คนเสื้อแดง ลั่น หมดศรัทธาทักษิณ เชื่อป่วยการละคร เผยพี่สาวต้าร์ วันเฉลิม เตรียมถามความจริงกับฮุนเซน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4435291
คนเสื้อแดงลั่น หมดศรัทธาทักษิณ เชื่อป่วยการละคร เผยพี่สาวต้าร์ วันเฉลิม จะทวงถามความจริงกับฮุนเซน
เมื่อเวลา 09.40น.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ป้า
แหม่ม มวลชนคนเสื้อแดง รอต้อนรับสมเด็จอัครมหาเสนาบดี
เดโช ฮุน เซน หรือสมเด็จ
ฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านเสริมสุข ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ช่วงสายของวันนี้ โดยป้า
แหม่ม ได้พกล็อตเก็ตรูปคู่ของนาย
ทักษิณ และ น.ส.
ยิ่งลักษณ์ มาแสดงต่อสื่อพร้อมเปิดเผยว่า ตนต่อสู้ร่วมกับคนเสื้อแดงมานานนับสิบปี มีใจรักต่อนาย
ทักษิณและ น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตลอดมา ใครจะด่าจะว่าก็ไม่ได้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าการกลับมาของนาย
ทักษิณ เป็นการหลอกลวงประชาชน ทำให้รู้สึกหมดศรัทธา แต่ไม่ได้เกลียด ส่วนเรื่องอาการป่วยของนาย
ทักษิณ นั้น ตนเองก็ไม่เชื่อ มองว่าเป็นการละคร เพราะก่อนจะกลับถึงไทย ท่านยังเตะต่อยมวยอยู่เลย
ป้า
แหม่ม กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสิ่งดีๆ ของท่านก็มีมากมาย ตนได้ใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรค ก็รู้สึกยินดี และในวันนี้ น.ส.
สิตานัน พี่สาวของนาย
วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองไทยที่ถูกอุ้มหายในกัมพูชา ก็จะทวงถามความจริงจากนาย
ฮุนเซน เช่นกัน
ขณะที่คนเสื้อแดงอีกรายยังนำภาพที่ตัวเองเคยถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ตอนแจกลายเซ็นมาแสดงต่อสื่ออีกด้วย
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.
กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.
อัครพล จั่นเพชร ผกก.สน.บางพลัด สั่งให้ตำรวจจราจร สน.บางพลัด เข้าจัดการจราจรภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ก่อนสมเด็จ
ฮุนเซน ประธานองคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา เข้าเยี่ยมนาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านเสริมสุข ในช่วงสายของวันนี้ ซึ่งตำรวจได้นำแผงรั้วกั้นมาเตรียมปิดถนนบริเวณโดยรอบ และจะจัดให้ผู้สื่อข่าวรอทำข่าวอยู่รอบนอก
กมธ.โอนธุรกิจกองทัพ หวั่นช่อง 5 สถานะไม่ชัด-ขาดทุนยาว 6 ปี เป็นภาระงบรัฐเพิ่ม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4434776
“พิจารณ์” กังวลสถานะ ททบ.5 ไม่ได้เป็นทั้งนิติบุคคลและส่วนราชการ พบขาดทุนต่อเนื่อง 6 ปี อาจเป็นภาระทางการคลังในอนาคต แนะดึงเอกชนผู้เชี่ยวชาญมาบริหาร กำหนดสัดส่วนเวลาสำหรับเนื้อหาด้านความมั่นคง-ทำกำไรไปพร้อมกันได้
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 นาย
พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจต่างๆ ของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรกที่มีการพิจารณาธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จากคลื่นโทรทัศน์วิทยุ ได้มีการเชิญสถานีวิทยุกองทัพบก (ททบ.5) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสมาคมภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม
นาย
พิจารณ์กล่าวว่า ธุรกิจในส่วนของวิทยุยังไม่ได้มีการพูดคุย แต่การประชุมนัดนี้เริ่มพูดคุยในส่วนของโทรทัศน์ก่อนเป็นอันดับแรก หลังการพูดคุย ตนยังคงมีข้อสงสัยว่า ททบ.5 มีสถานะทางกฎหมายเป็นอะไรกันแน่ โดยเข้าใจว่าไม่ได้มีสถานะเป็นนิติบุคคล แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ส่วนราชการ ทางด้านผู้ชี้แจงกล่าวว่ามีลักษณะเป็นหน่วยงานรัฐ โดยอ้างคำวินิจฉัยของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำให้ตนสรุปได้ว่า ที่ผ่านมาสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 หรือ ททบ.5 ไม่ได้มีกฎหมายรองรับสถานะของตนเอง
นาย
พิจารณ์กล่าวว่า หาก ททบ.5 เป็นหน่วยงานของรัฐภายใต้กองทัพบก ก็มีสิ่งที่สถานีต้องปรับปรุงให้เป็นไปตามกฎหมาย เช่น การใช้พื้นที่ราชพัสดุย่านสนามเป้า 11 ไร่ ต้องทำสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ ไม่สามารถอ้างว่าใช้ในราชการได้ เพราะ ททบ.5 ไม่ได้เป็นส่วนราชการ กล่าวคือต้องมีการทำสัญญากับกรมธนารักษ์เพื่อขอใช้พื้นที่ และหากเป็นหน่วยงานของรัฐที่อยู่ภายใต้กองทัพบก หมายความว่า รายได้ ทรัพย์สิน หนี้สิน ของสถานี ต้องถูกผนวกเข้ากับงบการเงินของกองทัพบกด้วย
ซึ่งขณะนี้ยังไม่ปรากฏสิ่งเหล่านี้ และที่สร้างความสับสนจนถึงปัจจุบัน คือผู้แทนจาก สตง. ที่ร่วมประชุมในวันนี้ กล่าวว่า ไม่ได้มีการตรวจสอบบัญชีงบการเงินของสถานีมาก่อน จะเริ่มทำการตรวจสอบอย่างจริงจังในรอบบัญชีของปี 2566 แม้ทางผู้ชี้แจงฝั่ง ททบ.5 จะกล่าวว่าเคยมีการตรวจสอบแล้ว 1 ครั้งในปี 2542
นอกจาก ททบ.5 ก็ยังมีหน่วยงานที่ทาง กมธ.ได้เชิญมาเข้าประชุม ได้แก่ สตง. กสทช. และสมาคมภาคเอกชนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับทีวีดิจิทัล หลังจากสอบถามสถานการณ์การทำธุรกิจวิทยุโทรทัศน์ในปัจจุบัน ทำให้ทราบว่าธุรกิจทีวีดิจิทัลมีการแข่งขันสูงและเป็นช่วงขาลง สืบเนื่องจาก Technology Disruption และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งแม้แต่มืออาชีพยังยอมรับว่าการทำธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ค่อนข้างยาก
ขณะเดียวกันในปี 2560 ททบ.5 มีกำไร 180 ล้านบาท แต่ระหว่างปี 2561-2566 มีการรายงานว่า ขาดทุน แต่ไม่ได้รายงานว่าขาดทุนเท่าไร ตนจึงกังวล แม้ว่า ททบ.5 จะดำเนินธุรกิจเป็นทีวีสาธารณะเพื่อความมั่นคง แต่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้ แม้ ททบ.5 มีสถานะทางการเงินอยู่ในระดับดูแลตัวเองได้ เพราะไม่เคยของบประมาณแผ่นดินมาก่อน แต่หากไม่นำมืออาชีพมาบริหารและปรับปรุงโครงสร้างภายในให้กลับมามีกำไรในอนาคต ก็อาจจะส่งผลให้เป็นภาระงบประมาณต่อรัฐบาลในอนาคตได้
