สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันทำงานวันแรกของเดือน ครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option ทุกๆท่าน
เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index ได้มีแรงซื้อกลับเข้ามา ภายหลังเมื่อวันพฤหัสก่อน ได้ย่อตัวลงมาแรง เนื่องมาจาก FED
ได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในเดือนธันวาคมนี้ อีกทั้ง ตลาดได้รับปัจจัยบวกจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
คาดการณ์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/58 ฟื้นตัว และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาส 4/58 ดังนั้นจึงทำให้ ดัชนี SET index
ฟื้นตัวขึ้นไปปิดที่ระดับ 1394 จุด +4.90 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนีจะสามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ ระดับ 1400 จุด ได้อีกครั้ง หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดปรับตัวลง 137.76 จุด หรือ -0.61% แตะที่ 22,502.28 จุดในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดัน
จากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP)
และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) นอกภาคการผลิตจีนในเดือนต.ค. แตะที่ 53.1 ลดลงจาก
เดือนก.ย. 0.3% เนื่องจากธุรกิจค้าปลีก ตลาดทุน และบริการซ่อมแซมขยายตัวในอัตราช้าลง
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (30 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมถึงการ
ใช้จ่ายผู้บริโภคที่เคลื่อนไหวในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทรายใหญ่อย่างเอ็กซอน โมบิล และเชฟรอน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,663.54 จุด ลดลง 92.26 จุด หรือ -0.52%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,053.75 จุด ลดลง 20.52 จุด หรือ -0.40%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,079.36 จุด ลดลง 10.05 จุด หรือ -0.48
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดอ่อนแรงลงหลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเมื่อวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า
การใช้จ่ายของผู้บริโภคขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค.
และเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำ
ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
ทั้งนี้ การชะลอตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภคบ่งชี้ว่า การสร้างงานที่มีอัตราต่ำลงและภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนในต่างประเทศนั้น อาจะเป็นปัจจัย
ที่ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ ด้านผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ
ขั้นสุดท้ายประจำเดือนต.ค. อยู่ที่ระดับ 90 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 92.1 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อความผันผวนในตลาดการเงิน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐ โดยเอ็กซอน โมบิล คอร์ป
ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของสหรัฐเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 อยู่ที่ 4.24 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.01 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยลดลงจาก 8.07
พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.89 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 ร่วงลง 37% สู่ระดับ 6.734 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนเชฟรอน คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ รองจากเอ็กซอน โมบิล คอร์ป เปิดเผยกำไร 2.04 พันล้านดอลลาร์ใน
ไตรมาส 3 หรือ 1.09 ดอลลาร์ต่อหุ้น ลดลงจาก 5.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.95 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ดิ่งลง 37% สู่ระดับ 3.432 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ เชฟรอนยังเปิดเผยว่าจะปลดพนักงาน 6,000-7,000 คนจากจำนวนพนักงานทั่วโลก 64,700 คน นอกจากนี้ เชฟรอนระบุว่าจะปรับลดการ
ใช้จ่ายทุนลง 25% ในปีหน้า หลังมีผลประกอบการย่ำแย่ในไตรมาส 3
หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลงเป็นเวลา 4 วันในรอบ 5 วันทำการ โดยหุ้นเจนเวิร์ธ ไฟแนนเชียล ดิ่งลง 10% หุ้นคีย์คอร์ป ร่วงลง 7.2%
ส่วนหุ้นผู้จำหน่ายสินค้าเพื่อผู้บริโภคปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นซีวีเอส ร่วงลง 4.8% และหุ้นคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ ดิ่งลง 4.2%
อย่างไรก็ตาม หุ้นเอ็กซอน โมบิล ขยับขึ้น 0.62% แม้ว่าผลประกอบการของบริษัทออกมาน่าผิดหวังก็ตาม ขณะที่หุ้นลิงค์อิน คอร์ป พุ่งขึ้น 11%
หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 3
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ (30 ต.ค.) หลังจากมีรายงานจากสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท)
ว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนยังคงอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นบางแห่งของยุโรป รวมถึงตลาดหุ้นเยอรมนี ดีดตัวขึ้นขานรับการคาดการณ์
ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงมีแนวโน้มขยายมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมเดือนธ.ค.
ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลงไม่ถึง 0.1%ปิดที่ 375.47 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,897.66 จุด เพิ่มขึ้น 11.84 จุด หรือ +0.24%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,850.14 จุด เพิ่มขึ้น 49.30 จุด หรือ +0.46%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,361.09 จุด ลดลง 34.71 จุด หรือ -0.54%
ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากยูโรสแตทรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 0% ในเดือนต.ค. หลังจากอยู่ในระดับ -0.1%
ในเดือนก.ย. อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากมุมมองที่ว่า ECB ยังคงมีแนวโน้มขยายมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในการประชุม
เดือนธ.ค.เพื่อหนุนให้เงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2% หุ้น IAG SA ร่วงลง 2.5% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2558
หุ้นลอรีอัล ร่วงลง 4.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 ที่ออกมาน้อยกว่าการคาดการณ์
หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าคาด ส่วนหุ้นเรโนลท์ ดีดตัวขึ้น 5.3%
ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัท
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา ภายหลังจากวันพฤหัสก่อน ได้ย่อตัว
ลงมาอย่างรุนแรง แม้จะมีบางช่วงที่พยายามขึ้นไปทดสอบ 1400 จุด แต่ก็ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ แต่ได้ปิดแท่งเทียน
ไปแบบ "Bullish Harami" ซึ่งคาดว่า แนวโน้มวันนี้ ดัชนีน่าจะฟื้นตัวกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1400 จุด ได้อีกครั้ง
// อย่างไรก็ตาม ถ้าหากไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1400 จุดได้ แล้วย่อตัวลงมา ก็อาจจะไถลลงไปทดสอบ "Support line"
ถ้ารับอยู่ก็มีโอกาสเกิด Technical Rebound ในวัดถัดไป แต่ถ้าหลุดก็ระวัง Panic Sell ที่จะตามมา ก็เป็นได้
S50Z15 TF Day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา ภายหลังจากวันพฤหัสก่อน ได้ย่อตัว
ลงมาอย่างรุนแรง แม้จะมีบางช่วงที่พยายามขึ้นไปทดสอบ 900 จุด แต่ก็ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ แต่ได้ปิดแท่งเทียน
ไปแบบ "Bullish Harami" ซึ่งคาดว่า แนวโน้มวันนี้ ดัชนีน่าจะฟื้นตัวกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 900 จุด ได้อีกครั้ง
// อย่างไรก็ตาม ถ้าหากไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 900 จุดได้ แล้วย่อตัวลงมา ก็อาจจะไถลลงไปทดสอบ
"Support line" ถ้ารับอยู่ก็มีโอกาสเกิด Technical Rebound ในวัดถัดไป แต่ถ้าหลุดก็ระวัง Panic Sell ที่จะตามมา ก็เป็นได้
TF60 : ดัชนียังคงเคลื่อนไหวแก่วงตัวในกรอบแคบๆ ( 887 - 895 จุด) ซึ่งน่าจะเป็นการพักเหนื่อย หลังจากที่ลงมา
อย่างรุนแรง 3 วันติดต่อกัน แต่อย่างไรก็ตามเริ่มเห็นสัญญาณ Bullish Divergence บ้างแล้ว ยิ่งถ้าหาก
วันนี้สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 900 จุด ได้ จะเป็นการคลายสัญญาณ Dead Cross ที่กดดันอยู่
//แต่ถ้าหลุด 887 ลงไป จะเป็นการยืนยันรูปแบบ "Measured Move Down" และไถลลงไปปิด Gap
ที่เคยเปิดไว้เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว
Resistance 895 900 905 / 1400 1404 1410
Support 890 887 883 880 / 1390 1385 1380
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (2 Nov 15)
สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันทำงานวันแรกของเดือน ครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option ทุกๆท่าน
เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index ได้มีแรงซื้อกลับเข้ามา ภายหลังเมื่อวันพฤหัสก่อน ได้ย่อตัวลงมาแรง เนื่องมาจาก FED
ได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในเดือนธันวาคมนี้ อีกทั้ง ตลาดได้รับปัจจัยบวกจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
คาดการณ์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/58 ฟื้นตัว และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาส 4/58 ดังนั้นจึงทำให้ ดัชนี SET index
ฟื้นตัวขึ้นไปปิดที่ระดับ 1394 จุด +4.90 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนีจะสามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ ระดับ 1400 จุด ได้อีกครั้ง หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดปรับตัวลง 137.76 จุด หรือ -0.61% แตะที่ 22,502.28 จุดในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดัน
จากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP)
และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) นอกภาคการผลิตจีนในเดือนต.ค. แตะที่ 53.1 ลดลงจาก
เดือนก.ย. 0.3% เนื่องจากธุรกิจค้าปลีก ตลาดทุน และบริการซ่อมแซมขยายตัวในอัตราช้าลง
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (30 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมถึงการ
ใช้จ่ายผู้บริโภคที่เคลื่อนไหวในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทรายใหญ่อย่างเอ็กซอน โมบิล และเชฟรอน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,663.54 จุด ลดลง 92.26 จุด หรือ -0.52%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,053.75 จุด ลดลง 20.52 จุด หรือ -0.40%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,079.36 จุด ลดลง 10.05 จุด หรือ -0.48
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดอ่อนแรงลงหลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเมื่อวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า
การใช้จ่ายของผู้บริโภคขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค.
และเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำ
ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
ทั้งนี้ การชะลอตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภคบ่งชี้ว่า การสร้างงานที่มีอัตราต่ำลงและภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนในต่างประเทศนั้น อาจะเป็นปัจจัย
ที่ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ ด้านผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ
ขั้นสุดท้ายประจำเดือนต.ค. อยู่ที่ระดับ 90 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 92.1 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อความผันผวนในตลาดการเงิน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐ โดยเอ็กซอน โมบิล คอร์ป
ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของสหรัฐเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 อยู่ที่ 4.24 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.01 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยลดลงจาก 8.07
พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.89 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 ร่วงลง 37% สู่ระดับ 6.734 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนเชฟรอน คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ รองจากเอ็กซอน โมบิล คอร์ป เปิดเผยกำไร 2.04 พันล้านดอลลาร์ใน
ไตรมาส 3 หรือ 1.09 ดอลลาร์ต่อหุ้น ลดลงจาก 5.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.95 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ดิ่งลง 37% สู่ระดับ 3.432 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ เชฟรอนยังเปิดเผยว่าจะปลดพนักงาน 6,000-7,000 คนจากจำนวนพนักงานทั่วโลก 64,700 คน นอกจากนี้ เชฟรอนระบุว่าจะปรับลดการ
ใช้จ่ายทุนลง 25% ในปีหน้า หลังมีผลประกอบการย่ำแย่ในไตรมาส 3
หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลงเป็นเวลา 4 วันในรอบ 5 วันทำการ โดยหุ้นเจนเวิร์ธ ไฟแนนเชียล ดิ่งลง 10% หุ้นคีย์คอร์ป ร่วงลง 7.2%
ส่วนหุ้นผู้จำหน่ายสินค้าเพื่อผู้บริโภคปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นซีวีเอส ร่วงลง 4.8% และหุ้นคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ ดิ่งลง 4.2%
อย่างไรก็ตาม หุ้นเอ็กซอน โมบิล ขยับขึ้น 0.62% แม้ว่าผลประกอบการของบริษัทออกมาน่าผิดหวังก็ตาม ขณะที่หุ้นลิงค์อิน คอร์ป พุ่งขึ้น 11%
หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 3
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ (30 ต.ค.) หลังจากมีรายงานจากสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท)
ว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนยังคงอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นบางแห่งของยุโรป รวมถึงตลาดหุ้นเยอรมนี ดีดตัวขึ้นขานรับการคาดการณ์
ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงมีแนวโน้มขยายมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมเดือนธ.ค.
ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลงไม่ถึง 0.1%ปิดที่ 375.47 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,897.66 จุด เพิ่มขึ้น 11.84 จุด หรือ +0.24%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,850.14 จุด เพิ่มขึ้น 49.30 จุด หรือ +0.46%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,361.09 จุด ลดลง 34.71 จุด หรือ -0.54%
ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากยูโรสแตทรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 0% ในเดือนต.ค. หลังจากอยู่ในระดับ -0.1%
ในเดือนก.ย. อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากมุมมองที่ว่า ECB ยังคงมีแนวโน้มขยายมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในการประชุม
เดือนธ.ค.เพื่อหนุนให้เงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2% หุ้น IAG SA ร่วงลง 2.5% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2558
หุ้นลอรีอัล ร่วงลง 4.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 ที่ออกมาน้อยกว่าการคาดการณ์
หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าคาด ส่วนหุ้นเรโนลท์ ดีดตัวขึ้น 5.3%
ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัท
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา ภายหลังจากวันพฤหัสก่อน ได้ย่อตัว
ลงมาอย่างรุนแรง แม้จะมีบางช่วงที่พยายามขึ้นไปทดสอบ 1400 จุด แต่ก็ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ แต่ได้ปิดแท่งเทียน
ไปแบบ "Bullish Harami" ซึ่งคาดว่า แนวโน้มวันนี้ ดัชนีน่าจะฟื้นตัวกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1400 จุด ได้อีกครั้ง
// อย่างไรก็ตาม ถ้าหากไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1400 จุดได้ แล้วย่อตัวลงมา ก็อาจจะไถลลงไปทดสอบ "Support line"
ถ้ารับอยู่ก็มีโอกาสเกิด Technical Rebound ในวัดถัดไป แต่ถ้าหลุดก็ระวัง Panic Sell ที่จะตามมา ก็เป็นได้
S50Z15 TF Day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา ภายหลังจากวันพฤหัสก่อน ได้ย่อตัว
ลงมาอย่างรุนแรง แม้จะมีบางช่วงที่พยายามขึ้นไปทดสอบ 900 จุด แต่ก็ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ แต่ได้ปิดแท่งเทียน
ไปแบบ "Bullish Harami" ซึ่งคาดว่า แนวโน้มวันนี้ ดัชนีน่าจะฟื้นตัวกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 900 จุด ได้อีกครั้ง
// อย่างไรก็ตาม ถ้าหากไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 900 จุดได้ แล้วย่อตัวลงมา ก็อาจจะไถลลงไปทดสอบ
"Support line" ถ้ารับอยู่ก็มีโอกาสเกิด Technical Rebound ในวัดถัดไป แต่ถ้าหลุดก็ระวัง Panic Sell ที่จะตามมา ก็เป็นได้
TF60 : ดัชนียังคงเคลื่อนไหวแก่วงตัวในกรอบแคบๆ ( 887 - 895 จุด) ซึ่งน่าจะเป็นการพักเหนื่อย หลังจากที่ลงมา
อย่างรุนแรง 3 วันติดต่อกัน แต่อย่างไรก็ตามเริ่มเห็นสัญญาณ Bullish Divergence บ้างแล้ว ยิ่งถ้าหาก
วันนี้สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 900 จุด ได้ จะเป็นการคลายสัญญาณ Dead Cross ที่กดดันอยู่
//แต่ถ้าหลุด 887 ลงไป จะเป็นการยืนยันรูปแบบ "Measured Move Down" และไถลลงไปปิด Gap
ที่เคยเปิดไว้เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว
Resistance 895 900 905 / 1400 1404 1410
Support 890 887 883 880 / 1390 1385 1380
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