JJNY : 5in1 หัวหน้าเท้งฟิต!│จี้รัฐ-เอกชนรับผิดชอบติดตั้งแอปฯ│สั่งเร่งลบแอป│เตือน“อากาศหนาว”│รัสเซียฮึ่มสหรัฐคว่ำบาตร

หัวหน้าเท้ง ฟิต! ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.ภาคตะวันออกหาเสียง 3 จังหวัดรวด
https://www.matichon.co.th/region/news_4996521
 
 
หัวหน้าเท้ง ฟิต! ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.ภาคตะวันออกหาเสียง 3 จังหวัดรวด “จันทบุรี-ระยอง-ชลบุรี” คุยแหลกกลางรถแห่ เลือกผู้สมัครระยองไป ไม่มีผิดหวัง ลั่น น้ำท่วมในเมืองแก้ได้แน่  โว หาก ปชน.ได้นายก อบจ. เทศกาลดนตรี-กีฬา-อาหาร จัดไม่อั้นตลอดทั้งปี
 
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2568 พรรคประชาชน นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค ส.ส.พรรค และผู้สมัครสมาชิก อบจ. ลงพื้นที่เดินหาเสียงในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี

โดยในช่วงเช้า นายณัฐพงษ์ได้ลงพื้นที่เดินแจกแผ่นพับแนะนำตัวผู้สมัครนายก อบจ. ที่ตลาดน้ำพุ ตลาดสวนมะม่วง เพื่อขอคะแนนเสียงกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่จับจ่ายใช้สอยในตลาด โดยมีแฟนคลับเข้ามาขอเซลฟี่ บางคนนำพวงมาลัยดอกดาวเรืองมามอบให้
จากนั้น นายณัฐพงษ์ได้ให้สัมภาษณ์ ว่าจังหวัดจันทบุรีเป็นจังหวัดที่ประชาชนให้ความไว้วางใจเลือก ส.ส.ของพรรคทั้ง 3 เขต เชื่อว่าในวันที่ 1 ก.พ.2568 จะได้รับโอกาสนี้อีกครั้ง
 
“เรามีนโยบายไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจดี การเมืองดี สังคมดี ปัญหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร 1 หมู่บ้าน 1 แหล่งน้ำ ปัญหาช้างป่ามีการหาแนวทางแก้ไข มีโดรนจับความร้อน มีกล้อง AI ในการแจ้งเตือนการบุกรุกของช้างป่า ทำอย่างไรให้ อบจ.จันทบุรีทันใจ มีความโปร่งใส รับใช้ประชาชน” นายณัฐพงษ์กล่าว
 
ต่อมา ในช่วงบ่าย นายณัฐพงษ์ได้ไปหาเสียงต่อที่จังหวัดระยองร่วมกับผู้สมัครนายก อบจ.ระยอง โดยมีการปราศรัยบนรถแห่หน้าตลาดเทพจินดา อำเภอบ้านฉาง ว่า ครั้งนี้เป็นโอกาสสร้างความเปลี่ยนแปลง เป็นโอกาสแห่งความหวัง เป็นโอกาสในการสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูกหลานชาวจังหวัดระยอง เทศกาลดนตรี กีฬา อาหาร มีจัดตลอดทั้งปีแน่นอน ปัญหาน้ำท่วมในตัวเมืองก็ไม่ต้องห่วง เนื่องจากผู้สมัครของตน จบปริญญาเอกด้านบริหารจัดการน้ำ แก้ปัญหาให้กับพ่อแม่พี่น้องได้แน่นอน
 
ซึ่งภายหลังเสร็จกิจกรรมที่จังหวัดระยอง นายณัฐพงษ์จะไปต่อกับผู้สมัครนายก อบจ.ชลบุรี
 
โดยมีกำหนดการแนะนำตัวแจกแผ่นพับใบปลิวที่ แจ๊ส วิลเลจ อมตะ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ในเวลา 16.30 น.


 
สภาองค์กรผู้บริโภค จี้รัฐ-เอกชนรับผิดชอบ ติดตั้งแอปฯ กู้เงิน
https://tna.mcot.net/business-1473391

กรุงเทพฯ 12 ม.ค.-สภาองค์กรของผู้บริโภค ชี้แถลงการณ์ของ OPPO – Realme ยังขาดความชัดเจนหลายด้าน มองรัฐบกพร่องในการเป็นปราการด่านแรกปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล เป็นสัญญาณเตือนว่าระบบการคุ้มครองสิทธิในยุคดิจิทัลกำลังล้มเหลว จี้รัฐ-เอกชนแสดงความรับผิดชอบ
 
