัดประชุมกับนักลงทุนต่างชาติเพื่อขายหุ้น ADOR
พบว่านาย A ได้รับคำขอจากรองประธานา ADOR ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีบทบาทสำคัญในการพยายามที่จะแยกตัวออกเป็นอิสระในการบริหารจัดการ
รองประธาน ADOR ถูกเรียกว่า 'มือขวาของมินฮีจิน' เขาย้ายจาก HYBE ไปที่ ADOR เมื่อต้นปีนี้ ก่อนจะถูกสงสัยว่าทำความลับทางการค้าที่สำคัญ (สัญญาต่างๆ) ของ HYBE รั่วไหล
กล่าวกันว่ามีการเตรียมเอกสารสรุปแผนการชักจูงให้ HYBE ให้ขายหุ้น ADOR โดยสรุปสินทรัพย์ข้อมูลที่ HYBE รักษาความปลอดภัยไว้ และเริ่มกระบวนการดำเนินการโดยให้รองประธานถ่ายทอดเรื่องที่ฝ่ายบริหารของ ADOR หารือกับ นาย A จากนั้นรับความคิดเห็นทบทวนและรายงานต่อซีอีโอมินฮีจิน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นาย A ยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับเงื่อนไขทางเลือกในข้อตกลงผู้ถือหุ้นที่ลงนามระหว่าง HYBE และ ซีอีโอมินฮีจิน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเป็นแกนหลักของความขัดแย้งนี้ ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มินฮีจิน ขอให้ HYBE แก้ไขข้อตกลงระหว่างผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับการจำหน่ายหุ้น ADOR ตามสัญญา
มินฮีจิน สามารถโอนหุ้น 13.5% ของเขาไปยัง HYBE ผ่านทางออปชั่นพุต และในช่วงเวลานั้น เขาขอให้ HYBE ประเมินมูลค่าของ ADOR จาก 13 เท่าของกำไรจากการดำเนินงานเป็น 30 เท่า
นาย A เชื่อว่ามาตรฐานในการกำหนดมูลค่าของ ADOR อาจสูงถึง 35 เท่าของกำไรจากการดำเนินงาน ดังนั้นจึงมีรายงานว่าเขาแนะนำให้ มินฮีจิน เสนอมาตรฐานออปชั่นพุทออปชันที่ประมาณ 30 เท่าของกำไรจากการดำเนินงาน และดำเนินการโดยมีเป้าหมายในการตกลงเป็น 20 เท่าของจำนวนเงินในการเจรจาขั้นสุดท้าย
HYBE อ้างว่าการสมรู้ร่วมคิดของนาย A ส่งผลให้เกิดการสูญเสียทางธุรกิจ รวมถึงการสูญเสียชื่อเสียงของบริษัทและศิลปินโดยรวม
โดยเฉพาะอย่างซีอีโอ มินฮีจิน ที่อ้างสิทธิ์เกี่ยวกับ HYBE โดยมีเนื้อหาคล้ายกับคำแนะนำของ นาย A และเมื่อเนื้อหาเหล่านี้กลายเป็นประเด็น ราคาหุ้นของ HYBE ก็ลดลง
เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมรายหนึ่งกล่าวว่า “การใช้ข้อมูลที่เป็นความลับของนาย A เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวนั้นขัดต่อกฎระเบียบด้านจริยธรรมของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์”
“และการแพร่กระจายข่าวลือเพื่อจุดประสงค์ในการซื้อขายหรือความผันผวนของตลาด เพื่อชักจูงให้เกิดการกระทำบางอย่างโดยการหลอกลวงนักลงทุนที่ไม่ระบุรายละเอียดนั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย นับเป็นการฝ่าฝืนกฏหมายตลาดทุน” เขากล่าว
.
.
ในขณะเดียวกัน ADOR คัดค้านคำขอของ HYBE ในการสอบสวนโดย FSS โดยกล่าวว่า
“มันเป็นเจตนาร้ายที่จะทำให้ผู้บริหารของ ADOR เสื่อมเสียและทำให้พวกเขาถูกไล่ออก”
ในส่วนที่น่าสงสัยว่ารองประธาร ADOR ขายหุ้น HYBE ทั้งหมดที่เขาถือไว้หนึ่งสัปดาห์ก่อนการตรวจสอบของ HYBE เขากล่าวว่า "ฝ่ายบริหารของ ADOR ไม่ได้ทราบถึงแผนการตรวจสอบของ HYBE ล่วงหน้า” และกล่าวเสริมว่า "รองประธานเซ็นสัญญาเช่าบ้านเมื่อวันที่ 8 เมษายน เขาปฏิเสธโดยกล่าวว่า “หุ้นถูกขายเพื่อชำระยอดค่าบ้านเช่า โดยส่วนต่างเพียง 19 ล้านวอน”