ไข่เยี่ยวม้า เป็นการถนอมอาหารรูปแบบหนึ่ง มาจากประเทศจีน เมื่อราว 600 ปีก่อน เชื่อกันว่า ในสมัยราชวงศ์หมิง มีเจ้าของบ้านพบไข่เป็ดในบ่อปูนขาว ที่ใช้ในการก่อสร้างบ้าน ลองชิมแล้ว มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงผลิตขาย โดยใช้ไข่เป็ดดิบมากลบในบ่อปูนขาว 2 เดือน เติมเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ จึงกลายมาเป็นไข่เยี่ยวม้าในปัจจุบัน
ไข่เยี่ยวม้าจะใช้ไข่ชนิดใดก็ได้ ลักษณะเฉพาะคือ ไข่แดงจะเป็นสีดำเข้ม ส่วนไข่ขาว จะมีสีน้ำตาล ไข่เยี่ยวม้า 1 ฟอง จะให้พลังงาน 95 Kcal

คนจีนเรียกไข่เยี่ยวม้าว่า เฮวี่ยหม่า ไข่เยี่ยวม้า อาจมาจากคำว่า เฮวี่ยหม่า หรือ อาจมาจากกลิ่นของไข่ที่เกิดจากปฏิกริยาของกำมะถันที่อยู่ในไข่ เกิดเป็นก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์และแอมโมเนีย คล้ายกับกลิ่นปัสสาวะของม้า

☘️วิธีทำไข่เยี่ยวม้า นำไข่มาแช่ไว้ในน้ำที่มีสภาพเป็นด่าง ไข่จะกลายสภาพเป็นเนื้อวุ้น โดยจะใช้เกลือผสมกับปูนขาวแบบดั้งเดิม หรือจะใช้โซดาไฟ(food grade)ก็ได้ และเพื่อให้มีสีน้ำตาลให้ใส่ใบชาลงไปด้วย

☘️ส่วนผสม
ไข่เป็ดดิบ 10 ฟอง
น้ำ 1 ลิตร
เกลือเม็ด 50 กรัม
ใบชา 10 กรัม
โซเดียมไฮดรอกไซด์ Food Grade 50 กรัม
☘️วิธีทำ
นำไข่เป็ดมาล้างน้ำให้สะอาด ตากลมให้แห้ง

ต้มน้ำประมาณ 1 ลิตร ใส่เกลือ 50 กรัม ต้มให้เดือด

ใส่ใบชาลงไป 10 กรัม ต้มต่ออีก 5 นาที  ปิดไฟ พักให้เย็น กรองเอาใบชาออก

ใส่โซดาไฟ food grade ลงไป คนให้ละลาย (โซดาไฟ จะทำให้น้ำร้อน ควรใช้ความระมัดระวัง) พักน้ำชาไว้ให้เย็นตัวลง

ใส่ไข่เป็ดลงในภาชนะที่ปิดสนิทได้ ใช้วัสดุที่ทนความร้อนได้ เทน้ำชาลงไป ปิดฝาให้สนิท

นำไปวางไว้ในที่มืด หรือแสงน้อย ที่อุณหภูมิห้อง 10-14 วัน พอครบเวลานำไข่ออกมา ล้างน้ำให้สะอาด ก็จะได้ไข่เยี่ยวม้าตามต้องการ

เปลือกไข่เยี่ยวม้ามีสีชมพู วิธีแบบโบราณจะใช้ปูนแดงมาทาบนเปลือกไข่ แต่ในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนมาเป็นพ่นสีหรือทาสีแทน แต่ควรใช้สีผสมอาหารเพื่อความปลอดภัย