สายงานวิศวกร เพิ่งปรับมาเป็น Manager ได้ 6 เดือน ก่อนหน้าที่เราจะมารับหน้าที่นี้ เราทำงานแบบเข้ากะ มีเวลาเข้างานและเลิกงานที่แน่นอน อาจมีนั่งเลยเวลาบ้างตอนติดเคส มีโอทีวันหยุด แต่ทุกอย่างก็ค่อนข้างอยู่ในแพลน เลยทำให้เราจัดสรรเวลาส่วนตัวได้ เช่น เตรียมสอบเซอร์ ออกกำลังกาย ดูหนัง ช้อปปิ้ง อยู่กับครอบครัว เพื่อน แมว รู้สึกเวลาเลิกงานหรือวันหยุดคือมันหยุดจริงๆ
แต่หลังจากที่เรารับหน้าที่นี้ รู้สึกเวลาส่วนตัวหายไปเยอะมาก ด้วยความที่ บริษัทมี WFH 50% จึงมีการทำงานผ่านไลน์ด้วย ตอนเช้าทุกวันไม่เว้นวันหยุด เราต้องตื่นมาอ่านไลน์เพื่อดูภาพรวมของกะกลางคืน ที่ทำงานมีกรุ๊ปไลน์เป็นร้อยๆ กรุ๊ป แท็กกันทั้งวัน แท็กไหนเป็นของเรา เราก็ต้องรีบแอ็กชัน งาน Escalate เยอะมาก ตารางประชุมแต่ละวันก็เยอะมาก บางวันโดนประชุมซ้อน ทั้งจากเคสด่วนของพื้นที่ เคสด่วนของลูกค้า ของหัวหน้า ในแต่ละวันกว่าจะได้กลับมาเคลียร์งานตัวเองก็เริ่มที่ 2-3 ทุ่ม พวกดู KPI ทีม จัดตารางกะ ทำรีพอร์ต สลับกับอ่านไลน์ไปด้วยเพราะเคสปรึกษาจากทีมและ Escalate มีตลอด 24 ชม.
วันไหนเจอเคสเร่งด่วน ตี 1 ตี 2 ก็ต้องตื่นมารับทราบ เคสไหนต้องดู config ก็ต้องลุกมาเปิดแล็ปท็อป
และวันไหนมีเคสใหญ่โดนตามเข้าวอร์รูมคือต้องหยุดทุกอย่างที่ทำอยู่ หลายครั้งที่กระทบการใช้ชีวิตทั้งเบาและหนักปะปนกันไป เช่น
- 2 ทุ่มเพื่อนนัดกินข้าว มีประชุมด่วนต้องขอเพื่อนเปิดแล็ปท็อปประชุม
- นัดครูพิลาทิสวันอาทิตย์ เจอเคสลูกค้าแรงที่ cc mail ขึ้นไปถึงระดับผู้บริหาร head แต่ละฝ่ายนี่โทรหาเราสืบสาวเรื่องราวจนเราขอลาครูกลับบ้านดีกว่า
- วันลอยกระทงพาแม่ไปเที่ยว ทีมแจ้งลูกค้าต่างชาติอยากประชุมด่วนเพราะเป็นเคสเรื้อรังที่ลูกค้าเริ่มหัวร้อนแล้ว
- วันเด็กพาหลานเที่ยว บอสเรียกประชุมเรื่องโครงสร้างองค์กร เรื่องนี้รู้มาได้หลักเดือนแล้วว่าจะมีการปลดคนออก แต่ก็ยังเรียกประชุมวันเด็ก ทั้งที่ทราบว่าเมเนเจอร์คนอื่นก็มีลูก
- วันเสาร์พาแมวไปทำวัคซีน ลูกค้าองค์กรระดับ VIP ต้องการรีพอร์ตด่วน ด่วนแบบภายในวันนี้ อยากจะคุยกับหมอแบบละเอียดยิบ นี่ก็เลยต้องจัดเวลาใหม่ คุยแค่คร่าวๆ แล้วรีบกลับคอนโด คิดอยู่ว่าถ้านัดใครไว้หรือตั้งใจไปไหนต่อนี่คงเซ็งมากๆ
นี่แค่ส่วนนึงค่ะ ตัวอย่างพวกนี้คือจะแสดงให้เห็นว่าเป็นเคสที่มาแบบฉุกเฉิน
ตอนนี้กลายเป็นงานประจำต้องประชุม วันหยุดต้องเตรียมตัวตั้งรับประชุม รับเคสลูกค้า เคสจากเซล เราพกหูฟัง แบกแล็ปท็อปไปทุกที่แม้เป็นวันหยุดเพราะโปรแกรมบางอย่างมือถือไม่ซัปพอร์ต รวมถึงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล
