หลังจากกลับจากถ้ำเมืองนะ ของหลวงตาม้า (13 เม.ย.67) ผมได้พยายามนั่งภาวนาตามแบบหลวงปู่ดู่ คือ
ในมือกำพระเครื่องหลวงปู่ดู่
ลมหายใจเข้า ภาวนาพุทธัง สะระนัง คัจฉามิ
หายใจออก ภาวนา ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
หายใจเข้า ภาวนา สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ
ภาวนาซ้ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกวันวันละ 1-2 ชม.
เมื่อจิตสงบเป็นสมาธิทีไรจะพบความมหัศจรรย์ใจ คือ พระหลวงปู่ดู่ส่องสว่าง และจิตเราไปเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกับพระที่กำไว้ในมือ เหมือนองค์พระมีชีวิต ผมคิดว่า#องค์หลวงปู่ดู่ฝากพลังงานบางอย่างไว้กับองค์พระ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียว เกิดทุกครั้งที่จิตสงบรวมเป็นสมาธิ
อยากให้ทุกท่านลองปฏิบัติดู
เค้าเชื่อกันว่า หลวงปู่ดู่ คือ พระศีรอาริยเมตตรัยโพธิสัตว์ จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป หากใครปฏิบัติและเชื่อมต่อกระแสกับท่านได้ ถ้าไม่บรรลุในศาสนาของพระพุทธเจ้าโคดม อาจได้ไปเกิดในยุดพระศรีอริยเมตตรัยพระพุทธเจ้า
เมื่อจิตสงบเป็นสมาธิทีไรจะพบความมหัศจรรย์ใจ คือ พระหลวงปู่ดู่ส่องสว่าง
ในมือกำพระเครื่องหลวงปู่ดู่
ลมหายใจเข้า ภาวนาพุทธัง สะระนัง คัจฉามิ
หายใจออก ภาวนา ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
หายใจเข้า ภาวนา สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ
ภาวนาซ้ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกวันวันละ 1-2 ชม.
เมื่อจิตสงบเป็นสมาธิทีไรจะพบความมหัศจรรย์ใจ คือ พระหลวงปู่ดู่ส่องสว่าง และจิตเราไปเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกับพระที่กำไว้ในมือ เหมือนองค์พระมีชีวิต ผมคิดว่า#องค์หลวงปู่ดู่ฝากพลังงานบางอย่างไว้กับองค์พระ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียว เกิดทุกครั้งที่จิตสงบรวมเป็นสมาธิ
อยากให้ทุกท่านลองปฏิบัติดู
เค้าเชื่อกันว่า หลวงปู่ดู่ คือ พระศีรอาริยเมตตรัยโพธิสัตว์ จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป หากใครปฏิบัติและเชื่อมต่อกระแสกับท่านได้ ถ้าไม่บรรลุในศาสนาของพระพุทธเจ้าโคดม อาจได้ไปเกิดในยุดพระศรีอริยเมตตรัยพระพุทธเจ้า