อาการแปลกๆเมื่อนั่งสมาธิ (ผู้รู้ว่าตอบทีค่ะ)

คือเรานั่งบ้างไม่นั่งบ้างละติดทางโลกมากเกินไป T_T

1.เราเคยนั่งสมาธิอานาปานสติและแสงใต้ตาทางซ้าย
    สว่างมากเราเพ่งละเห็นเป็นดวงตาสีแดงค่ะ  
    มองแล้วมองก็เป็นรูปดวงตาสีแดง เราก็คิดว่าคือ            ดวงตาเราไม่ได้สนใจ 
2. เคยเห็นแสงสว่างละมีจุดกลางเส้นตรงเป็นเงินๆ
3. ชอบปวดกลางหน้าผากละเมื่อคืน7/02/67
    ปวดไปหลังหัว
4. เคยนั่งปิติ ขนลุก ตัวโยก  
    *7/02/67 นั่งละรู้สึกตัวโยกเหมือนตัวจะเบาๆลอยๆ
     อารมณ์เหมือนได้กลิ่นด้วยไม่แน่ใจ
5. เคยเจอนิมิตเสียงก่อนหน้านั้นแบบดังมาก ทั้งเดิน
     ทั้งเสียงหน้ากลัวเหมือนอยู่ใกล้ๆ (เสียงเหมือนมาร)
     มีเสียงแมวมาไกลๆด้วย
     **เมื่อคืนเสียงจิ้กจกร้องทัก(เรื่องปกติ)
        เสียงของหล่น
6. เมื่อ7/02/67เรานั่งสมาธิละตั้งใจว่าจะนั่ง 1 /ชม
    มีเวทนาเกิดขึ้น และนิมิตรสีดำบ่อยมาก ตัวโยกตัว         เบาและได้ยินเสียงของหล่น เราก็นั่งไปเรื่อยๆเจอแสง     เจออะไรก็ไม่สนใจ อาการวิตกของเราเมื่อเจอแสดง       ดำเหมือนจะกลืนเราเข้าไป เราก็มองและพิจารณา
   คือไม่สนใจ นั่งไปบางทีก็เป็นสมาธิบางทีก็เอาหูออก      ไปรับเสียงรบกวนประเด็นคือเมื่อคืนเรานั่งไป 
   มีเหมือนมดมากัดขาเรา  เราก็ไม่สนใจและนั่งสมาธิ
   ต่อ----->นั่งพักๆก็กัดจี๊ดๆ เรานั่งไปสักพักไหมไหว
    เราเลยออกจากสมาธิมาเกา สรุปมดที่กัดเราไม่มี
    มดหายตัวรึ555 เราก็แบบมารชัดๆ นั่ง                        ประมาณ38นาที

เรารู้สึกเหมือนเคยเข้าฌาณ1-2แล้ว แต่ไม่มั่นใจว่าใช่
รึเปล่าเราจำไม่ได้แต่เคยไปดูอาการเขาบอกว่าใช่
ใช้เวลาแค่เกือบ30นาที
และรู้สึกเหมือนช่วงนี้ทำตัวไม่ดีเหมือนเข้าฌาณไม่ได้
หรือเข้าช้าหรือไม่ก็ปฏิบัติไม่ต่อเนื่อง 

