กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL& ชาว Put,Call (3 Aug 15)

กระทู้สนทนา







สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรกของเดือนใหม่และสัปดาห์ การทำงานครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option ทุกๆท่าน

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนี SET index พุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างรุนแรง นำโดย หุ้นกลุ่ม พลังงาน ธนาคาร สื่อสาร
ภายหลังเมื่อวันก่อนๆ ตลาดได้ร่วงลงมาแรง  จมแรงซื้อกลับ เพื่อเก็งกำไรงบไตรมาสที่ 2/2558  บวกกับ การซื้อหุ้นคืน
Cover Short ของนักลงทุนบางกลุ่มจึงทำให้ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ พุ่งขึ้นมาได้อย่างโดดเด่นกว่าภูมิภาคเอเชีย  
ดังนั้น SET index ปิดตัวไปที่ระดับ 1440 จุด +22.63 จุด  วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนีจะสามารถฟื้นตัวขึ้นไป
ได้อย่างแรงรุง เฉกเช่น เมื่อวันศุกร์ ได้อีกหรือไม่


Fundamental

"เอเชียเช้านี้" ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดร่วงลง 103.14 จุด หรือ -0.42% แตะที่ 24,533.14 จุดในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจาก
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตจีน สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)
ภาคการผลิตเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 50.0 ลดลงจากระดับ 50.2 ในเดือนมิ.ย.


"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจาก
บริษัทพลังงานรายใหญ่ รวมถึงเอ็กซอน โมบิล และเชฟรอน เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ อันเป็นผลมาจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบใน
ตลาดโลก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,689.86 จุด ลดลง 56.12 จุด หรือ -0.32%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,103.84 จุด ลดลง 4.79 จุด หรือ -0.23%
.ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,128.28 จุด ลดลง 0.50 จุด หรือ -0.01%

ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.7% ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 1.2% และดัชนี NASDAQ ขยับขึ้น 0.8%
นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่งผลให้หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 4.58% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 ปีนี้อยู่ที่ 4.2 พันล้านดอลลาร์
ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ระดับ 8.8 พันล้านดอลลาร์ โดยผลประกอบการของเอ็กซอน โมบิล ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการ
ร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ


หุ้นเชฟรอน คอร์ปปอเรชัน ดิ่งลง 4.89% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ไตรมาส 2 ปีนี้อยู่ที่ 571 ล้านดอลลาร์ ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 2
ปีที่แล้วที่ 5.7 พันล้านดอลลาร์ โดยผลประกอบการไตรมาส 2 ของเชฟรอนออกมากย่ำแย่ที่สุดในรอบ 7 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วงลงของราคา
น้ำมันดิบในตลาดโลกเช่นกัน

ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มพลังงานนั้น หุ้นโคโนโคฟิลิปส์ ดิ่งลง 3.3% หุ้นเมอร์ฟีย์ ออยล์ ร่วงลง 5% และหุ้นทรานส์โอเชียน ร่วงลง 4.9%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง โดยหุ้นลิงค์อิน ร่วงลง 11% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2558 ภายหลังจากที่เข้าซื้อเว็บไซต์ Lynda.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์เพื่อการศึกษา หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ปรับตัวลง 4.2% และหุ้นบรอดคอม ร่วงลง 1.4% หลังจากทั้งสองบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยเกินคาด

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่า จำนวนแท่นขุด
เจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น

ขณะเดียวกันข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายด้วยเช่นกัน โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวง
แรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีต้นทุนการจ้างงาน (ECI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนแรงงานที่กว้างที่สุด ขยับขึ้นเพียง 0.2% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการ
เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 33 ปี และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6%


"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่
รวมถึงแอร์บัส อาร์เซลอร์มิตตัล และบีเอ็นพี พาริบาส์ อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ ได้สกัดแรงบวกในตลาด
และส่งผลให้ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้นเกือบ 0.1% ปิดที่ 396.37 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,082.61 จุด เพิ่มขึ้น 36.19 จุด หรือ +0.72%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,308.99 จุด เพิ่มขึ้น 51.84 จุด หรือ +0.46%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,696.28 จุด เพิ่มขึ้น 27.41 จุด หรือ +0.41%

หุ้นแอร์บัสพุ่งขึ้น 3.5% หลังจากเปิดเผยผลกำไรประจำไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 5% แตะ 732 ล้านยูโร (801 ล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี
ที่แล้วที่ 696 ล้านยูโร ส่วนยอดขายในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 16% แตะ 1.68 หมื่นล้านยูโร เพราะได้แรงหนุนจากยอดส่งมอบเครื่องบินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
หลังสายการบินต่างๆมีความต้องการซื้อเครื่องบินใหม่ เพื่อแทนเครื่องบินลำเดิมที่เก่าและกินน้ำมัน