ภายหลังจากที่เพจเฟซบุ๊ก OPPO ประเทศไทย และเพจเฟซบุ๊ก realme ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ขออภัยผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนทั้ง 2 ยี่ห้อ และพร้อมเร่งดำเนินการให้ ‘ผู้ใช้งาน’ ถอดแอปฯออกจากมือถือได้ ภายหลังมีการร้องเรียนกรณีปรากฏแอปพลิเคชันกู้เงิน ‘สินเชื่อความสุข’ หรือ ‘Fineasy’ ถูกติดตั้งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ System App บนสมาร์ทโฟนยี่ห้อ OPPO และ realme
 
ล่าสุดสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้โพสต์ข้อความในโซเชียล ระบุว่าแม้ OPPO และ Realme ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการมาแล้ว แต่ #ผู้บริโภค เห็นว่ายังไม่มีความชัดเจนทั้งในส่วนของบริษัท และ #หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นต่อไปนี้
 
1) ไม่อธิบายถึงสาเหตุว่า “ทำไมถึงแอบติดตั้งแต่แอปพลิเคชันกู้เงินผิดกฎหมายในมือถือของผู้บริโภคโดยที่เจ้าของเครื่องไม่ยินยอม ?”
 
2) ผู้บริโภคไม่เห็นแนวทาง ‘การชดเชยเยียวยา’ จากทั้ง 2 บริษัท มีเพียงการแจ้งว่าจะถอนการติดตั้งแอปฯ ชื่อ Fineasy ออก (ยังมีแอปฯ ที่ชื่อ สินเชื่อความสุข ที่ยังไม่ได้ถูกกล่าวถึง) และหากผู้บริโภครายใดไม่สามารถดำเนินการได้ ให้ไปที่ศูนย์บริการ
เราต้องการเห็นการชดเชยเยียวยาในรูปแบบที่เป็นธรรม รวมถึงการกำหนดมาตรการเพื่อรับประกันว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานจะปลอดภัย
 
3) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการแถลงข่าวความคืบหน้าในการกำหนดบทลงโทษบริษัทตามกฎหมาย
ผู้บริโภคต้องการเห็น การดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหน่วยงานรัฐต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และลงโทษบริษัทที่กระทำผิด
 
4) หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องถูกตรวจสอบร่วมด้วย เพราะมีส่วนในการละเลยการปกป้องสิทธิผู้บริโภค
 
5) บังคับใช้ ปรับปรุง แก้ไข หรือออกมาตรการใหม่ที่คุ้มครองผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง เช่น มาตรการควบคุมการอัปเดตระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟน โดยกำหนดให้ผู้ผลิตต้องแจ้งรายละเอียดและขอความยินยอมจากผู้ใช้ก่อนทุกครั้ง การกวาดล้างแอปฯ กู้เงินผิดกฎหมาย ไม่ปล่อยให้อยู่ใน Play store, App store หรือการพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยลบแอปพลิเคชันที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อป้องกันปัญหาการละเมิดสิทธิในอนาคต เป็นต้น
 
อย่างไรก็ตาม สภาผู้บริโภคเห็นว่า ความล้มเหลวในการปกป้องสิทธิผู้บริโภคจากเหตุการณ์ข้างต้นสะท้อนถึงปัญหาการเพิกเฉยและการบกพร่องในหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่ควรเป็นปราการด่านแรกในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล แต่กลับปล่อยให้ความปลอดภัยของผู้บริโภคถูกคุกคามอย่างร้ายแรงจนเกิดความเสียหาย คำถามถึงความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงยิ่งดังขึ้น เมื่อรัฐยังคงนิ่งเฉย ท่ามกลางความกังวลและความไม่พอใจของผู้บริโภค ทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่าระบบการคุ้มครองสิทธิในยุคดิจิทัลกำลังล้มเหลว ซึ่งผู้บริโภคต้องการเห็นความรับผิดชอบที่ชัดเจนจากทั้งภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐ พร้อมมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการป้องกันปัญหา เพื่อยืนยันว่าความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการปกป้องอย่างจริงจังและจะไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต.-517.-สำนักข่าวไทย
 



“กสทช.” สั่ง “ออปโป้-เรียลมี” เร่งลบแอปให้ลูกค้า พร้อมประชุมหน่วยงาน 13 ม.ค.หาทางป้องกันในอนาคต
https://www.dailynews.co.th/news/4282128/

กสทช. ประสานสองแบรนด์มือถือจีน “ออปโป้-เรียลมี” เร่งแก้ไขลบแอปให้ลูกค้า ชี้เรื่องนี้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย พร้อมประสานหน่วยงานหารือ ขอบเขตก.ม.เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคตอีก เผย กสทช.ตรวจสอบเฉพาะด้านเทคนิคมีอันตรายต่อสุขภาพและคลื่นรบกวนอุปกรณ์อื่น แต่ไม่รวมลงซอฟต์แวร์และแอป

