เคยอึด หรือถูกกดดันจากคนในครอบครัวไหม

เราจะขอเล่าถึงปัญหาที่มันเกิดขึ้นในอดีต แล้วปัจจุบันยังเป็นกันอยู่ แต่พยามปรับและแก้ไขให้มันเร็วที่สุดเพื่อลูก

ก่อนอื่นเราอยากจะเล่าก่อนว่า สามีเราเป็นคนที่นิสัยแอบเหมือน ผญ พ่อแม่แยกทางกัน ปู่ย่าตายายเป็นคนเลี้ยงเขามา แต่อยู่ฝั่งพ่อเลยได้รับพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก ไม่ดีมาสักเท่าไหร่ เพราะพ่อเป็นคนหัวร้อน ปากจัด สามีเลยได้รับพฤติกรรมนั้นมาเต็มๆ 

เราคบกับสามีมา 6 ปี ปีที่ 7 แต่งงานกันเพราะว่าเราท้อง พฤติกรรมของสามีเราปรับ เปลี่ยนกันมาพอประมาณ แต่ยังไม่ดีขึ้นมากเท่าไหร่ ตอนท้องก็มีทะเลาะกันบ้างแต่เราพยามปล่อยผ่าน สามีรู้สึกผิดเสมอที่เขาเป็นแบบนี้ เรารับรู้ว่าเขาก็พยามปรับเพื่อเรากับลูก แต่ปัญหามันเกิดขึ้นอยู่ที่ พอเราใกล้จะคลอด อีก 2 เดือน แม่เรามาดูแล แม่เราไม่เคยอยู่กับสามีเรามาก่อน บางครั้งเราก็มีทะเลาะกัน แต่สามีเราชอบเหยียด ชอบประชดเวลาทะเลาะ แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่สู้กลับ เราสู้กลับตลอด แต่แม่เราเขาคงอึดอัดทนไม่ได้ ที่เห็นลูกตัวเองโดนว่าขนาดนี้ เราเข้าใจนะคะ เป็นเรามีคนมาว่าลูกแบบนี้เราก็รับไม่ได้ 

เรารู้ว่าแม่เราเสียใจมาก ที่เห็นลูกทะเลาะกัน การทะเลาะกันต่อหน้าผู้ใหญ่ มันเป็นการเสียมารยาทและไม่ให้เกียรติเขามากๆ เราสำนึกกันทั้งสองและขอโทษแม่เรา แม่ก็โอเค เพื่อหลาน ไม่เป็นไร

มันจะมีอยู่ช่วงนึงที่เงินเก็บเราหมด เพราะสามีทำงานคนเดียว ส่วนเราเลี้ยงลูกอยู่บ้าน เลยมีรายได้ทางเดียว เลยปรึกษาแม่เราว่า เรากับลูกจะกลับไปอยู่บ้านและเราก็ไปขายของ และอาศัยพึ่งพาพ่อกับแม่เราอยู่เกือบ 2 เดือน เรากับสามีเลยตัดสินใจว่า เราไม่อยากอยู่เป็นภาระพวกท่านแล้ว สามีเลยไปรับกลับมาอยู่ด้วยกัน แล้วกลับมาทำเดลิเวอร์ฟู้ดออนไล์กัน มันโอเคมากๆ เราขอบคุณพ่อกับแม่เราที่ช่วยให้เราตั้งตัวได้ในวันนั้น

เรากับสามีตกลงกันว่าจะเลี้ยงลูกกันเอง เด็กจะดีไม่ดี ขอให้เป็นพ่อกับแม่มันเลี้ยงมาดีกว่า โตพอรู้เรื่องแล้วเราจะไปหางานทำ 
แต่เราก็โดนกดเันจากพี่ชายมาตลอดว่าให้ไปหางานทำ พี่ชายเราเป็นข้าราชการ เราคุยกับทุกคนในบ้านแล้วส่าเราจะเลี้ยงลูกเอง แต่พี่ชายให้เราเอาลูกไปให้แม่เราเลี้ยงและจะให้เราไปทำงาน เราเข้าใจในความหวังดีของทุกคน แม่เราก็บอกเลี้ยงหลานไหว ไหวมากขนาดหลานไปอยู่ด้วยจนต้องไปฉีดยาแก้ปวด แม่เราก็แก่แล้ว เราไม่อยากเอาภาระของเราไปฝากไว้ที่ใคร เพราะลูกคือความรับผิดชอบของเรา เราทะเลาะกับพี่ชายอยู่พักนึงเรื่องเอาหลานไปให้แม่เราเลี้ยงแล้งให้ไปทำงาน สามีเราไม่ยอม อยากให้เลี้ยงลูกก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน

ผ่านไป 1 ปี...