หุ้นอาร์เซลอร์มิตตัล ดีดตัวขึ้น 1.5% หลังจากอาร์เซลอร์มิตตัล ซึ่งเป็นบริษัทเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ปริมาณการส่งมอบ เปิดเผยว่า
กำไรสุทธิของบริษัทในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ อยู่ที่ 179 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ 52 ล้านดอลลาร์ และสูงกว่าที่นัก
วิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 30 ล้านดอลลาร์ โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากต้นทุนการระดมทุนและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ปรับตัวลงในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ เมื่อเทียบกับปีก่อน

หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของยุโรป พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 2 มูลค่า 2.56 พันล้านยูโร (2.7
พันล้านดอลลาร์) ซึ่งพลิกกลับมาทำกำไร เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้วที่ขาดทุนถึง 4.22 พันล้านยูโร เนื่องจากบีเอ็นพี พาริบาส์ถูกสั่งปรับ
เป็นเงินถึง 8.97 พันล้านดอลลาร์ ในข้อหาฝ่าฝืนการคว่ำบาตรจากสหรัฐต่อซูดาน อิหร่าน และคิวบา

อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ได้สกัดแรงบวกของตลาด โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง 0.9% ส่วนหุ้นกลุ่ม
เหมืองแร่นั้น หุ้นอันโตฟากัสต้า ดิ่งลง 2.3% หลังจากอันโตฟากัสต้าตกลงซื้อหุ้น 50% ในบริษัทแบร์ริค โกลด์ และหุ้นวอลลูเรค เอสเอ ร่วงลง
6.3% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2558

Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์



Technical Analysis

SET index TF Day : ภายหลังจากเกิดรูปแบบการกลับตัว "Tweezer Bottoms Reversal" ระดับระดับ 1400 จุด
ก็ทำให้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้พุ่งทะยานขึ้นไปได้อย่างรุนแรง และ แข็งแกร่ง พร้อมกับเปิดแท่งเทียน
ไปแบบ Marubozu แท่งเทียนสีเขียว ยาวๆ เต็มๆแท่ง เป็นการยืนยันของการจบรอบพักฐาน พร้อมที่จะใต่ระดับฟื้นตัวแบบ
V Shape กลับขึ้นไปทดสอบระดับ 1500 จุด ในเร็ววันนี้

S50U15 TF Day : ภายหลังจากลงมาทดสอบ Support line อยู่ 3 วันติด  แม้จะมีแฉลบ แอบหลุดลงไปบ้าง ( False Break )
แต่ก็สามารถฟื้นกลับมาปิดตัวยืนเหนือได้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ดังนั้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้พุ่งทะยานขึ้นไปต่อได้อย่างรุนแรง
พร้อมกับเกิดแท่งเทียน สามทหารเสือ "Three Advancing White Soldiers" ซึ่งเป็นรูปแบบแท่งเทียน
"Continuation pattern" แนวโน้มต่อไปจึงคาดว่า ดันชีน่าจะใต่ระดับฟื้นตัวขึ้นไปแบบ V Shape
กลับขึ้นไปทดสอบระดับ 970 จุด ในเร็ววันนี้  หรืออาจจะเลยไปหา 1000 จุด ก็เป็นได้

TF60 : หลังจากที่ลงมาย่ำฐานที่ระดับ 904 - 922 บวกกับ Indicator ที่แช่ Over sold อยู่เนิ้นนานหลายวัน  จนในที่สุด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีก็สามารถ เปิด Gap ( Windows in Uptrend ) เคลียร์ 922 ขึ้นไปอย่างง่ายดายมาก
และ ระหว่างวัน มีบางช่วงบางตอน สามารถผ่านทะลุ EMA75 วัน ขึ้นมาได้  ซึ่งทำให้ภาพสัญญาณระยะกลาง เริ่มกลับมาดูดีขึ้น
แนวโน้มวันนี้ คาดว่าดัชนีน่าจะ ทะยานใต่ระดับขึ้นไปได้ต่อ และมีโอกาสทดสอบ 945 หรือ EMA200 วัน   ยิ่งถ้าหาผ่านขึ้นไปได้
จะเป็นการยืนยัน "Strong Buy Signal"


Resistance 935 940 945 950 / 1444 1450 1455 1460
Suppoer 925 920 915 / 1425 1420 1414

*EOD End of day

ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ

สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ  ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ  เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่