ภาพรวมตลาด (สัปดาห์ที่ผ่านมา):
ตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในลักษณะ “ขาลงชัดเจน” หลังจากหลุดเส้น EMA89 ที่ระดับดัชนี 1,424 จุดในวันจันทร์ ก่อนปิดตลาดที่ 1,365 จุดในวันศุกร์ รวมการลดลง -59 จุด โดยมีปัจจัยกดดันทั้งในประเทศและต่างประเทศ
• ปัจจัยต่างประเทศ: ตลาดสหรัฐฯ (DJI) มีการปรับฐานติดต่อกันถึง 10 วัน ก่อนจะฟื้นตัวในช่วงปลายสัปดาห์ (+400 จุด)
• ปัจจัยในประเทศ: ความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงข่าวลบจากบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET50 เช่น การเพิ่มทุน การลงทุนในธุรกิจที่ไม่สมเหตุสมผล และ Sentiment เชิงลบจากโบรกเกอร์
ตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นการปรับตัวลงในทุกกลุ่มหลักกว่า 90% ยกเว้นบางกลุ่มที่เคลื่อนไหวตามปัจจัยเฉพาะ เช่น
• หุ้นส่งออก (XO, HANA, KCE) ได้รับแรงหนุนจากเงินบาทอ่อน
• หุ้นกลุ่ม “Fair Price” เช่น BCP, BH
• หุ้นที่มี Event สนับสนุน เช่น CRC (จาก Easy E-Receipt)
สถานการณ์สินทรัพย์โลก:
การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์แบ่งออกชัดเจนระหว่าง
• กลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงสูง: หุ้น, ทองคำ, BTC, น้ำมันดิบ (ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องทั้งสัปดาห์)
• กลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ: พันธบัตรสหรัฐ 10 ปี, ค่าเงิน USD, VIX Index (ที่ปรับตัวขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ แต่กลับมาทรงตัวในปลายสัปดาห์)
ปัจจัยเศรษฐกิจและการเมือง:
1. ข่าวเชิงบวก: การฟื้นตัวของสนามบินในเมืองท่องเที่ยว, ธีมการท่องเที่ยวในช่วงท้ายปี
2. ข่าวสำคัญ:
• นายทักษิณกล่าวถึงการผลักดันพันธบัตรคริปโตในงาน ESANNEXT
• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น (แจกเงินหมื่นเฟส 2, Easy E-Receipt)
• การปรับค่าผ่านทางดอนเมือง Toll Way
แนวโน้มตลาด (ต้นสัปดาห์นี้):
• มุมมองเชิงบวก: SET มีโอกาส Rebound ตามตลาดสหรัฐฯ หลังร่วงต่อเนื่อง 5 วัน
• ทางเทคนิค: ดัชนี SET ปิด GAP บริเวณ 1,365 จุดแล้ว หากตลาดยังยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจถือเป็นจุดเริ่มต้นของรอบขาขึ้นใหม่
จุดที่ต้องสังเกต:
1. การเปิดตลาด (ATO) ที่ระดับ 1,365 จุด หรือสูงกว่า
2. แนวต้านแรกที่ 1,372 จุด และหากปิดเหนือ 1,365 จุดได้ จะถือเป็นสัญญาณที่ดี
3. หากหลุด 1,365 จุดท้ายตลาด อาจต้องปรับกลยุทธ์เป็นการเล่นระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน:
• เน้นเลือกหุ้นในกลุ่ม SET100 ที่มีศักยภาพเป็นตัวขับเคลื่อนตลาด
• Action:
• เล่นสั้น: เมื่อ SET ทดสอบระดับ 1,377 จุด
• ขายลดพอร์ต: หาก SET หลุด 1,365 จุด
• ถือยาว: เมื่อเชื่อว่า SET จะทะลุ 1,377 จุดในวันถัดไป
Flow Sectors ที่ควรจับตา:
DELTA Family, EA Family, Gulf Family, JMART Family, BTS Family รวมถึงกลุ่มธนาคาร หากมีการเคลื่อนไหวพร้อมกันในหลายกลุ่ม อาจสะท้อนว่าตลาดกำลังฟื้นตัว
