อดีตนายกฯปู อวยพรตรุษจีน ขอให้มีกินมีใช้ตลอดปี อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4418196
อดีตนายกฯปู อวยพรตรุษจีน ขอให้มีกินมีใช้ตลอดปี อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ว่า
新年快乐, 年年有余 ซินเหนียนไคว่เล่อ เหนียน-เหนียน-โหย่ว-หยู
ปีมังกรปีนี้ขอให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนและพี่น้องชาวจีนทุกคน มีสุขภาพแข็งแรง พบเจอแต่ความสุข มั่งคั่งร่ำรวย ทำมาค้าขึ้นนะคะ ให้มีกินมีใช้ตลอดทั้งปีและตลอดไปค่ะ
พร้อมกันนี้ก็ขอขอบคุณเพื่อนๆพี่น้องชาวจีนที่ติดตามข่าวดิฉันในโตวอิน และสนับสนุนกันมาตลอด ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ซึ่งเป็นวันรวมครอบครัว รวมญาติที่สำคัญอีกวันหนึ่ง ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะได้อยู่กับคนที่รักและได้ใกล้ชิดกับครอบครัว ขอให้เทศกาลตรุษจีนนี้ ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากับคนที่รักอย่างมีความสุขนะคะ
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/pfbid0H64s1o5qi2CdCiN9qA5MMecZq9s1x5GRoqm3cp6XiEAyjJsEtarBpK7pYuJ3UgScl
“โอฬาร”ชี้กก.ถูกยุบ”ไอติม”เหมาะขึ้นผู้นำพรรค
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_674804/
“โอฬาร”ชี้ หากก้าวไกลถูกยุบ “ไอติม” เหมาะสมขึ้นนำพรรคมากที่สุด ขณะเชื่อพรรคสีส้มฆ่าไม่ตาย
รศ.ดร.
โอฬาร ถิ่นบางเตียว อ.ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่าหากในกรณีที่ท้ายที่สุดพรรคก้าวไกลถูกยุบก็มีความเป็นไปได้ที่นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกก้าวไกล จะขึ้นเป็นผู้นำ
เนื่องจากนาย
พริษฐ์เป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถและมีอุดมการณ์ทางการเมืองชัดเจน และนาย
พริษฐ์ทำได้แน่นอน แม้ว่าจะอายุยังน้อยแต่นาย
พริษฐ์มีประสบการณ์มากเลยทีเดียวอีกทั้งเท่าที่ติดตามนาย
พริษฐ์นั้น ท่าทีในทางการเมืองเป็นคนที่ลุกได้ถอยเป็น มีความยืดหยุ่น ประนีประนอมมักจะแตกต่างจากคนอื่นๆในพรรค เพราะหลายคนในพรรคมักจะเข้าปะทะเสียมากกว่า พร้อมกันนั้นโดยส่วนตัวอาจารย์ก็มองว่านาย
พริษฐ์เป็นคนที่เหมาะสมจะขึ้นเป็นผู้นำพรรคมากที่สุด ทั้งนี้เชื่อว่าแม้พรรคสีส้มจะถูกแรงกระเพื่อมหรือคุกคามเพียงใด พรรคก็จะผลักดันอุดมการณ์ไม่ให้หายไปอย่างแน่นอนซึ่งอาจจะตั้งชื่ออื่นและพร้อมกลับมาที่เรียกได้ว่าพรรคสีส้มฆ่าไม่ตายอีกด้วย
ตรุษจีน “ร้านทอง ตจว.” ซบหนัก ราคาพุ่งซื้อแจกแตะเอียไม่ไหว
https://www.prachachat.net/local-economy/news-1498840
ร้านทองทั่วไทย บ่นอุบ ตรุษจีนทองคำแพง ยอดขายซบเซา ดิ้นอัดโปรฯลดค่ากำเหน็จ 30-50% จูงใจลูกค้า เผยพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปแจกอั่งเปา-แตะเอีย เป็นเงินสดแทน ขณะที่บางรายให้เครื่องใช้ไฟฟ้าแทนทองคำ พร้อมชี้ทิศทางราคาทองยังขาขึ้น ทำร้านทองบางแห่งต้องปิดกิจการชั่วคราว บางแห่งปิดกิจการถาวร
นาย