จากกรณีที่ สภาองค์กรของผู้บริโภค และเฟจ “คุณลุงไอที” ได้โพสต์แจ้งเตือนผ่านเฟซบุ๊กว่า พบรายงานจากผู้ใช้หลายรายว่า พบแอปพลิเคชันกู้เงินเถื่อน อาทิ แอปชื่อ “สินเชื่อความสุข” หรือ “Fineasy” ถูกติดตั้งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ System App บนสมาร์ตโฟน ออปโป้  (OPPO) และ เรียลมี  (Realme) 2 แบรนด์ชื่อดังจากจีน และแอปดังกล่าวไม่สามารถลบออกจากเครื่องได้ และยังสามารถส่งการแจ้งเตือนเชิญชวนให้กู้เงิน รวมถึงเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ เช่น รายชื่อผู้ติดต่อและเบอร์โทรศัพท์ นั้น
 
โดยทาง ออปโป้ และ เรียลมี  ได้ออกแถลงการณ์มีเนื้อหาขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันให้ความสำคัญถึงความปลอดภัยด้านความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งาน และแอป Fineasy ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคงไว้เฉพาะฟังก์ชันบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันเท่านั้น และกำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถถอนการติดตั้งแอป Fineasy ได้โดยเร็วที่สุด หากผู้ใช้งานต้องการถอนการติดตั้งแอปในทันที สามารถติดต่อศูนย์บริการลูกค้า ออปโป้ และ เรียลมี  อย่างเป็นทางการได้ทั่วประเทศ นอกจากนี้ จะหยุดการติดตั้งแอปพลิเคชันประเภทสินเชื่อทั้งหมดที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า รวมถึงการหยุดแนะนำแอปพลิเคชันประเภทนี้ใน APP Market ด้วย
 
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ม.ค. พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร  กสทช.ด้านกฎหมาย และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ เปิดเผยว่า ตามปกติเมื่อผู้ผลิตมือถือจะนำมือถือทุกรุ่นเข้ามาจำหน่าย ต้องขออนุญาตสำนักงาน กสทช. เพื่อตรวจสอบมาตรฐานทางเทคนิค คือ มีอันตรายต่อสุขภาพผู้ใช้หรือไม่ และคลื่นความถี่มีการรบกวนคลื่นหรืออุปกรณ์อื่นๆ หรือไม่ ก่อนจะวางขายได้ แต่ไม่ได้มีการตรวจดูเรื่องซอฟต์แวร์ หรือแอปพลิเคชันที่ลงเครื่อง อย่างไรก็ตามได้ประสานไปยังทาง ออปโป้ และเรียลมี แล้วให้หาวิธีทางแก้ไขให้ลูกค้าโดยเร็วที่สุด ซึ่งทั้งสองแบรนด์ก็ได้ออกมาบอกว่าจะเร่งลบและหาวิธีให้ลูกค้าลบแอปออกจากเครื่องเองได้ หรือหากต้องการลบทันทีให้ไปที่ศูนย์บริการของทั้ง 2 แบรนด์
ทั้งนี้เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ทางสำนักงาน กสทช. ได้ประสานหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)  สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าขอบเขตการกำกับดูแลในเรื่องนี้จะมีกฎหมายของหน่วยงานใดจะเข้าไปดูแลตรงนี้ได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการติดตั้งลงแอปในมือถือ และไม่เคยเกิดมาก่อน ยังไม่มีหน่วยงานที่ดูแลโดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต โดยจะได้นัดประชุมกับหน่วยงานต่างๆ รวมถึงแบรนด์มือถือทั้งสอง ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ต่อไป
 
กสทช.จะนัดประชุมหารือกับหน่วยงานต่างๆ ว่าขอบเขตกฎหมายที่มีของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปกำกับดูแลได้หรือไม่ เพราะถือเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุแบบนี้ และไม่มีหน่วยงานใดที่ดูแลโดยตรง โดยจะดูว่ากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ สคส. หรือ กฎหมายเกี่ยวกับการเงินของ ธปท. กฎหมายไซเบอร์ของ สกมช. กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของ สคบ. รวมถึงกฎหมายของ กสทช.จะสามารถใช้มาดูแลตรงส่วนนี้ได้หรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก” พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าว
 


เตือนฉบับ10 ทั่วไทย“อากาศหนาว”อุณหภูมิลด 1-3 องศา
https://siamrath.co.th/n/593441

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 12 มกราคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2568) ฉบับที่ 10 (10/2568) ดังนี้
 
ในช่วงวันที่ 12-13 ม.ค.68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก จะมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง
 
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 13 ม.ค.68
 
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่