’เปิดแท่งเทียนสัปดาห์สุดท้าย‘ ตลาดหุ้นไทย 2024 จะไปต่อ หรือ 1300 ในปี 2025 เผยจับตากลุ่มธนาคารให้ดี อาจพุ่งส่งท้ายปี
ตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในลักษณะ “ขาลงชัดเจน” หลังจากหลุดเส้น EMA89 ที่ระดับดัชนี 1,424 จุดในวันจันทร์ ก่อนปิดตลาดที่ 1,365 จุดในวันศุกร์ รวมการลดลง -59 จุด โดยมีปัจจัยกดดันทั้งในประเทศและต่างประเทศ
• ปัจจัยต่างประเทศ: ตลาดสหรัฐฯ (DJI) มีการปรับฐานติดต่อกันถึง 10 วัน ก่อนจะฟื้นตัวในช่วงปลายสัปดาห์ (+400 จุด)
• ปัจจัยในประเทศ: ความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงข่าวลบจากบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET50 เช่น การเพิ่มทุน การลงทุนในธุรกิจที่ไม่สมเหตุสมผล และ Sentiment เชิงลบจากโบรกเกอร์
ตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นการปรับตัวลงในทุกกลุ่มหลักกว่า 90% ยกเว้นบางกลุ่มที่เคลื่อนไหวตามปัจจัยเฉพาะ เช่น
• หุ้นส่งออก (XO, HANA, KCE) ได้รับแรงหนุนจากเงินบาทอ่อน
• หุ้นกลุ่ม “Fair Price” เช่น BCP, BH
• หุ้นที่มี Event สนับสนุน เช่น CRC (จาก Easy E-Receipt)
สถานการณ์สินทรัพย์โลก:
การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์แบ่งออกชัดเจนระหว่าง
• กลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงสูง: หุ้น, ทองคำ, BTC, น้ำมันดิบ (ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องทั้งสัปดาห์)
• กลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ: พันธบัตรสหรัฐ 10 ปี, ค่าเงิน USD, VIX Index (ที่ปรับตัวขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ แต่กลับมาทรงตัวในปลายสัปดาห์)
ปัจจัยเศรษฐกิจและการเมือง:
1. ข่าวเชิงบวก: การฟื้นตัวของสนามบินในเมืองท่องเที่ยว, ธีมการท่องเที่ยวในช่วงท้ายปี
2. ข่าวสำคัญ:
• นายทักษิณกล่าวถึงการผลักดันพันธบัตรคริปโตในงาน ESANNEXT
• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น (แจกเงินหมื่นเฟส 2, Easy E-Receipt)
• การปรับค่าผ่านทางดอนเมือง Toll Way
แนวโน้มตลาด (ต้นสัปดาห์นี้):
• มุมมองเชิงบวก: SET มีโอกาส Rebound ตามตลาดสหรัฐฯ หลังร่วงต่อเนื่อง 5 วัน
• ทางเทคนิค: ดัชนี SET ปิด GAP บริเวณ 1,365 จุดแล้ว หากตลาดยังยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจถือเป็นจุดเริ่มต้นของรอบขาขึ้นใหม่
จุดที่ต้องสังเกต:
1. การเปิดตลาด (ATO) ที่ระดับ 1,365 จุด หรือสูงกว่า
2. แนวต้านแรกที่ 1,372 จุด และหากปิดเหนือ 1,365 จุดได้ จะถือเป็นสัญญาณที่ดี
3. หากหลุด 1,365 จุดท้ายตลาด อาจต้องปรับกลยุทธ์เป็นการเล่นระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน:
• เน้นเลือกหุ้นในกลุ่ม SET100 ที่มีศักยภาพเป็นตัวขับเคลื่อนตลาด
• Action:
• เล่นสั้น: เมื่อ SET ทดสอบระดับ 1,377 จุด
• ขายลดพอร์ต: หาก SET หลุด 1,365 จุด
• ถือยาว: เมื่อเชื่อว่า SET จะทะลุ 1,377 จุดในวันถัดไป
Flow Sectors ที่ควรจับตา:
DELTA Family, EA Family, Gulf Family, JMART Family, BTS Family รวมถึงกลุ่มธนาคาร หากมีการเคลื่อนไหวพร้อมกันในหลายกลุ่ม อาจสะท้อนว่าตลาดกำลังฟื้นตัว