สถานการณ์ตอนนี้กลางวันกินข้าวไม่อร่อย กินไปประชุมไป เคลียร์งานไป บางทีต้องรีบๆ กิน กลางคืนนอนไม่ค่อยหลับ กลัวมีเคสเข้าแล้วไม่ได้ยินเสียง วิตกกังวลกลัวทำงานน้อยกว่าเมเนเจอร์คนอื่นๆ เราโดนดึงเข้าไปในกรุ๊ปไลน์ระดับผู้บริหาร ในนั้นก็จะมีเมเนเจอร์ฝ่ายอื่นๆ อยู่ด้วย ในนั้นแอ็กชันกันตลอด 24 ชม. ถามไวตอบไว และเราเป็น friend กับ head ที่สูงกว่าเราอยู่ 3-4 คน (ไม่ได้อยากเป็นแต่เค้าแอดมา เมเนเจอร์คนอื่นรับ เราก็เลยรับด้วย) บอสแต่ละคนคือโพสต์เคลมตัวเองว่าทำงาน 24 ชม. เช่น ตื่นตั้งแต่ตี 4 ตี 5 มาทำงาน, แคปตารางประชุมโพสต์อวดว่าประชุมเยอะมากไม่เว้นแม้วันหยุดเทศกาล, พาลูกออกมาวันเด็กก็ยังต้องทำงานแบบถ่ายรูปตัวเองใส่หูฟังเปิดแล็ปท็อปประชุม, วันหยุดยาวก็ถ่ายอวดว่าพกงานมาทำด้วย, ไม่รู้ว่าเค้าโพสต์แบบไม่คิดอะไรหรืออยากให้ลูกน้องเป็นแบบอย่าง แต่โพสต์นั้นมันมีผลกระทบต่อเรา เช่น ตอนเราพาแมวไปหาหมอ พอมีสายเข้าจากบอส เราไม่กล้าบอกเลยว่าเดี๋ยวโทรกลับ แต่หลังจากทำงานมาระยะนึง เราก็เริ่มประเมินได้บ้างแล้วว่าสายไหนรอได้ รอไม่ได้ กล้าที่จะปฏิเสธมากขึ้นเวลาตัวเองติดอะไรที่มันต้องกระทบคนอื่น และตอนนี้สมัครเฟสใหม่แยกไว้อีกอัน ตัดปัญหาความคิดมากของตัวเอง สามารถจัดการความคิดตัวเองได้แล้วบางส่วน แต่กับงานที่ต้องเจอ เรารู้สึกว่ามันเยอะไปมาก
อยากรู้ว่าตำแหน่งนี้ บ.อื่นเป็นแบบนี้ด้วยมั้ย จัดการรับมือกับคนและงานกันยังไงไม่ให้กระทบชีวิตส่วนตัว ปรับได้หรือชินไปเอง มาแชร์กันค่ะ เผื่อเราจะได้นำไปคิดต่อว่าเอายังไงดีกับงานในอนาคต
ตำแหน่ง Manager งานเยอะกันมั้ย กระทบเวลาส่วนตัวกันรึเปล่า ปรับตัวได้หรือชินไปเอง มาแชร์กันหน่อยค่ะ
แต่หลังจากที่เรารับหน้าที่นี้ รู้สึกเวลาส่วนตัวหายไปเยอะมาก ด้วยความที่ บริษัทมี WFH 50% จึงมีการทำงานผ่านไลน์ด้วย ตอนเช้าทุกวันไม่เว้นวันหยุด เราต้องตื่นมาอ่านไลน์เพื่อดูภาพรวมของกะกลางคืน ที่ทำงานมีกรุ๊ปไลน์เป็นร้อยๆ กรุ๊ป แท็กกันทั้งวัน แท็กไหนเป็นของเรา เราก็ต้องรีบแอ็กชัน งาน Escalate เยอะมาก ตารางประชุมแต่ละวันก็เยอะมาก บางวันโดนประชุมซ้อน ทั้งจากเคสด่วนของพื้นที่ เคสด่วนของลูกค้า ของหัวหน้า ในแต่ละวันกว่าจะได้กลับมาเคลียร์งานตัวเองก็เริ่มที่ 2-3 ทุ่ม พวกดู KPI ทีม จัดตารางกะ ทำรีพอร์ต สลับกับอ่านไลน์ไปด้วยเพราะเคสปรึกษาจากทีมและ Escalate มีตลอด 24 ชม.
