โชห่วย โอด กำลังซื้อฟุบยาว ฉุดยอดขายหาย 30% เหล้า เบียร์ ชูกำลัง ร่วงหนัก

เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.matichon.co.th/economy/news_4516791

โชห่วย โอด กำลังซื้อฟุบยาว ฉุดยอดขายหาย 30% เหล้า เบียร์ ชูกำลัง ร่วงหนัก
เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายสมชาย พรรัตนเจริญ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมกำลังซื้อยังซบเซาต่อเนื่องจากไตรมาสแรกของปี 2567 เนื่องจากคนรายได้เท่าเดิม แต่ภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จึงทำให้ไม่มีกำลังจะจับจ่ายใช้สอย ซึ่งยอดขายของร้านค้าโชห่วยในไตรมาสแรกที่ผ่านมาหายไปร่วม 30% ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค รวมถึงเครื่องดื่มชูกำลังและเหล้ากับเบียร์ที่ยอดขายตกต่อเนื่องเช่นกัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนหันไปดื่มเครื่องดื่มประเภทอื่นที่มีราคาถูกกว่า เช่น น้ำกระท่อม
 
“ช่วงนี้ยอดขายมีคึกคักบ้างเพราะใกล้สงกรานต์ ที่ร้านค้าอาจจะหยุดหลายวันคนจึงมาซื้อของตุนไว้ อย่างเช่น เหล้า เบียร์ มีมาซื้อในปริมาณมากขึ้นกว่าปกติ แต่สินค้าอื่นๆ ยังขายปกติ“ นายสมชายกล่าว
นายสมชายกล่าวว่า ทั้งนี้ คาดว่ากำลังซื้อโดยรวมจะซึมไปถึงไตรมาส 3 และรอลุ้นไตรมาส 4 ที่รัฐจะมีการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หากออกมาได้จริงคาดว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้คึกได้ แต่ไม่อยากให้ไปตกอยู่กับผู้ประกอบการรายใหญ่ อยากให้กระจายสู่ร้านค้าชุมชนด้วย รวมถึงไม่อยากให้การเข้าถึงมีความยุ่งยากเหมือนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ให้มีการสแกนใบหน้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายร้านค้าหายไปค่อนข้างมาก

“ส่วนราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร มีผลต่อการขนส่งแน่นอน แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ยังไม่ดี มองว่าผู้ผลิตคงจะยังไม่ปรับราคาสินค้าขึ้น เพราะขายแพงก็ขายไม่ได้ ดูจากที่ก่อนหน้านี้มีนมเปรี้ยวและเครื่องดื่มชูกำลังบางยี่ห้อได้ปรับราคาขายขึ้น สุดท้ายก็ปรับลงเพราะขายไม่ได้” นายสมชายกล่าว

นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ จ.อุดรธานี กล่าวว่า ยอดขายไตรมาสแรกยังคงซบเซา ยอดขายหายไปประมาณ 20% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต้องสแกนใบหน้า ที่ทำให้ยอดขายที่ร้านหายไปร่วม 40-50% เพราะคนหันไปซื้อร้านอยู่ใกล้บ้านแทน คาดว่ากำลังซื้อจะซึมยาวถึงไตรมาส 3 ส่วนไตรมาส 4 รอลุ้นเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่รัฐจะผลักดันออกมา เชื่อว่าจะทำให้กระตุ้นกำลังซื้อให้คึกคักขึ้นมาได้บ้าง
 
“สินค้าที่ยอดขายตกอย่างต่อเนื่องคือเครื่องดื่มชูกำลัง เหล้าและเบียร์ เพราะคนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และอีกเหตุผลหนึ่งที่สังเกตเห็น คงเป็นเพราะคนหันไปกินน้ำกระท่อมที่ราคาถูกกว่าแทน” นายมิลินทร์กล่าว

