ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (16-20 ธ.ค.) ปรับตัวลดลงหลุด 1,400 จุด
โดย “อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงดัชนีหลุด 1,400 จุด โดยได้รับผลกระทบจากหุ้นบางตัวที่นักลงทุนอาจจะไม่เชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ ที่อาจขาดความโปร่งใส
รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณการชะลอลดดอกเบี้ยในปี 2568 เหลือ 2 ครั้ง จากเดิม 4 ครั้ง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) และค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กดดันสินทรัพย์เสี่ยงต่าง ๆ รวมถึงตลาดหุ้นที่ได้รับผลกระทบด้วย
มองไปในสัปดาห์ข้างหน้า (23-27 ธ.ค.) “อภิชาติ” ประเมินว่า SET น่าจะฟื้นตัว แนวรับ 1,350 จุด แนวต้าน 1,390 จุด โดยคาดหวังการฟื้นตัวทางเทคนิค จากการที่ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก ในแง่ Valuation ราคาค่อนข้างถูก ซึ่งคาดว่าสัปดาห์ข้างหน้านี้จะมีเม็ดเงินจากกองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษีที่จะไหลเข้า และคาดหวังจะเกิด Window Dressing
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกไทย, การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีมาตรการ Easy E-Receipt จะเข้า ครม. น่าจะช่วยหนุนดัชนีขึ้นได้ ส่วนต่างประเทศคาดว่าน่าจะค่อนข้างเงียบ จากการที่เริ่มเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส
ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เช่น กลุ่มส่งออก รวมถึงกลุ่มค้าปลีก ที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการ Easy E-Receipt เป็นต้น
https://www.facebook.com/share/p/18a49CLNpU/ 
ความหวังช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดหุ้นไทย ลุ้น "Window Dressing"
โดย “อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงดัชนีหลุด 1,400 จุด โดยได้รับผลกระทบจากหุ้นบางตัวที่นักลงทุนอาจจะไม่เชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ ที่อาจขาดความโปร่งใส
รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณการชะลอลดดอกเบี้ยในปี 2568 เหลือ 2 ครั้ง จากเดิม 4 ครั้ง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) และค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กดดันสินทรัพย์เสี่ยงต่าง ๆ รวมถึงตลาดหุ้นที่ได้รับผลกระทบด้วย
มองไปในสัปดาห์ข้างหน้า (23-27 ธ.ค.) “อภิชาติ” ประเมินว่า SET น่าจะฟื้นตัว แนวรับ 1,350 จุด แนวต้าน 1,390 จุด โดยคาดหวังการฟื้นตัวทางเทคนิค จากการที่ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก ในแง่ Valuation ราคาค่อนข้างถูก ซึ่งคาดว่าสัปดาห์ข้างหน้านี้จะมีเม็ดเงินจากกองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษีที่จะไหลเข้า และคาดหวังจะเกิด Window Dressing
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกไทย, การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีมาตรการ Easy E-Receipt จะเข้า ครม. น่าจะช่วยหนุนดัชนีขึ้นได้ ส่วนต่างประเทศคาดว่าน่าจะค่อนข้างเงียบ จากการที่เริ่มเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส
ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เช่น กลุ่มส่งออก รวมถึงกลุ่มค้าปลีก ที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการ Easy E-Receipt เป็นต้น
https://www.facebook.com/share/p/18a49CLNpU/