นาย
พิจารณ์ตั้งข้อสังเกตว่าหาก ททบ.5 มีความจำเป็นที่จะต้องมีสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อสื่อสารด้านความมั่นคง ก็อาจพิจารณาแบ่งผังเวลาที่เป็นในเชิงธุรกิจ โอนออกมาให้มีการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับสถานี และกันผังเวลาสำหรับออกอากาศส่วนของความมั่นคง และจัดสรรงบประมาณเพื่อส่วนดังกล่าว ขณะที่ส่วนที่เหลือให้เอกชนมาบริหาร เพื่อให้ธุรกิจสามารถทำกำไรและไม่ให้เกิดภาระกับงบประมาณแผ่นดินในอนาคต
นาย
พิจารณ์กล่าวว่า จากการประชุมวันนี้ก็ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากยังไม่เห็นงบการเงินของสถานี ตนจึงรอตรวจสอบเพื่อจะได้เห็นปัญหา หนี้สิน ลูกหนี้ และรายละเอียดอื่นๆ ต่อไป
ส.ส.ก้าวไกล งง ผบ.ทอ.-โฆษกกห. พูดจาสวนทาง ถามสรุปแล้ว 625 ไร่ ธูปะเตมีย์จะทำอะไรแน่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4434649
‘เชตวัน’ งง ผบ.ทอ.-โฆษกกลาโหม พูดสวนทาง ปมทำสปอร์ตคอมเพล็กซ์บนที่ดินสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ แนะ ทอ. หาแนวป้องกันที่ไกลออกไป เหตุบริเวณโดยรอบปัจจุบันสภาพเป็นเมือง-มีคนหนาแน่น
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 นาย
เชตวัน เตือประโคน ส.ส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี นาย
จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่าได้คุยกับ ผบ.ทอ.ว่าไม่สามารถให้ใช้พื้นที่สนามธูปะเตมีย์ได้ เนื่องจากเป็นยุทธศาสตร์ของกองทัพ ในสมัยก่อนเป็นพื้นที่กันไว้เพื่อป้องกันทางทิศเหนือและภาคอีสาน ที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯนั้น ว่า สิ่งที่ตนเสนอคือการเปลี่ยนสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์เป็นสวนสาธารณะให้ประชาชน และต่อมา ผบ.ทอ.เองต่างหากที่เป็นคนเสนอเรื่องสปอร์ต คอมเพล็กซ์ หรือศูนย์กีฬาครบวงจร และกล่าวด้วยว่านายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนงบประมาณ ซึ่งตรงนี้ตนก็เห็นด้วย เพราะหมายความว่าเราเห็นตรงกันว่าที่ผืนใหญ่ใจกลางเมือง 625 ไร่ ไม่ควรเป็นสนามกอล์ฟที่คนเพียงไม่กี่คนได้ใช้ประโยชน์ ส่วนจะเป็นสปอร์ต คอมเพล็กซ์รูปแบบไหน จะเฉือนมาทำสวนสาธารณะด้วยหรือไม่ก็ต้องมาศึกษากันอีกที
นาย
เชตวันกล่าวว่า คำให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ทอ.เมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) กับของโฆษกกระทรวงกลาโหมวันนี้ กลับไม่ตรงกัน ว่าตกลงแล้วใช้พื้นที่ 625 ไร่นี้ทำอะไรได้หรือไม่ได้กันแน่ จึงขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายไปตกลงกันก่อน และถ้าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของกองทัพที่ต้องกันไว้ ถามว่าวันนี้ยังเป็นอยู่หรือไม่ เพราะถ้าไปดูสภาพพื้นที่โดยรอบรายล้อมด้วยบ้านเรือน เป็นชุมชน เป็นเมืองที่มีคนอาศัยหนาแน่น ดังนั้น ถ้าจะหาพื้นที่ยุทธศาสตร์สำหรับป้องกันอริราชศัตรู หรือเพื่อการศึกจริงๆ ควรขยับขยายไปหาที่อื่นที่ไกลออกไปเป็นแนวป้องกันทิศเหนือดีกว่าหรือไม่