ชัยชนะ ประพฤทธิพงษ์ นายกสมาคมค้าทองคำจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ตลาดการซื้อขายทองคำ ทั้งทองคำแท่ง และทองคำรูปพรรณ ค่อนข้างเงียบเหงามาก สาเหตุจากราคาทองคำขยับตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งต้องยอมรับว่าสภาพเศรษฐกิจทุกวันนี้ยังไม่ดีขึ้น ต่างจากในอดีตที่ผ่านมาที่บรรยากาศการซื้อขายทองในช่วงตรุษจีนจะมีความคักคัก จากทั้งการซื้อทองไปเป็นของแจกเป็นแตะเอีย และการซื้อขายทั่วไปตามปกติ
ตรุษจีน ร้านทองเงียบเหงา
คาดว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ จากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ไม่ดีนัก การซื้อขายทองคำก็คงจะไม่ดีตามไปด้วย ตอนนี้ลูกค้าที่จะซื้อทองคำไปแจกแตะเอียลูกหลานคนในครอบครัวมีน้อยลงมาก และลูกค้าก็ซื้อจำนวนเล็กลงด้วย เช่น จากที่ลูกค้าเคยซื้อ 1-3 บาท ก็เหลือเพียง 1 สลึง หรือ 50 สตางค์ และตอนนี้การแจกแตะเอีย ส่วนใหญ่ก็จะให้เป็นเงินมากกว่า เพราะทองคำราคาแพง โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะไม่ให้แตะเอียเป็นทองคำแล้ว แต่จะให้เป็นเงินมากกว่า และด้วยสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ แม้ว่าการซื้อทองคำแจกเป็นแตะเอียจะยังมีอยู่ แต่ก็ลดน้อยลงไปมากแล้ว
เช่นเดียวกับ นาย
ธีระ ตั้งหลักมั่นคง อดีตประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี และประธานชมรมร้านทองจังหวัดอุดรธานี ที่กล่าวในเรื่องนี้ว่า ช่วงเทศตรุษจีนนี้ สถานการณ์ร้านทองในจังหวัดอุดรธานี ค่อนข้างเงียบมาก ไม่คึกคัก อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์กลุ่มผู้ซื้อ-ผู้ขายทองคำในตลาด หลัก ๆ จะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม 1.ชาวบ้านทั่วไป ตอนนี้ทองราคาแพง ไม่ค่อยมีเงินซื้อ 2.กลุ่มที่ซื้อเพื่อเก็งกำไร ตอนนี้กำลังรอให้ราคาทองถูกลง 3.กลุ่มคนที่ต้องการซื้อทองไปเป็นของฝาก ของกำนัล ในช่วงนี้ไม่ค่อยมี เพราะทองราคาแพงมาก บาทละ 34,000 กว่าบาท คนในต่างจังหวัดส่วนใหญ่เปลี่ยนจากการซื้อทองคำไปซื้อสินค้าอย่างอื่นให้กันแทน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเปลี่ยนเป็นให้เงินสดแทน และ 4.ผู้ที่อยากนำทองมาขายก็ไม่มีทองจะขาย
“ตอนนี้ทิศทางราคาทองอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่เป็นตัวแปร เช่น สถานการณ์ความขัดแยังในประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง ถ้าดูทางภูมิรัฐศาสตร์ สถานการณ์ของอิหร่านกับสหรัฐอเมริกาหากมีความรุนแรงมากขึ้น จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับขึ้นอีก รวมถึงการประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งมองว่ายังไม่ลดดอกเบี้ยเร็ว ต้องรอถึงเดือนมีนาคมจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง”
แห่ลดค่ากำเหน็จจูงใจ
นาย
