เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.matichon.co.th/region/news_5171081


จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ภายหลังจากที่มีผู้โพสต์คลิปภาพส่วนหนึ่งของโครงการหมู่บ้านฯ  ระบุ “แล้วใครจะซื้อ” พร้อมกับเสียงบรรยายประกอบภาพ ว่า “ที่เราทำคลิปนี้มาประกาศขายบ้าน เพราะว่าทางโครงการยังคงสร้างบ้านขาย ถ้าสภาพบ้านแบบนี้โครงการยังขายได้ บ้านของพวกตนก็ต้องขายได้ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำเรื่องร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานแล้ว หลังจากที่หน่วยงานเข้ามาตรวจสอบแล้ว บอกว่า ซ่อมได้ อยู่ได้ แต่ชาวบ้านจะอยู่ได้อย่างไร เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกิดกับฐานรากของตัวบ้าน”

นอกจากนี้ยังมีการติดป้ายสีแดงประกาศขายบ้าน 30 หลังคาเรือน โดยมีข้อความให้เห็นเป็นที่เด่นชัดว่า ขายด่วน ขายตามสภาพ บ้านทรุด บ้านร้าว ปูนเปื่อย หลังคาน้ำรั่วไหลลงฝ้า ห้องน้ำชั้นบนน้ำขังหยดมาชั้นล่าง บ้านจะเอียงนิดหน่อย ฟุตติ้งแตก … โปรโมชั่น ฟรีปลวก ฟรีห้องครัว (ไม่พร้อมใช้งาน) ฟรีที่จอดรถหน้าบ้านทรุดแน่นอน ฟรีระบบสายไฟที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่เพื่อนบ้านน่ารักนั้น

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องประชุม 501 ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าหารือเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยมี หัวหน้าสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ผู้แทน สคบ. ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย ผู้แทนคณะผู้บริหาร อบต.ท่าทราย ผู้แทนโครงการหมู่บ้านที่เกิดปัญหา และ วิศวกรผู้ควบคุมก่อสร้าง รวมถึงตัวแทนของฝ่ายลูกบ้าน เข้ามาเจรจาหารือร่วมกัน

นายนริศ กล่าวว่า ซึ่งทางหน่วยงานราชการพร้อมที่จะรับเรื่องราวร้องทุกข์ของพี่น้องประชาชนและพร้อมที่จะให้การแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ขณะที่ปัญหาในเรื่องบ้านที่เกิดขึ้น จากการรายงานทราบว่า นอกจากเจ้าหน้าที่ฯ จะลงไปตรวจสอบแล้วนั้น ยังได้มีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้ามาตรวจประเมินความเสี่ยงด้วย และผลออกมาว่า สามารถทำการปรับปรุงซ่อมแซมแก้ไขได้ ดังนั้นในส่วนของการดำเนินงานขั้นตอนต่อไปคือ ทางโครงการและชาวบ้านจะต้องหารือร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพื่อเป็นการยุติปัญหาที่เกิดขึ้น แต่น่าเสียดายที่การหารือในครั้งนี้ ไม่มีตัวแทนของลูกบ้านมาเข้าร่วมด้วย จึงอาจจะต้องมีการจัดประชุมหารือร่วมกันอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจนระหว่างฝ่ายลูกบ้าน กับ ฝ่ายเจ้าของโครงการฯ... อ่านต่อข่าวต้นฉบับเต็มได้ที่ : https://www.matichon.co.th/region/news_5171081