JJNY : คนเสื้อแดงเชื่อป่วยการละคร│กมธ.หวั่นช่อง 5 สถานะไม่ชัด│ส.ส.ก้าวไกลงง พูดสวนทาง│สิงคโปร์รับ ให้เงินหนุน ‘สวิฟต์’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4435291
คนเสื้อแดงลั่น หมดศรัทธาทักษิณ เชื่อป่วยการละคร เผยพี่สาวต้าร์ วันเฉลิม จะทวงถามความจริงกับฮุนเซน
เมื่อเวลา 09.40น.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ป้าแหม่ม มวลชนคนเสื้อแดง รอต้อนรับสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน หรือสมเด็จฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านเสริมสุข ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ช่วงสายของวันนี้ โดยป้าแหม่ม ได้พกล็อตเก็ตรูปคู่ของนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาแสดงต่อสื่อพร้อมเปิดเผยว่า ตนต่อสู้ร่วมกับคนเสื้อแดงมานานนับสิบปี มีใจรักต่อนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตลอดมา ใครจะด่าจะว่าก็ไม่ได้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าการกลับมาของนายทักษิณ เป็นการหลอกลวงประชาชน ทำให้รู้สึกหมดศรัทธา แต่ไม่ได้เกลียด ส่วนเรื่องอาการป่วยของนายทักษิณ นั้น ตนเองก็ไม่เชื่อ มองว่าเป็นการละคร เพราะก่อนจะกลับถึงไทย ท่านยังเตะต่อยมวยอยู่เลย
ป้าแหม่ม กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสิ่งดีๆ ของท่านก็มีมากมาย ตนได้ใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรค ก็รู้สึกยินดี และในวันนี้ น.ส.สิตานัน พี่สาวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองไทยที่ถูกอุ้มหายในกัมพูชา ก็จะทวงถามความจริงจากนายฮุนเซน เช่นกัน
ขณะที่คนเสื้อแดงอีกรายยังนำภาพที่ตัวเองเคยถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ตอนแจกลายเซ็นมาแสดงต่อสื่ออีกด้วย
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.อัครพล จั่นเพชร ผกก.สน.บางพลัด สั่งให้ตำรวจจราจร สน.บางพลัด เข้าจัดการจราจรภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ก่อนสมเด็จฮุนเซน ประธานองคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา เข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านเสริมสุข ในช่วงสายของวันนี้ ซึ่งตำรวจได้นำแผงรั้วกั้นมาเตรียมปิดถนนบริเวณโดยรอบ และจะจัดให้ผู้สื่อข่าวรอทำข่าวอยู่รอบนอก
กมธ.โอนธุรกิจกองทัพ หวั่นช่อง 5 สถานะไม่ชัด-ขาดทุนยาว 6 ปี เป็นภาระงบรัฐเพิ่ม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4434776
“พิจารณ์” กังวลสถานะ ททบ.5 ไม่ได้เป็นทั้งนิติบุคคลและส่วนราชการ พบขาดทุนต่อเนื่อง 6 ปี อาจเป็นภาระทางการคลังในอนาคต แนะดึงเอกชนผู้เชี่ยวชาญมาบริหาร กำหนดสัดส่วนเวลาสำหรับเนื้อหาด้านความมั่นคง-ทำกำไรไปพร้อมกันได้