วันไหนเจอเคสเร่งด่วน ตี 1 ตี 2 ก็ต้องตื่นมารับทราบ เคสไหนต้องดู config ก็ต้องลุกมาเปิดแล็ปท็อป
และวันไหนมีเคสใหญ่โดนตามเข้าวอร์รูมคือต้องหยุดทุกอย่างที่ทำอยู่ หลายครั้งที่กระทบการใช้ชีวิตทั้งเบาและหนักปะปนกันไป เช่น
- 2 ทุ่มเพื่อนนัดกินข้าว มีประชุมด่วนต้องขอเพื่อนเปิดแล็ปท็อปประชุม
- นัดครูพิลาทิสวันอาทิตย์ เจอเคสลูกค้าแรงที่ cc mail ขึ้นไปถึงระดับผู้บริหาร head แต่ละฝ่ายนี่โทรหาเราสืบสาวเรื่องราวจนเราขอลาครูกลับบ้านดีกว่า
- วันลอยกระทงพาแม่ไปเที่ยว ทีมแจ้งลูกค้าต่างชาติอยากประชุมด่วนเพราะเป็นเคสเรื้อรังที่ลูกค้าเริ่มหัวร้อนแล้ว
- วันเด็กพาหลานเที่ยว บอสเรียกประชุมเรื่องโครงสร้างองค์กร เรื่องนี้รู้มาได้หลักเดือนแล้วว่าจะมีการปลดคนออก แต่ก็ยังเรียกประชุมวันเด็ก ทั้งที่ทราบว่าเมเนเจอร์คนอื่นก็มีลูก
- วันเสาร์พาแมวไปทำวัคซีน ลูกค้าองค์กรระดับ VIP ต้องการรีพอร์ตด่วน ด่วนแบบภายในวันนี้ อยากจะคุยกับหมอแบบละเอียดยิบ นี่ก็เลยต้องจัดเวลาใหม่ คุยแค่คร่าวๆ แล้วรีบกลับคอนโด คิดอยู่ว่าถ้านัดใครไว้หรือตั้งใจไปไหนต่อนี่คงเซ็งมากๆ
นี่แค่ส่วนนึงค่ะ ตัวอย่างพวกนี้คือจะแสดงให้เห็นว่าเป็นเคสที่มาแบบฉุกเฉิน
ตอนนี้กลายเป็นงานประจำต้องประชุม วันหยุดต้องเตรียมตัวตั้งรับประชุม รับเคสลูกค้า เคสจากเซล เราพกหูฟัง แบกแล็ปท็อปไปทุกที่แม้เป็นวันหยุดเพราะโปรแกรมบางอย่างมือถือไม่ซัปพอร์ต รวมถึงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล
สถานการณ์ตอนนี้กลางวันกินข้าวไม่อร่อย กินไปประชุมไป เคลียร์งานไป บางทีต้องรีบๆ กิน กลางคืนนอนไม่ค่อยหลับ กลัวมีเคสเข้าแล้วไม่ได้ยินเสียง วิตกกังวลกลัวทำงานน้อยกว่าเมเนเจอร์คนอื่นๆ เราโดนดึงเข้าไปในกรุ๊ปไลน์ระดับผู้บริหาร ในนั้นก็จะมีเมเนเจอร์ฝ่ายอื่นๆ อยู่ด้วย ในนั้นแอ็กชันกันตลอด 24 ชม. ถามไวตอบไว และเราเป็น friend กับ head ที่สูงกว่าเราอยู่ 3-4 คน (ไม่ได้อยากเป็นแต่เค้าแอดมา เมเนเจอร์คนอื่นรับ เราก็เลยรับด้วย) บอสแต่ละคนคือโพสต์เคลมตัวเองว่าทำงาน 24 ชม. เช่น ตื่นตั้งแต่ตี 4 ตี 5 มาทำงาน, แคปตารางประชุมโพสต์อวดว่าประชุมเยอะมากไม่เว้นแม้วันหยุดเทศกาล, พาลูกออกมาวันเด็กก็ยังต้องทำงานแบบถ่ายรูปตัวเองใส่หูฟังเปิดแล็ปท็อปประชุม, วันหยุดยาวก็ถ่ายอวดว่าพกงานมาทำด้วย, ไม่รู้ว่าเค้าโพสต์แบบไม่คิดอะไรหรืออยากให้ลูกน้องเป็นแบบอย่าง แต่โพสต์นั้นมันมีผลกระทบต่อเรา เช่น ตอนเราพาแมวไปหาหมอ พอมีสายเข้าจากบอส เราไม่กล้าบอกเลยว่าเดี๋ยวโทรกลับ แต่หลังจากทำงานมาระยะนึง เราก็เริ่มประเมินได้บ้างแล้วว่าสายไหนรอได้ รอไม่ได้ กล้าที่จะปฏิเสธมากขึ้นเวลาตัวเองติดอะไรที่มันต้องกระทบคนอื่น และตอนนี้สมัครเฟสใหม่แยกไว้อีกอัน ตัดปัญหาความคิดมากของตัวเอง สามารถจัดการความคิดตัวเองได้แล้วบางส่วน แต่กับงานที่ต้องเจอ เรารู้สึกว่ามันเยอะไปมาก
อยากรู้ว่าตำแหน่งนี้ บ.อื่นเป็นแบบนี้ด้วยมั้ย จัดการรับมือกับคนและงานกันยังไงไม่ให้กระทบชีวิตส่วนตัว ปรับได้หรือชินไปเอง มาแชร์กันค่ะ เผื่อเราจะได้นำไปคิดต่อว่าเอายังไงดีกับงานในอนาคต