ฉัตรพล สุนทรไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินทรีทองค้าทองแท่ง จำกัด ผู้ค้าทองแท่งและทองรูปพรรณรายใหญ่ ในจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ ยอมรับว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ค่อนข้างชะลอตัว กำลังซื้อในตลาดลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยจากราคาทองที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ประมาณบาทละกว่า 34,000 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 อยู่ที่ 29,800 บาท
ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สภาพตลาดค้าทองคำของเชียงใหม่ในช่วงตรุษจีนปีนี้อยู่ในภาวะซบเซา และชะลอตัวลงมาก โดยยอดขายลดลงประมาณ 30% เมื่อเทียบยอดขายทองคำช่วงตรุษจีนปีนี้กับปีที่แล้ว เช่นเดียวกับการนำทองมาขายก็ลดลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ร้านได้จัดโปรโมชั่นในช่วงตรุษจีน ด้วยการลดค่ากำเหน็จ 30-50% เพื่อกระตุ้นการซื้อ รวมถึงแถมกระเป๋าและขนมเข่งให้กับลูกค้า
ขณะที่ นาย
เริงชัย วิริยะกุล เจ้าของร้านทองสุวรรณศิลป์ 2 ในฐานะประธานชมรมร้านทองหาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ตรุษจีนปีนี้ยอดขายทองลดลงไปมาก เหตุผลหลัก ๆ มาจากราคาทองที่ปรับราคาขึ้นสูงมาก และผลกระทบจากราคาทองที่ปรับขึ้นสูง ทำให้ตอนนี้ร้านทองในหาดใหญ่จำนวนหนึ่งที่มีการปิดร้านชั่วคราว และมีจำนวนหนึ่งที่ปิดกิจการถาวร ซึ่งส่วนนี้มีสาเหตุจากไม่มีทายาทสืบทอดกิจการแทน อย่างไรก็ตาม ร้านทองต่าง ๆ ได้มีการจัดโปรโมชั่น ลดค่ากำเหน็จเพื่อจูงใจ และร้านทองสุวรรณศิลป์ 2 เอง ซื้อทองน้ำหนัก 1 บาท ราคา 34,400 บาท ลดค่ากำเหน็จให้ 200 บาท และมีของแถมให้ลูกค้าเพิ่มอีกด้วย
ผู้สื่อข่าว “
ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า จากการสำรวจร้านขายทองในพื้นที่ตัวเมืองตราด ในช่วงเทศกาลตรุษจีน พบว่าร้านทองส่วนใหญ่มีบรรยากาศเงียบเหงา บางร้านแจ้งหยุดช่วงเทศกาลตรุษจีนไปตั้งแต่วันจ่าย (8 ก.พ.) โดยเจ้าของร้านทองแห่งหนึ่งในตัวเมืองตราดกล่าวว่า ตรุษจีนปีนี้กำลังซื้อไม่ดี และร้านมีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ลูกค้าซื้อทองน้ำหนัก 1 บาท จะลดราคาค่ากำเหน็จให้ 100-200 บาท จากปกติค่ากำเหน็จ 900-1,000 บาท
ขณะที่เจ้าของร้านทองแห่งหนึ่งใน อ.เขาสมิง จ.ตราด ให้ข้อมูลว่า ในอำเภอเขาสมิงมีร้านทองทั้งหมด 7 ร้าน มีสภาพคล้าย ๆ กัน คือ ลูกค้าน้อย เพราะปีนี้เศรษฐกิจยังไม่ดี ปกติทางร้านขายทองได้วันละ 3-5 บาท และน้อยมากที่จะขายทองได้วันละ 10 บาท สำหรับในวันจ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนทั้งวันยังไม่มีลูกค้าแม้แต่รายเดียว และทิศทางราคาทองยังปรับขึ้นอีก เฉพาะในช่วงตรุษจีนนี้ขึ้นอีกบาทละ 100-200 บาท ราคาทองซื้อ-ขาย อยู่ที่บาทละ 33,000 -34,000 บาท
นอกจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีแล้ว กำลังซื้อของแรงงานในภาคเกษตรกรรมก็ลดลง โดยเฉพาะสวนยาง หากนายจ้างต้องการแจกสร้อยทองน้ำหนัก 1 สลึงให้คนงาน ต้องเตรียมเงินถึง 9,200 บาท (รวมค่ากำเหน็จ) ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่สูง ดังนั้น การซื้อทองแจกลูกน้องในช่วงตรุษจีนจึงไม่ค่อยมีให้เห็น
