วันนี้คงเป็นอีกหนึ่งวันที่นักเล่นหุ้นรู้สึกหงุดหงิดกับการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงหักฟอร์มสวยทั้งทางเทคนิคที่หลายคนลุ้นให้ดัชนี SET ยืนเหนือ 1400 จุด และทางพื้นฐานที่นักลงทุนต่างชาติเหมาทั้งซื้อและ Long TFEX เป็นจำนวนมาก โดยหากนึกดูแล้วนี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เราจะรู้สึกผิดหวังกับการรีบาวด์สั้น ๆ ให้ได้ลุ้นในทางขาขึ้นจากนั้นก็ทุบลงให้ Cut Loss ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้น บทความนี้จะมารื้อฟื้นความจำกันว่า ทุกท่านจำได้หรือไม่ ? ว่าตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นล่าสุดเมื่อไหร่ และแนวโน้มในอนาคตจะเป็นอย่างไรมาดูกันครับ
รูปแสดงการเคลื่อนไหวของดัชนี SET ในช่วงเดือน ต.ค. 23 - มี.ค. 24
หากเรากำหนดสมมติฐานในการนับการเคลื่อนไหวต่อรอบของตลาดหุ้น คืออย่างน้อยที่สุดจะต้องมีการขึ้นหรือลงติดกัน 3 วัน ซึ่งจากรูปจะเห็นว่าในปีนี้ (2024) ดัชนี SET มีการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้าง Sideway Down โดยมีการปรับตัวขึ้นติด ๆ กัน 3 วันเพียงแค่ 1 รอบ ซึ่งก็คือช่วงต้นเดือน มี.ค. หรืออาทิตย์ที่ผ่านมา (วงกลมชมพูขวามือ) โดยหากพิจารณาย้อนกลับไปครั้งก่อนหน้าที่ตลาดตลาดมีการขึ้นเป็นรอบ คงต้องมองไปถึงเดือน ธ.ค. 23 ที่ดัชนี SET มีการขึ้นติดต่อกันถึง 9 วันติด (วงกลมสีชมพูใหญ่)
โดยนั่นถือเป็นรอบการขึ้นแรงรอบสุดท้ายก่อนที่ไม่เห็นอีกเลยตลอด 3 เดือน ต่างกับการลงติด ๆ กันที่เห็นกันอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถเปรียบเทียบได้จากสถิติดังต่อไปนี้
ตารางแสดงจำนวนครั้งที่หุ้นหุ้นปรับตัวขึ้นและลงติดกันเกิน 3 วัน
ปัจจุบันหุ้นลงติดกันมากกว่าขึ้นสวนทางกับอดีตอย่างชัดเจน
จากตารางเมื่อเราทำการหาจำนวนครั้งที่ดัชนี SET ขึ้น-ลง 3 วันติดกัน จะพบว่าในแต่ละปีมีเหตุการณ์ที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น 3 วันติดกันเฉลี่ย 38 ครั้ง และปรับตัวลง 3 วันติดกันเฉลี่ย 27 ครั้ง โดยหากพิจารณาในอดีตจะพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วตลาดจะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นรอบ ๆ บ่อยกว่าปรับตัวลง ซึ่งคิดเป็นจำนวน 10 ปีใน 16 ปีล่าสุด แต่สำหรับในไตรมาสแรกของปีนี้ (2024) เราพึ่งเห็นตลาดปรับตัวขึ้นติดกัน 3 วันเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น ! แตกต่างจากการลงติดกัน 3 วันที่มีมากแล้วถึง 10 ครั้ง โดยมีส่วนต่างจำนวนครั้งถึง 9 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากปี 2015 บ่งบอกถึงความอ่อนแอของตลาดในปัจจุบัน
แต่อย่างไรก็ตามหากสถิติเหล่านี้มีความเป็นวัฏจักรเราอาจได้เห็นการปรับตัวขึ้นมากกว่าลงในเร็ว ๆ นี้ เพราะอย่างที่เห็นว่าตลอดเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ตลาดหุ้นมีจำนวนครั้งที่ปรับตัวลงติดกัน 3 วันมากกว่าขึ้น 3 วันติดกันเกิน 2 ปี ดังนั้น เราอาจได้เห็นถึงแรงซื้อกลับ โดยสังเกตได้จากการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นรอบบ้านที่มีความใกล้เคียงกับเรา ดังรูป
รูปแสดงการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นมาเลเซีย,ฟิลิปปินส์
เพื่อนบ้านรีบาวกันแล้ว อาจถึงคิวของเราสักที
