เรื่องมีอยู่ว่า ตอนที่ภรรยากำลังตั้งท้องลูกคนที่2 ทางผมกับภรรยาได้คุยกันเบื้องต้นเอาไว้ว่าลูกคนนี้จะให้ภรรยาลาออกจากงานมาเลี้ยงลูก ตอนนี้ภรรยาผมคลอดลูกคนที่2แล้วครับพอหลังคลอดก็ลาคลอดเพื่อเลี้ยงลูกตามกฏหมาย90วัน ตอนที่จะลาคลอดครบ90วัน เรา 2 คนก็มองหาคนเลี้ยงหรือจะหาเนสเซอร์รี่ก็ตามแต่ ช่วงที่แฟนลาคลอดก็มีทั้งย่าและยายมาช่วยดูช่วยเลี้ยงเกือลทุกวัน เพราะลูกคนแรกเพิ่งเข้าอนุบาล ก็ต้องมีคนรับส่ง มีคนมาช่วยเล่นกับลูกคนโต อีกทั้งแฟนผมค่อนข้างจริงจังกับการปั้มนม ต้องปั้มให้ได้เกือบทุกรอบไม่ให้ตกรอบปั้ม เลยต้องพึ่งพาย่ากับยายมาช่วยทุกวันแต่ตัวย่าและยายเคยบอกแล้วเขาจะเลี้ยงไม่ค่อยไหวแล้ว อีกทั้งตัวผมและภรรยาก็ไม่อยากให้เขามาช่วยเลี้ยงด้วยซ้ำ เพราะวิธีการเลี้ยงของเขาเป็นแบบโบราณและไม่ยอมเลี้ยงไปในทิศทางเดียวกับผมและภรรยา พอใกล้จะครบกำหนดลาคลอด ผมกับภรรยาไปก็ไปดูที่รับเลี้ยงเด็กในละแวกแถวบ้านตั้งแต่ระดับล่างยันระดับบน ก็ยังหาไม่เจอที่ถูกใจ จนภรรยาผมก็กลับไปทำงานแล้วเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ก็เลยต้องให้ย่ากับยายมาช่วยเลี้ยงไปก่อน จนลาสุดก่อนเดือนสิ้นเดือนที่ผ่านมาก็ได้ไปดูที่รับเลี้ยงเด็กอยู่ละแวกไม่ไกลจากบ้านอยู่ที่นึง แล้วคิดว่าเจอแล้วที่ใช่ืซึ่งผมก็บอกกับภรรยาผมแล้วว่าผมโอเคกับที่นี่ แต่ทางภรรยาผมกลับบอกว่าเขาจะลาออกจากงานมาเลี้ยงเอง ซึ่งผมบอกว่าทำไมไม่ลองดูก่อน และที่ผ่านมาไปดูทำไมที่ที่รับเลี้ยงเด็ก พอมาเจอที่ที่เราโอเค เขาก็ไม่เอา อีกอย่างรายได้จะหายไป1คน เกรงว่ารายได้จะไม่พอกับค่าใช้จ่าย แต่ภรรยาผมก็ไม่เปลี่ยนความคิด ซึ่งก็ทำให้เราเถึยงกันเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้ง มันทำให้ผมค่อนข้างผิดหวังและเสียใจ ซึ่งผมเป็นหัวหน้าคนอบครัว ผมต้องการดูแลลูกๆทั้ง2คนและภรรยาให้สะดวกสบาย เกรงว่าในอนาคตครอบครัวจะลำบาก เขาก็หาว่าผมไม่แคร์เขา ห่วงแต่เงิน ไม่รักลูกหรือไงจะเอาไปให้เขาเลี้ยง ซึ่งผมก็บอกไปแล้วว่า มันไม่ใช่อย่างนั้น ปัจจุบันเงินเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญในการใช้ชีวิต ผมก็อยากดูแลลูกให้ดีมีพร้อมทุกอย่าง จนทุกวันนี้ทางภรรยาก็ยังยืนยันคำเดิม ซึ่งหลังจากปีใหม่เขาก็จะไปยื่นลาออกที่บริษัท จึงอยากจะถามเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในนี้ว่า ผมคิดและทำแบบนี้มันผิดใช่มั้ยครับ
จริงๆแล้วมันมีองค์ประกอบอื่นๆเช่น ผมและภรรยาไม่อยากให้ย่าและยายมาช่วยเลี้ยงหลาน โดยเฉพาะตัวยายเลี้ยงหลานแบบหัวโบราณ ไม่ฟังและไม่เลี้ยงไปในทิศทางเดียวกันกับทางผมและภรรยา จตผมต้อบมีปากเสียงกับทางแม่ของภรรยา จึงเป็นเหตุผลให้ต้องหาสถานที่เลี้ยงเด็ก แต่ภรรยาผมเขาอยากเลี้ยงเอง มันก็เลยคุยกัทีไรก็มีปัญหาทุกทีครับ
อยากรู้ว่าผมทำแบบนี้มันผืดมั้ยครับ
จริงๆแล้วมันมีองค์ประกอบอื่นๆเช่น ผมและภรรยาไม่อยากให้ย่าและยายมาช่วยเลี้ยงหลาน โดยเฉพาะตัวยายเลี้ยงหลานแบบหัวโบราณ ไม่ฟังและไม่เลี้ยงไปในทิศทางเดียวกันกับทางผมและภรรยา จตผมต้อบมีปากเสียงกับทางแม่ของภรรยา จึงเป็นเหตุผลให้ต้องหาสถานที่เลี้ยงเด็ก แต่ภรรยาผมเขาอยากเลี้ยงเอง มันก็เลยคุยกัทีไรก็มีปัญหาทุกทีครับ