JJNY : อดีตนายกฯปู อวยพรตรุษจีน│“โอฬาร”ชี้”ไอติม”เหมาะ│ตรุษจีน“ร้านทอง ตจว.”ซบหนัก│กัมพูชายันผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4418196
อดีตนายกฯปู อวยพรตรุษจีน ขอให้มีกินมีใช้ตลอดปี อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ว่า
新年快乐, 年年有余 ซินเหนียนไคว่เล่อ เหนียน-เหนียน-โหย่ว-หยู
ปีมังกรปีนี้ขอให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนและพี่น้องชาวจีนทุกคน มีสุขภาพแข็งแรง พบเจอแต่ความสุข มั่งคั่งร่ำรวย ทำมาค้าขึ้นนะคะ ให้มีกินมีใช้ตลอดทั้งปีและตลอดไปค่ะ
พร้อมกันนี้ก็ขอขอบคุณเพื่อนๆพี่น้องชาวจีนที่ติดตามข่าวดิฉันในโตวอิน และสนับสนุนกันมาตลอด ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ซึ่งเป็นวันรวมครอบครัว รวมญาติที่สำคัญอีกวันหนึ่ง ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะได้อยู่กับคนที่รักและได้ใกล้ชิดกับครอบครัว ขอให้เทศกาลตรุษจีนนี้ ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากับคนที่รักอย่างมีความสุขนะคะ
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/pfbid0H64s1o5qi2CdCiN9qA5MMecZq9s1x5GRoqm3cp6XiEAyjJsEtarBpK7pYuJ3UgScl
“โอฬาร”ชี้กก.ถูกยุบ”ไอติม”เหมาะขึ้นผู้นำพรรค
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_674804/
“โอฬาร”ชี้ หากก้าวไกลถูกยุบ “ไอติม” เหมาะสมขึ้นนำพรรคมากที่สุด ขณะเชื่อพรรคสีส้มฆ่าไม่ตาย
รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อ.ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่าหากในกรณีที่ท้ายที่สุดพรรคก้าวไกลถูกยุบก็มีความเป็นไปได้ที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกก้าวไกล จะขึ้นเป็นผู้นำ
เนื่องจากนายพริษฐ์เป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถและมีอุดมการณ์ทางการเมืองชัดเจน และนายพริษฐ์ทำได้แน่นอน แม้ว่าจะอายุยังน้อยแต่นายพริษฐ์มีประสบการณ์มากเลยทีเดียวอีกทั้งเท่าที่ติดตามนายพริษฐ์นั้น ท่าทีในทางการเมืองเป็นคนที่ลุกได้ถอยเป็น มีความยืดหยุ่น ประนีประนอมมักจะแตกต่างจากคนอื่นๆในพรรค เพราะหลายคนในพรรคมักจะเข้าปะทะเสียมากกว่า พร้อมกันนั้นโดยส่วนตัวอาจารย์ก็มองว่านายพริษฐ์เป็นคนที่เหมาะสมจะขึ้นเป็นผู้นำพรรคมากที่สุด ทั้งนี้เชื่อว่าแม้พรรคสีส้มจะถูกแรงกระเพื่อมหรือคุกคามเพียงใด พรรคก็จะผลักดันอุดมการณ์ไม่ให้หายไปอย่างแน่นอนซึ่งอาจจะตั้งชื่ออื่นและพร้อมกลับมาที่เรียกได้ว่าพรรคสีส้มฆ่าไม่ตายอีกด้วย
ตรุษจีน “ร้านทอง ตจว.” ซบหนัก ราคาพุ่งซื้อแจกแตะเอียไม่ไหว
https://www.prachachat.net/local-economy/news-1498840
ร้านทองทั่วไทย บ่นอุบ ตรุษจีนทองคำแพง ยอดขายซบเซา ดิ้นอัดโปรฯลดค่ากำเหน็จ 30-50% จูงใจลูกค้า เผยพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปแจกอั่งเปา-แตะเอีย เป็นเงินสดแทน ขณะที่บางรายให้เครื่องใช้ไฟฟ้าแทนทองคำ พร้อมชี้ทิศทางราคาทองยังขาขึ้น ทำร้านทองบางแห่งต้องปิดกิจการชั่วคราว บางแห่งปิดกิจการถาวร