นายมิลินทร์กล่าวว่า เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในวันที่ 1-10 พฤษภาคม 2567 ผู้ประกอบการค้าปลีก 88 ร้านทั่วประเทศจะจัด Local Low Cost นำสินค้ามาลดราคา 30-40% ซึ่งครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 4 และจะจัดทุกเดือนที่สองของไตรมาสตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นคนละแคมเปญกับที่ร้านค้าจัดเป็นประจำอยู่แล้ว
“การปรับขึ้นราคาดีเซล 50 สตางค์ต่อลิตรนั้น ตอนนี้อาจจะยังไม่ส่งผลกระทบมาก แต่เมื่อไรที่ขึ้นมากกว่า 1 บาทต่อลิตร มีผลกระทบต่อต้นทุนราคาสินค้าอย่างแน่นอน” นายมิลินทร์กล่าว

แหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกค้าส่ง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ยอดขายไตรมาสแรกต่ำจากเป้า 5-10% เพราะกำลังซื้อยังไม่ค่อยดี แต่ที่ยอดขายไม่ตกลงไปมาก เพราะมีจัดโปรโมชั่นลดราคาอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถดึงลูกค้าเข้าร้านได้ และในวันที่ 1-10 พฤษภาคมนี้ จะมีการจัดลดราคาครั้งใหญ่ร่วมกับผู้ประกอบการค้าปลีกอีก 80 ร้านทั่วประเทศเพื่อกระตุ้นอีกแรง เพราะลูกค้าเปลี่ยนไปซื้อเฉพาะสินค้าจำเป็น ลดซื้อของฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องสำอาง เป็นต้น คงต้องรอลุ้นไตรมาส 4 จากเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่รัฐบาลจะนำมากระตุ้นเศรษฐกิจ หวังว่าจะทำให้กำลังซื้อดีขึ้นมาบ้าง

“ส่วนเหล้าและเบียร์หลังยอดขายตกต่อเนื่องมาตั้งแต่โควิด ช่วงนี้ดีขึ้นเล็กน้อยเพราะใกล้สงกรานต์ ทำให้ร้านค้าปลีกมาซื้อเพื่อนำไปขายต่อ แต่ที่ยอดขายตกหนักคือเครื่องดื่มชูกำลัง ยอดขายหายไปร่วม 50% เพราะคนหันไปกินน้ำกระท่อมกันเยอะ จากที่ร้านเคยขายได้ 2,000 บาทต่อวัน เหลือ 1,000 บาทต่อวัน” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า ผลจากน้ำมันดีเซลขึ้นราคา 50 สตางค์ต่อลิตร ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะยังขึ้นในอัตราที่ไม่สูงมาก แต่ถ้าเกิน 1-2 บาทต่อลิตร คงจะแบกรับภาระไม่ไหว คงต้องมีการปรับราคาสินค้าขึ้น ซึ่งต้องจับตาดูสถานการณ์หลังสงกรานต์นี้อีกครั้ง
นายประกอบ ไชยสงคราม ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง บริษัท ยงสงวนกรุ๊ป จำกัด จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า แม้จะใกล้สงกรานต์แต่บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยยังเงียบเหงา เพราะคนไม่มีกำลังซื้อ ขณะที่ราคาสินค้าแพงขึ้น จึงลดการซื้อลง ซื้อเฉพาะที่จำเป็น รวมถึงยอดขายเหล้าและเบียร์ก็ยังไม่ค่อยดีเช่นกันเนื่องจากตลาดหดตัว

“ทั้งนี้ อากาศร้อนก็มีผลด้วยเช่นกัน ดูจากยอดขายของร้านพบว่าคนมาซื้อช่วงเช้าและเย็น ส่วนกลางวันจะไม่มี คาดหวังหลังรัฐบาลแจกเงินดิจิทัลไตรมาส 4 นี้จะทำให้กำลังซื้อกลับมาคึกคักขึ้น” นายประกอบกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่