จากรูปจะเห็นว่าหากนับตอนช่วงขาลงครั้งใหญ่จาก Covid-19 เป็นจุดเริ่มต้นจะพบว่า ทั้งตลาดหุ้นมาเลเซียและฟิลิปปินส์มีการเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับเรามาโดยตลอด (2 กราฟล่าง) คือปรับตัวขึ้นแรงและซึมตัวลง แต่ในช่วงหลังตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 ถึงปัจจุบัน (ไตรมาส 1 ของปี 2024) ทั้ง 2 ตลาดมีการรีบาวขึ้นแรงอีกครั้งในขณะที่ประเทศไทยยัง Sideway ไม่ไปไหน ซึ่งน่าจะเป็นประเทศลำดับท้าย ๆ ที่ยังไม่มีการปรับตัวเป็นขาขึ้นเลยสักรอบ และนี่อาจเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ตลาดหุ้นไทยใกล้เป็นเป้าหมายของนักลงทุนจากการที่ราคาหุ้นต่ำกว่าภูมิภาคโดยเฉลี่ย และเราจะพยายามค้นหาข้อมูลจากประเทศเหล่านี้เพื่อ
“หา Signal” ที่ใช้บอกล่วงหน้าว่าตลาดจะกลับตัวเป็นขาขึ้นเมื่อไหร่ ยังไงติดตามกันไว้นะครับ
จากข้อมูลทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตผลที่นักลงทุนรู้สึกทั้งเครียดและเซ็งปนหมดหวังกับตลาดหุ้นในช่วงสภาวะนี้ และหวังว่าจะมีข่าวดีที่ตลาดหุ้นไทยกลับเป็นขาขึ้น แต่หากใครที่คิดว่า
“มันยังไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้หรือมองในทางตรงกันข้าม” ก็ควรที่จะใช้ Product TFEX สร้างกลยุทธ์ทำกำไรในช่วงตลาดแบบนี้ โดยคุณสมบัติการเล่นขาลงใน TFEX เป็นตัวช่วยให้เราได้กำไรจากสถานการณ์ปัจจุบัน ถ้าใครสนใจก็ลองศึกษาดูอย่างระมัดระวังนะครับ และมาร่วมพูดคุย/ปรึกษาแลกเปลี่ยนมุมมองกันกับพวกเราในฐานะของคนที่ใช้งานให้เกิดประโยชน์จริงได้ตามเครดิตนะครับ สำหรับบทความหน้าเราจะมาพูดถึงประเด็นที่ Hot ที่สุดในปีนี้อย่าง “การเพิ่มช่วงเวลาของตลาดหุ้นไทย” ขอบคุณครับ
Credit :
https://www.facebook.com/tfexforfuture
ร่วมพูดคุยทิศทางหุ้น,TFEX
Line OpenChat : TFEX For Future
https://line.me/ti/g2/btLW138AZRRYIUeuCe-5GQ
ทุกคนเห็นตลาดหุ้นขึ้นติด ๆ กันล่าสุดเมื่อไหร่ครับ ❓(แนวโน้มอนาคต)
วันนี้คงเป็นอีกหนึ่งวันที่นักเล่นหุ้นรู้สึกหงุดหงิดกับการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงหักฟอร์มสวยทั้งทางเทคนิคที่หลายคนลุ้นให้ดัชนี SET ยืนเหนือ 1400 จุด และทางพื้นฐานที่นักลงทุนต่างชาติเหมาทั้งซื้อและ Long TFEX เป็นจำนวนมาก โดยหากนึกดูแล้วนี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เราจะรู้สึกผิดหวังกับการรีบาวด์สั้น ๆ ให้ได้ลุ้นในทางขาขึ้นจากนั้นก็ทุบลงให้ Cut Loss ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้น บทความนี้จะมารื้อฟื้นความจำกันว่า ทุกท่านจำได้หรือไม่ ? ว่าตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นล่าสุดเมื่อไหร่ และแนวโน้มในอนาคตจะเป็นอย่างไรมาดูกันครับ
รูปแสดงการเคลื่อนไหวของดัชนี SET ในช่วงเดือน ต.ค. 23 - มี.ค. 24
หากเรากำหนดสมมติฐานในการนับการเคลื่อนไหวต่อรอบของตลาดหุ้น คืออย่างน้อยที่สุดจะต้องมีการขึ้นหรือลงติดกัน 3 วัน ซึ่งจากรูปจะเห็นว่าในปีนี้ (2024) ดัชนี SET มีการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้าง Sideway Down โดยมีการปรับตัวขึ้นติด ๆ กัน 3 วันเพียงแค่ 1 รอบ ซึ่งก็คือช่วงต้นเดือน มี.ค. หรืออาทิตย์ที่ผ่านมา (วงกลมชมพูขวามือ) โดยหากพิจารณาย้อนกลับไปครั้งก่อนหน้าที่ตลาดตลาดมีการขึ้นเป็นรอบ คงต้องมองไปถึงเดือน ธ.ค. 23 ที่ดัชนี SET มีการขึ้นติดต่อกันถึง 9 วันติด (วงกลมสีชมพูใหญ่) โดยนั่นถือเป็นรอบการขึ้นแรงรอบสุดท้ายก่อนที่ไม่เห็นอีกเลยตลอด 3 เดือน ต่างกับการลงติด ๆ กันที่เห็นกันอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถเปรียบเทียบได้จากสถิติดังต่อไปนี้
ตารางแสดงจำนวนครั้งที่หุ้นหุ้นปรับตัวขึ้นและลงติดกันเกิน 3 วัน
