ตามหัวข้อเลยค่ะ นายจ้างเป็นญาติของเรา และเราไปทำงานเป็นลูกจ้างเพื่อรับเงินเดือน(เพื่อใช้เงินเรียนต่อ) เราไปทำงานช่วงต้นปีก่อน พึ่งกลับบ้านมาวันนี้ค่ะ ข้อตกลงทีแรกที่คุยกันคือเขาจะให้เราเดือนละ9000บาท เขาไม่ได้ให้เงินเราถือทั้งหมดแต่ให้มาแค่เดือนละ3000บาทเป็นค่ากิน ส่วนที่เหลือเขาบอกว่าจะเก็บให้ โดยเหตุผลที่ว่าเราพึ่งจะอายุ16 เราก็ไม่ได้ยอมนะคะ คุยหลายรอบมากแต่เขายังยืนยันคำเดิมเราก็เลยไม่ได้อะไร เพราะเขาบอกเราว่าจะให้ตอนกลับบ้านทีเดียว เราก็คิดว่าคงได้เห็นว่าเป็นญาติด้วยเลยไม่ได้พูดอะไรมากค่ะ ทีนี้ช่วงหนึ่งเดือนก่อนเราจะกลับเราได้บอกไปว่าให้โอนเงินในส่วนของเราที่ค้างไว้ให้ด้วยเพราะเราต้องใช้  แต่ไม่ได้สักแดงเลยค่ะแถมทะเลาะกันด้วย พอเราจะคุยด้วยทีไรก็บอกเดี๋ยวค่อยคุยจนวันเรากลับบ้าน เราเลยส่งข้อความไปบอกอีกทีค่ะว่าถ้าไม่มีเงินก้อนก็ให้ผ่อนให้เราก็ได้ ทีนี้เขาก็ตอบกลับมาว่าทำงานไม่คุ้มค่าแรงยังจะอยากได้เงินเยอะอีกหรอ (เราทำงานเป็นแม่บ้านค่ะ ทำความสะอาด เฝ้าหน้าร้าน บางวันก็หาข้าวหาน้ำให้เขากินด้วย ไม่มีวันหยุดเลยค่ะ ยกเว้นวันที่เขาปิดร้านคือตั้งแต่ไปทำปีกว่าได้หยุดอยู่วันนึง) พอเขาตอบมาแบบนั้นเราเลยยกเรื่องข้อตกลงที่คุยกันไว้กับข้อกฏหมายขึ้นมาค่ะ เพราะเราไปในฐานะลูกจ้าง ไม่ใช่"ญาติ" ทีนี้เขาก็โทรมาที่สายของปู่เราและเป็นพ่อของเขา แล้วมาพูดว่าเราส่งข้อความไปขู่ เนรคุณ ได้ไปโกงเงินหรือยัง คือเราแค่ทวงเงินในส่วนที่มันเป็นของเรามันผิดหรอคะ แล้วตอนที่พูดก็มีแต่บอกว่าเรากินแต่ของเซเว่น ซื้อแต่อาหารตามสั่ง อันนี้เรางงนิดหน่อยว่าเกี่ยวกันยังไง หาเรื่องมาเบลมสุดๆ เราโกรธจนร้องไห้ ยังพูดอีกว่ามันยังใช่คนอยู่มั้ยที่เอากฏหมายมาพูดกับญาติตัวเอง แล้วก็พูดถึงพ่อเราที่อยู่ในคุกอีกด้วยว่าถ้าเก่งกฏหมายนักทำไม่พ่อเราถึงไปอยู่ในคุกมันค่อนข้างเป็นปมเลยค่ะ เราโกรธจนพูดไม่ออกมีแต่น้ำตาไหลออกมา แถมไม่เข้าใจด้วยว่าเกี่ยวอะไรกัน เราร้องจนพูดไม่ออกเขาก็เลยบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเย็นจะโทรมาใหม่ ให้ไปคิดดีๆ บอกว่าถ้าเราจะเอาทั้งหมดก็ให้บวกลบค่าที่พักอีกวันละร้อย ทั้งที่ตอนแรกบอกว่าให้อยู่ฟรี เราควรทำยังไงดีคะ ตอนนี้เครียดมาก ไม่รู้จะทำยังไงเลยค่ะ

*ยาวมาก อาจจะงงๆ หน่อยนะคะ เราเรียบเรียงอะไรไม่ค่อยได้