แต่มีวันนึง ที่สามีเราเขาต้องเข้า รพ. เพื่อเข้ารับการผ่าตัด เราอยู่กันสองคนกับลูก แล้วต้องเวียนไปเยี่ยมสามีที่ รพ. เลยไม่สะดวกเอาลูกไปด้วย เลยต้องฝากยายที่อยู่บ้านใกล้กัน แล้วให้แม่เรามาดูหลานช่วยในระหว่างนี้ จนสามีเราได้กลับบ้าน ดูแลกัน อยู่กันไปตามปกติ จนมาวันนึง เราเอายาให้สามีผิด สามีดุเราว่าทำไมไม่ดูให้ดีก่อนจะเอามาให้กิน เราเป็นเบลอๆตั้งแต่หลังคลอด หลับๆตื่นๆกลางดึก ลูกงอแงเราขี้ลืม เป็นคุณแม่ฟลูไทม์มา 1 ปี สะสมมาก 

เลยทะเลาะกันสามีอีกฉากนึง จนลืมไปว่าลูกกับแม่เราอยู่ตรงนั้นด้วย ต่างฝ่ายจะเอาชนะกันอยู่อย่างเดียว สามีก็เหยียดเรา เราก็สู้กลับตามเคย มันวนลูปเดิมอีกแล้ว แม่เรารับไม่ได้ขอกลับบ้านเลยวันนั้น เราไปส่งแม่ที่คิวรถกลับมา สามีบอกว่าขอโทษที่คิดแต่ตะเอาชนะ ขอโทษแม่เราที่ทำตัวแย่ไปแบบนั้น เรายืนยันจะกลับบ้าน ห่างกับสามี สามีบอกว่า เรามีปรับกันคุยกันก่อน เขารู้สึกผิดมากเลยที่คุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เพราะแค่ว่าเราเถียงเขา เขาเลยอยากเอาชนะ เราบอกว่า ลูกก็โตขึ้นทุกวันนะ อย่ามาให้ลูกเห็นพฤติกรรมไม่ดีแบบนี้อีกเลย สามีบอกว่าจะไม่สัญญาอะไร แต่จะดีขึ้นให้ดูจากการกระทำ โอเคเราเข้าใจ ว่าเขาก็พยามปรับแล้ว มันก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนนะ งั้นมันต้องดีขึ้นได้ดีกว่านี้สิ

แล้งวันนี้ พี่ชายก็ทักมาว่า 'อีกแล้วหรอ เหนื่อยด้วยนะ'
เราก็ถามว่า "ยายหรอ" 
หลังจากนั้นพี่ก็พูดว่า ไม่สำนึกหรอ รอบที่เเล้วที่แม่เป็นแบบนี้ ไม่สงสารแม่หรอพี่สงสารแม่มาก แม่หาตังมาได้ก็เก็บไว้ให้หลาน พี่บอกให้ไปหางานทำจะได้ไม่ต้องมาขอตังยาย โตๆกันแล้วทำไมคิดไม่ได้ พี่ปกป้องน้องพี่ผิดหรอ พี่ไม่อยากให้มครมาเหยียด พี่ไม่อยากยุ่งหรอกครอบครัวน้อง