นายชัยชนะ ประพฤทธิพงษ์ นายกสมาคมค้าทองคำจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ตลาดการซื้อขายทองคำ ทั้งทองคำแท่ง และทองคำรูปพรรณ ค่อนข้างเงียบเหงามาก สาเหตุจากราคาทองคำขยับตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งต้องยอมรับว่าสภาพเศรษฐกิจทุกวันนี้ยังไม่ดีขึ้น ต่างจากในอดีตที่ผ่านมาที่บรรยากาศการซื้อขายทองในช่วงตรุษจีนจะมีความคักคัก จากทั้งการซื้อทองไปเป็นของแจกเป็นแตะเอีย และการซื้อขายทั่วไปตามปกติ
ตรุษจีน ร้านทองเงียบเหงา
คาดว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ จากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ไม่ดีนัก การซื้อขายทองคำก็คงจะไม่ดีตามไปด้วย ตอนนี้ลูกค้าที่จะซื้อทองคำไปแจกแตะเอียลูกหลานคนในครอบครัวมีน้อยลงมาก และลูกค้าก็ซื้อจำนวนเล็กลงด้วย เช่น จากที่ลูกค้าเคยซื้อ 1-3 บาท ก็เหลือเพียง 1 สลึง หรือ 50 สตางค์ และตอนนี้การแจกแตะเอีย ส่วนใหญ่ก็จะให้เป็นเงินมากกว่า เพราะทองคำราคาแพง โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะไม่ให้แตะเอียเป็นทองคำแล้ว แต่จะให้เป็นเงินมากกว่า และด้วยสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ แม้ว่าการซื้อทองคำแจกเป็นแตะเอียจะยังมีอยู่ แต่ก็ลดน้อยลงไปมากแล้ว
เช่นเดียวกับ นายธีระ ตั้งหลักมั่นคง อดีตประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี และประธานชมรมร้านทองจังหวัดอุดรธานี ที่กล่าวในเรื่องนี้ว่า ช่วงเทศตรุษจีนนี้ สถานการณ์ร้านทองในจังหวัดอุดรธานี ค่อนข้างเงียบมาก ไม่คึกคัก อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์กลุ่มผู้ซื้อ-ผู้ขายทองคำในตลาด หลัก ๆ จะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม 1.ชาวบ้านทั่วไป ตอนนี้ทองราคาแพง ไม่ค่อยมีเงินซื้อ 2.กลุ่มที่ซื้อเพื่อเก็งกำไร ตอนนี้กำลังรอให้ราคาทองถูกลง 3.กลุ่มคนที่ต้องการซื้อทองไปเป็นของฝาก ของกำนัล ในช่วงนี้ไม่ค่อยมี เพราะทองราคาแพงมาก บาทละ 34,000 กว่าบาท คนในต่างจังหวัดส่วนใหญ่เปลี่ยนจากการซื้อทองคำไปซื้อสินค้าอย่างอื่นให้กันแทน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเปลี่ยนเป็นให้เงินสดแทน และ 4.ผู้ที่อยากนำทองมาขายก็ไม่มีทองจะขาย
“ตอนนี้ทิศทางราคาทองอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่เป็นตัวแปร เช่น สถานการณ์ความขัดแยังในประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง ถ้าดูทางภูมิรัฐศาสตร์ สถานการณ์ของอิหร่านกับสหรัฐอเมริกาหากมีความรุนแรงมากขึ้น จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับขึ้นอีก รวมถึงการประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งมองว่ายังไม่ลดดอกเบี้ยเร็ว ต้องรอถึงเดือนมีนาคมจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง”
แห่ลดค่ากำเหน็จจูงใจ