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจต่างๆ ของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรกที่มีการพิจารณาธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จากคลื่นโทรทัศน์วิทยุ ได้มีการเชิญสถานีวิทยุกองทัพบก (ททบ.5) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสมาคมภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม
นายพิจารณ์กล่าวว่า ธุรกิจในส่วนของวิทยุยังไม่ได้มีการพูดคุย แต่การประชุมนัดนี้เริ่มพูดคุยในส่วนของโทรทัศน์ก่อนเป็นอันดับแรก หลังการพูดคุย ตนยังคงมีข้อสงสัยว่า ททบ.5 มีสถานะทางกฎหมายเป็นอะไรกันแน่ โดยเข้าใจว่าไม่ได้มีสถานะเป็นนิติบุคคล แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ส่วนราชการ ทางด้านผู้ชี้แจงกล่าวว่ามีลักษณะเป็นหน่วยงานรัฐ โดยอ้างคำวินิจฉัยของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำให้ตนสรุปได้ว่า ที่ผ่านมาสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 หรือ ททบ.5 ไม่ได้มีกฎหมายรองรับสถานะของตนเอง
นายพิจารณ์กล่าวว่า หาก ททบ.5 เป็นหน่วยงานของรัฐภายใต้กองทัพบก ก็มีสิ่งที่สถานีต้องปรับปรุงให้เป็นไปตามกฎหมาย เช่น การใช้พื้นที่ราชพัสดุย่านสนามเป้า 11 ไร่ ต้องทำสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ ไม่สามารถอ้างว่าใช้ในราชการได้ เพราะ ททบ.5 ไม่ได้เป็นส่วนราชการ กล่าวคือต้องมีการทำสัญญากับกรมธนารักษ์เพื่อขอใช้พื้นที่ และหากเป็นหน่วยงานของรัฐที่อยู่ภายใต้กองทัพบก หมายความว่า รายได้ ทรัพย์สิน หนี้สิน ของสถานี ต้องถูกผนวกเข้ากับงบการเงินของกองทัพบกด้วย
ซึ่งขณะนี้ยังไม่ปรากฏสิ่งเหล่านี้ และที่สร้างความสับสนจนถึงปัจจุบัน คือผู้แทนจาก สตง. ที่ร่วมประชุมในวันนี้ กล่าวว่า ไม่ได้มีการตรวจสอบบัญชีงบการเงินของสถานีมาก่อน จะเริ่มทำการตรวจสอบอย่างจริงจังในรอบบัญชีของปี 2566 แม้ทางผู้ชี้แจงฝั่ง ททบ.5 จะกล่าวว่าเคยมีการตรวจสอบแล้ว 1 ครั้งในปี 2542
นอกจาก ททบ.5 ก็ยังมีหน่วยงานที่ทาง กมธ.ได้เชิญมาเข้าประชุม ได้แก่ สตง. กสทช. และสมาคมภาคเอกชนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับทีวีดิจิทัล หลังจากสอบถามสถานการณ์การทำธุรกิจวิทยุโทรทัศน์ในปัจจุบัน ทำให้ทราบว่าธุรกิจทีวีดิจิทัลมีการแข่งขันสูงและเป็นช่วงขาลง สืบเนื่องจาก Technology Disruption และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งแม้แต่มืออาชีพยังยอมรับว่าการทำธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ค่อนข้างยาก
ขณะเดียวกันในปี 2560 ททบ.5 มีกำไร 180 ล้านบาท แต่ระหว่างปี 2561-2566 มีการรายงานว่า ขาดทุน แต่ไม่ได้รายงานว่าขาดทุนเท่าไร ตนจึงกังวล แม้ว่า ททบ.5 จะดำเนินธุรกิจเป็นทีวีสาธารณะเพื่อความมั่นคง แต่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้ แม้ ททบ.5 มีสถานะทางการเงินอยู่ในระดับดูแลตัวเองได้ เพราะไม่เคยของบประมาณแผ่นดินมาก่อน แต่หากไม่นำมืออาชีพมาบริหารและปรับปรุงโครงสร้างภายในให้กลับมามีกำไรในอนาคต ก็อาจจะส่งผลให้เป็นภาระงบประมาณต่อรัฐบาลในอนาคตได้