เราบอกว่าเราเข้าใจทุกคนนะ แต่ทุกคนมองเห็นความตั้งใจของเรากับสามีไหมว่าเราพยามกรับกันมาตลอด พยามทำให้ทุกอย่างมันโอเคที่สุด พี่บอกอยากให้เรามีงานทำเพราะไม่อยากให้ใครมาเหยีนดน้องตัวเองได้ เราเข้าใจนะ แต่การที่เราจะเอาเด็กคนนึงไปให้ใครต่อเลี้ยงมันยากนะ ยากต่อการตัดสินมาก เด็กมันไว แล้วบางทีคนแก่จะไวกว่าเด็กได้ไง ขนาดแม่ที่เลี้ยงเองยังต้องมีพลาดเลย

เราเลยบอกพ่อกับแม่เราว่าต่อไปไม่ต้องเก็บตังไว้ให้หลานแล้วนะ เอาไว้ใช้จ่ายเลย เพราะเรากับสามีไม่ได้รบกวนพ่อแม่มาตั้งแต่กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว ไท่เคยขอตังพวกท่านเลย แต่พี่เราบอกว่าเรายังขอตังท่านอยู่ เราเลยบอกพ่อกับแม่ไปว่าใช้จ่ายเลยไม่ต้องห่วงหลานแล้ว 
แต่ท่านก็บอก โอเค มีไรให้ช่วยบอกนะ แต่เราคิดว่าคงไม่รบกวนอะไรพวกท่านอีกแล้ว ทั้งเรื่องเงินและมาดูหลาน มันจะทำให้พวกท่านอึดอัดเปล่าๆ ขนาดพวกท่านทะเลาะกัน คนเป็นลูกยังอยู่ยากเลย จนบางครั้งคิดว่าเป็นเพราะเราหรือเปล่าที่ทำให้ท่านทะเลาะกัน 

เราต้องทำยังไงเพื่อไม่ให้ใครต่อใครมากดดันให้เราไปทำงาน เราเลี้ยงลูก เราอยากเลี้ยงเขาเอง ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำงานนะคะ แต่เราอยากรับผิดชอบชีวิตด้วยตัวเราเอง เพราะเราสร้างเขาขึ้นมาแล้ว เราเหนื่อยและอึดอัดมาก ปรึกษาใครก็ไม่ได้ ขนาดพี่ตัวเองยังไม่เข้าใจว่าเราอยากเลี้ยงเขาเอง เงินมาหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พัฒนาการและการเติบโตของลูกเราเอาคืนมาไม่ได้ ในช่วงที่เขายังเด็กเราอยากทำมันให้ดีที่สุดเท่าที่เเม่คนนึงจะทำได้ 

บางครั้งเหนื่อย ท้อ จนบอกสามีไว้ว่า ถ้าเราไม่อยู่ดูแลลูกดีๆนะ แต่ทำไม่ลงเราสงสารลูกกลัวลูกไม่มีแม่ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นใช่ไหมคะทุกคน เราหวังทุกวัน ถ้าเราเลี้ยงลูกโตมาไม่เป็นปัญาสังคมและคนรอบข้างเราจะภูมิใจในตัวเองมากที่เลือกทางนี้ 

เราควรทำยังไงกับพี่และพ่อแม่ดีคะ😔
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
"เงินมาหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พัฒนาการและการเติบโตของลูกเราเอาคืนมาไม่ได้ ในช่วงที่เขายังเด็กเราอยากทำมันให้ดีที่สุดเท่าที่เเม่คนนึงจะทำได้"
ผมโตมาและมีชีวิตที่ดีได้ทุกวันนี้ ด้วยความคิดนี้ของแม่ผมเอง ผมได้ยินมากับหูเมื่อตอนเด็กๆ จำได้ทุกคำพูดและท่าทางของแม่ผม "ใครจะมาพรากลูกจากฉันไปไม่ได้ทั้งนั้น ต้องข้ามศพฉันไปก่อน" ผมบูชาแม่ไว้เหนือหัว

Two Thumps up ครับ คุณเป็นแม่ที่น่าทึ่งมากๆ  วิสัยทัศน์ที่มองทะลุไปถึงแก่นของความจริงเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก คำว่า "การเป็นผู้ใหญ่" สำหรับผมคือ การมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และพร้อมที่จะเสียสละตัวเองให้กับความรับผิดชอบที่ตนเองได้รับ หรือสร้างขึ้นมา คุณเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือมากๆ

ผมต้องการให้กำลังใจครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่