ปัจจุบันหุ้นลงติดกันมากกว่าขึ้นสวนทางกับอดีตอย่างชัดเจน
จากตารางเมื่อเราทำการหาจำนวนครั้งที่ดัชนี SET ขึ้น-ลง 3 วันติดกัน จะพบว่าในแต่ละปีมีเหตุการณ์ที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น 3 วันติดกันเฉลี่ย 38 ครั้ง และปรับตัวลง 3 วันติดกันเฉลี่ย 27 ครั้ง โดยหากพิจารณาในอดีตจะพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วตลาดจะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นรอบ ๆ บ่อยกว่าปรับตัวลง ซึ่งคิดเป็นจำนวน 10 ปีใน 16 ปีล่าสุด แต่สำหรับในไตรมาสแรกของปีนี้ (2024) เราพึ่งเห็นตลาดปรับตัวขึ้นติดกัน 3 วันเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น ! แตกต่างจากการลงติดกัน 3 วันที่มีมากแล้วถึง 10 ครั้ง โดยมีส่วนต่างจำนวนครั้งถึง 9 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากปี 2015 บ่งบอกถึงความอ่อนแอของตลาดในปัจจุบัน
แต่อย่างไรก็ตามหากสถิติเหล่านี้มีความเป็นวัฏจักรเราอาจได้เห็นการปรับตัวขึ้นมากกว่าลงในเร็ว ๆ นี้ เพราะอย่างที่เห็นว่าตลอดเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ตลาดหุ้นมีจำนวนครั้งที่ปรับตัวลงติดกัน 3 วันมากกว่าขึ้น 3 วันติดกันเกิน 2 ปี ดังนั้น เราอาจได้เห็นถึงแรงซื้อกลับ โดยสังเกตได้จากการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นรอบบ้านที่มีความใกล้เคียงกับเรา ดังรูป
รูปแสดงการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นมาเลเซีย,ฟิลิปปินส์
เพื่อนบ้านรีบาวกันแล้ว อาจถึงคิวของเราสักที
จากรูปจะเห็นว่าหากนับตอนช่วงขาลงครั้งใหญ่จาก Covid-19 เป็นจุดเริ่มต้นจะพบว่า ทั้งตลาดหุ้นมาเลเซียและฟิลิปปินส์มีการเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับเรามาโดยตลอด (2 กราฟล่าง) คือปรับตัวขึ้นแรงและซึมตัวลง แต่ในช่วงหลังตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 ถึงปัจจุบัน (ไตรมาส 1 ของปี 2024) ทั้ง 2 ตลาดมีการรีบาวขึ้นแรงอีกครั้งในขณะที่ประเทศไทยยัง Sideway ไม่ไปไหน ซึ่งน่าจะเป็นประเทศลำดับท้าย ๆ ที่ยังไม่มีการปรับตัวเป็นขาขึ้นเลยสักรอบ และนี่อาจเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ตลาดหุ้นไทยใกล้เป็นเป้าหมายของนักลงทุนจากการที่ราคาหุ้นต่ำกว่าภูมิภาคโดยเฉลี่ย และเราจะพยายามค้นหาข้อมูลจากประเทศเหล่านี้เพื่อ “หา Signal” ที่ใช้บอกล่วงหน้าว่าตลาดจะกลับตัวเป็นขาขึ้นเมื่อไหร่ ยังไงติดตามกันไว้นะครับ
จากข้อมูลทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตผลที่นักลงทุนรู้สึกทั้งเครียดและเซ็งปนหมดหวังกับตลาดหุ้นในช่วงสภาวะนี้ และหวังว่าจะมีข่าวดีที่ตลาดหุ้นไทยกลับเป็นขาขึ้น แต่หากใครที่คิดว่า “มันยังไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้หรือมองในทางตรงกันข้าม” ก็ควรที่จะใช้ Product TFEX สร้างกลยุทธ์ทำกำไรในช่วงตลาดแบบนี้ โดยคุณสมบัติการเล่นขาลงใน TFEX เป็นตัวช่วยให้เราได้กำไรจากสถานการณ์ปัจจุบัน ถ้าใครสนใจก็ลองศึกษาดูอย่างระมัดระวังนะครับ และมาร่วมพูดคุย/ปรึกษาแลกเปลี่ยนมุมมองกันกับพวกเราในฐานะของคนที่ใช้งานให้เกิดประโยชน์จริงได้ตามเครดิตนะครับ สำหรับบทความหน้าเราจะมาพูดถึงประเด็นที่ Hot ที่สุดในปีนี้อย่าง “การเพิ่มช่วงเวลาของตลาดหุ้นไทย” ขอบคุณครับ
Credit : https://www.facebook.com/tfexforfuture
ร่วมพูดคุยทิศทางหุ้น,TFEX
Line OpenChat : TFEX For Future
https://line.me/ti/g2/btLW138AZRRYIUeuCe-5GQ