นายพิจารณ์ตั้งข้อสังเกตว่าหาก ททบ.5 มีความจำเป็นที่จะต้องมีสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อสื่อสารด้านความมั่นคง ก็อาจพิจารณาแบ่งผังเวลาที่เป็นในเชิงธุรกิจ โอนออกมาให้มีการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับสถานี และกันผังเวลาสำหรับออกอากาศส่วนของความมั่นคง และจัดสรรงบประมาณเพื่อส่วนดังกล่าว ขณะที่ส่วนที่เหลือให้เอกชนมาบริหาร เพื่อให้ธุรกิจสามารถทำกำไรและไม่ให้เกิดภาระกับงบประมาณแผ่นดินในอนาคต
นายพิจารณ์กล่าวว่า จากการประชุมวันนี้ก็ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากยังไม่เห็นงบการเงินของสถานี ตนจึงรอตรวจสอบเพื่อจะได้เห็นปัญหา หนี้สิน ลูกหนี้ และรายละเอียดอื่นๆ ต่อไป
ส.ส.ก้าวไกล งง ผบ.ทอ.-โฆษกกห. พูดจาสวนทาง ถามสรุปแล้ว 625 ไร่ ธูปะเตมีย์จะทำอะไรแน่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4434649
‘เชตวัน’ งง ผบ.ทอ.-โฆษกกลาโหม พูดสวนทาง ปมทำสปอร์ตคอมเพล็กซ์บนที่ดินสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ แนะ ทอ. หาแนวป้องกันที่ไกลออกไป เหตุบริเวณโดยรอบปัจจุบันสภาพเป็นเมือง-มีคนหนาแน่น
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 นายเชตวัน เตือประโคน ส.ส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่าได้คุยกับ ผบ.ทอ.ว่าไม่สามารถให้ใช้พื้นที่สนามธูปะเตมีย์ได้ เนื่องจากเป็นยุทธศาสตร์ของกองทัพ ในสมัยก่อนเป็นพื้นที่กันไว้เพื่อป้องกันทางทิศเหนือและภาคอีสาน ที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯนั้น ว่า สิ่งที่ตนเสนอคือการเปลี่ยนสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์เป็นสวนสาธารณะให้ประชาชน และต่อมา ผบ.ทอ.เองต่างหากที่เป็นคนเสนอเรื่องสปอร์ต คอมเพล็กซ์ หรือศูนย์กีฬาครบวงจร และกล่าวด้วยว่านายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนงบประมาณ ซึ่งตรงนี้ตนก็เห็นด้วย เพราะหมายความว่าเราเห็นตรงกันว่าที่ผืนใหญ่ใจกลางเมือง 625 ไร่ ไม่ควรเป็นสนามกอล์ฟที่คนเพียงไม่กี่คนได้ใช้ประโยชน์ ส่วนจะเป็นสปอร์ต คอมเพล็กซ์รูปแบบไหน จะเฉือนมาทำสวนสาธารณะด้วยหรือไม่ก็ต้องมาศึกษากันอีกที
นายเชตวันกล่าวว่า คำให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ทอ.เมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) กับของโฆษกกระทรวงกลาโหมวันนี้ กลับไม่ตรงกัน ว่าตกลงแล้วใช้พื้นที่ 625 ไร่นี้ทำอะไรได้หรือไม่ได้กันแน่ จึงขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายไปตกลงกันก่อน และถ้าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของกองทัพที่ต้องกันไว้ ถามว่าวันนี้ยังเป็นอยู่หรือไม่ เพราะถ้าไปดูสภาพพื้นที่โดยรอบรายล้อมด้วยบ้านเรือน เป็นชุมชน เป็นเมืองที่มีคนอาศัยหนาแน่น ดังนั้น ถ้าจะหาพื้นที่ยุทธศาสตร์สำหรับป้องกันอริราชศัตรู หรือเพื่อการศึกจริงๆ ควรขยับขยายไปหาที่อื่นที่ไกลออกไปเป็นแนวป้องกันทิศเหนือดีกว่าหรือไม่