**ตอนนี้เราสนใจมโนมยิทธิ 
**เราเริ่มไม่มั่นใจว่าเราเคยเข้าอุปจารสมาธิได้แล้วรึยัง
**ตอนนี้เรารู้สึกมีของเดิมติดตัวมาคือเคยบำเพ็ญมา
ละชาตินี้เกิดมาเพื่อทำอะไรสักอย่าง
พอเริ่มปฏิบัติเราก็เห็นว่ามีคนรู้แล้วปฏิบัติก่อนเราอยู่แล้ว 
**ฟังธรรมคำสอนพระอรหันต์เราเข้าใจแจ่มแจ้งเลย
**สวนตัวนับถือหลวงปู่ดู่, หลวงตาม้า , หลวงปู่มั่น , หลวงปู่ทวด ทุกครั้งที่นั่งสมาธิจะฝากจิตให้หลวงปู่ดู่
ช่วยดูให้การนั่งอานาปาราบรื่น
และเราคิดว่าเรามีดวงสัมพันธ์กันที่ชาตินี้เกิดมา
ได้พบเจอศาสนาและได้เจอหลวงปู่ดู่ที่บารมีเต็ม
ก่อนไปเกิดเป็นพระโพธิสัตว์ ยุคพระศรีอาร์ย
เราคิดว่าถ้าชาตินี้ไม่บรรลุก็จะสร้างบารมีให้ได้ไปเกิดยุคพระศรีอารย์  แต่ใจเราเหมือนจะไปบรรลุยุคนั้นเลย
แต่ชาตินี้ปฏิบัติๆๆๆให้หลุดพ้นก่อนเกิดชั้นพรหมก็ได้
ให้ได้โสดาบันก็ได้ เป็นอานาคามีก็ได้ 
**ส่วนทางโลกเล่าให้ฟังไม่ค่อยได้
    ทุกวันนี้จากที่มีเพื่อนมีนู่นมีนี่ กลับกลายว่าเหมือนเรา      อยู่ตัวคนเดียว  ศีลไม่เสมอกัน
** ตอนนี้สิ่งที่ไม่ดีก็คัดกรองออกจากชีวิต
** เหมือนทำให้เราไม่ต้องทำกรรมไม่ดีและเด้งเราออกจากสิ่งนั้น ทุกข์ใจก็ทุกข์ได้ไม่นาน
** เดือดร้อนก็มีทางออก  
**คิดเงินก็ได้เงิน 
**ส่วนตัวก็ทำทาน,ให้อาหารสัตว์(มีจิตใจเมตตามากขึ้น)ปกติเราจะกินๆของเราหลังๆก็ให้สัตว์ให้แล้วรู้สึกชอบใจยินดีที่จะให้เห็นกินอิ่มก็รู้สึกดี 
และอื่นๆ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
ทุกๆอย่างเป็นอาการกิริยาของจิต จิตเราเหมือนลิง มันไม่นิ่งง่ายๆหรอก เราก็เลยต้องมีอุบายใช้คำภาวนามาเป็นเครื่องมือ
เอาไว้รวมจิต ** นี่คือตัวต้นปัญหาที่คุณเป็นอยู่ จิตคุณปรุงแต่งมากจึงเกิดเหตุการต่างๆ โน้นนี่นั่น ขอให้คุณอย่าไปสนใจมันครับให้เราดูลมหายใจกับคำภาวนาแค่นั้นพอ เมื่อคุณรวมจิตเข้าถึงระดับนึงคุณก็จะเข้าสู่ปฐมฌาน หรือ ฌาน1 มันไม่ได้ยากอะไรแต่กับบางคน10ปีก็ยังฝึกไม่ถึงไหน แล้วแต่บุญบารมีแต่ปางก่อน ของคุณอย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองได้ ฌาน1 ฌาน2 ผมบอกเลยว่า อาจจะคิดไปเอง ให้คุณตั้งจิตไม่สนใจว่าจะได้ฌานอะไรก็แล้วแต่ อย่าไปหวังกับมัน เพราะว่าจิตคุณจะเกิดความอยาก แล้วมันจะไปไม่ถึงไหน อาการของฌาน1 รู้สึกสงบได้ยินเสียงตามปกติ แต่เหมือนหูดับนิดๆ ลมหายใจเบาลงอย่างเห็นได้ชัด คำภาวนายังอยู่ มีความรู้สึกดี แต่บางคนอาจจะเกิดการกังวลขึ้นเพราะว่าไม่ชิน ไปพะวงกับการที่ร่างกายเราเริ่มหายไปบางส่วนไม่รู้สึกถึง เช่น มือหายไปไหน คุณอย่าไปสนใจ หายใจไม่ออก พยายามหายใจแต่หายใจไม่สุด อะไรทำนองนี้  เอาแค่นี้พอ ขอให้คุณโชคดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่