นายฉัตรพล สุนทรไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินทรีทองค้าทองแท่ง จำกัด ผู้ค้าทองแท่งและทองรูปพรรณรายใหญ่ ในจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ ยอมรับว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ค่อนข้างชะลอตัว กำลังซื้อในตลาดลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยจากราคาทองที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ประมาณบาทละกว่า 34,000 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 อยู่ที่ 29,800 บาท
ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สภาพตลาดค้าทองคำของเชียงใหม่ในช่วงตรุษจีนปีนี้อยู่ในภาวะซบเซา และชะลอตัวลงมาก โดยยอดขายลดลงประมาณ 30% เมื่อเทียบยอดขายทองคำช่วงตรุษจีนปีนี้กับปีที่แล้ว เช่นเดียวกับการนำทองมาขายก็ลดลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ร้านได้จัดโปรโมชั่นในช่วงตรุษจีน ด้วยการลดค่ากำเหน็จ 30-50% เพื่อกระตุ้นการซื้อ รวมถึงแถมกระเป๋าและขนมเข่งให้กับลูกค้า
ขณะที่ นายเริงชัย วิริยะกุล เจ้าของร้านทองสุวรรณศิลป์ 2 ในฐานะประธานชมรมร้านทองหาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ตรุษจีนปีนี้ยอดขายทองลดลงไปมาก เหตุผลหลัก ๆ มาจากราคาทองที่ปรับราคาขึ้นสูงมาก และผลกระทบจากราคาทองที่ปรับขึ้นสูง ทำให้ตอนนี้ร้านทองในหาดใหญ่จำนวนหนึ่งที่มีการปิดร้านชั่วคราว และมีจำนวนหนึ่งที่ปิดกิจการถาวร ซึ่งส่วนนี้มีสาเหตุจากไม่มีทายาทสืบทอดกิจการแทน อย่างไรก็ตาม ร้านทองต่าง ๆ ได้มีการจัดโปรโมชั่น ลดค่ากำเหน็จเพื่อจูงใจ และร้านทองสุวรรณศิลป์ 2 เอง ซื้อทองน้ำหนัก 1 บาท ราคา 34,400 บาท ลดค่ากำเหน็จให้ 200 บาท และมีของแถมให้ลูกค้าเพิ่มอีกด้วย
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า จากการสำรวจร้านขายทองในพื้นที่ตัวเมืองตราด ในช่วงเทศกาลตรุษจีน พบว่าร้านทองส่วนใหญ่มีบรรยากาศเงียบเหงา บางร้านแจ้งหยุดช่วงเทศกาลตรุษจีนไปตั้งแต่วันจ่าย (8 ก.พ.) โดยเจ้าของร้านทองแห่งหนึ่งในตัวเมืองตราดกล่าวว่า ตรุษจีนปีนี้กำลังซื้อไม่ดี และร้านมีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ลูกค้าซื้อทองน้ำหนัก 1 บาท จะลดราคาค่ากำเหน็จให้ 100-200 บาท จากปกติค่ากำเหน็จ 900-1,000 บาท
ขณะที่เจ้าของร้านทองแห่งหนึ่งใน อ.เขาสมิง จ.ตราด ให้ข้อมูลว่า ในอำเภอเขาสมิงมีร้านทองทั้งหมด 7 ร้าน มีสภาพคล้าย ๆ กัน คือ ลูกค้าน้อย เพราะปีนี้เศรษฐกิจยังไม่ดี ปกติทางร้านขายทองได้วันละ 3-5 บาท และน้อยมากที่จะขายทองได้วันละ 10 บาท สำหรับในวันจ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนทั้งวันยังไม่มีลูกค้าแม้แต่รายเดียว และทิศทางราคาทองยังปรับขึ้นอีก เฉพาะในช่วงตรุษจีนนี้ขึ้นอีกบาทละ 100-200 บาท ราคาทองซื้อ-ขาย อยู่ที่บาทละ 33,000 -34,000 บาท
นอกจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีแล้ว กำลังซื้อของแรงงานในภาคเกษตรกรรมก็ลดลง โดยเฉพาะสวนยาง หากนายจ้างต้องการแจกสร้อยทองน้ำหนัก 1 สลึงให้คนงาน ต้องเตรียมเงินถึง 9,200 บาท (รวมค่ากำเหน็จ) ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่สูง ดังนั้น การซื้อทองแจกลูกน้องในช่วงตรุษจีนจึงไม่ค่อยมีให้เห็น