อานิสงส์ในการสร้างห้องน้ำถวายวัด
ส่งผลให้คนที่ทุกข์ใจมาก ก็จะคลายทุกข์
โศกโรคภัย ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
จะทำให้ทุกข์หนักๆ หรือมีเจ้ากรรมนายเวรหนักๆ ที่โถมกระหน่ำเราอยู่ ก็จะคลี่คลายไปได้ด้วย
ไปไหนก็มีแต่คนคอยช่วยเหลือเกื้อกูล
มีแต่สิ่งที่ดีๆในชีวิตทั้งภพนี้และภพหน้า
แก้กรรมให้กับผู้ที่มีความทุกข์หนัก ชาตินี้มีความทุกข์มาก ทำอะไรก็ลำบากยากเข็ญ มีความคับแค้นใจไม่สบายใจ
ด้วยอานิสงส์แห่งการถวายสัพทานสร้างเวจกุฎี(ห้องน้ำห้องส้วม) สามารถข้ามพุทธทันดรได้ถึง๔๐กัลป ปรากฏความในชาดกดังนี้
......ดูกรภิกษุทั้งหลายทานของสัปบุรุษเหล่านี้๘อย่างคือ
๑. ให้ของที่สะอาด
๒. ให้ของประณีต
๓. ให้ถูกกาล
๔. ให้ของที่สมควร
๕. เลือกให้
๖. ให้เสมอๆ
๗. กำลังให้ยังจิตให้เลื่อมใส
๘. ครั้นให้แล้วปลื้มใจสัปปุริสทาน
ทานทั้ง๘อย่างนี้ประเสริฐยิ่งนักหนา
ในกาลครั้งนั้น องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าก็สถิตสำราญอยู่ในป่าเชตวัน อันเป็นอารามของนายอนาถปิณฑิกมหาเศรษฐี อยู่ในที่ใกล้ๆนครสาวัตถีในกาลครั้งนั้น มีพระยาองค์หนึ่งชื่อมหานามะเอาธูปประทีปคันธรสของหอมแล้วพาหมู่บริวารทั้งหลายเข้าไปสู่ที่เฝ้าพระสัพพัญญูเจ้า แล้วก็นั่งในที่ควรแห่งหนึ่ง จึงทูลถามพระสัพพัญญูเจ้าว่า“ภนฺเตภควา” ข้าแต่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าบุคคลผู้ใดเลื่อมใสศรัทธามาก่อสร้างสัพทานหลายๆชนิดก็จักมีอานิสงส์อย่างใดพระเจ้าข้า“ภควา”
อันว่าองค์สมเด็จพระศาสดาจารย์เจ้าจึงเทศนาว่าดูกรมหาบพิตรนรชนหญิงชายทั้งหลาย มีใจเลื่อมใสศรัทธามาก่อสร้างสัพทานหลายๆชนิดเป็นต้นว่าผู้ใดได้สร้างเวจกุฏี(ห้องน้ำห้องส้วม) ได้อานิสงส์ถึง๔๐กัลป
สัพทานทั้งหลายชนิดเหล่านี้บุคคลผู้ใด มีศรัทธากล้าหาญ อาจสละสมบัติออกสร้างวัตถุประสงค์ดังแสดงมานี้ ก็มีอานิสงส์ผลบุญพูนสุขในชั่วภพนี้และชั่วภพหน้า
อานิสงส์ที่ได้ปัจจุบันนี้ คือจะไปมาทางใดก็มีคนนับหน้าถือตา ไม่ได้เป็นที่รังเกียจของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง มีแต่ผู้อยากให้ร่วมกินร่วมอยู่ทั้งนั้น เราจะเข้าไปสู่สมาคมใดๆ ก็ไม่ครั้นคร้ามสยดสยองเกรงกลัวต่ออำนาจผู้ใด การทำมาหากินก็สมความมุ่งมาตรปรารถนาสมประสงค์ ครั้นสิ้นบุพกรรมมนุษย์ในโลกนี้แล้วก็จะถือเอาตนเมื่ออุบัติขึ้นบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสายามาตุสิตาโดยลำดับจนถึงพรหมโลก ครั้นจุติจากพรหมโลกลงมาเกิดในมนุษย์โลกก็ไม่ได้ไปเกิดในหิเนกุลชั่วร้าย และจักได้ไปเกิดในตระกูลท้าวพระยามหากษัตริย์ หรือตระกูลพราหมณ์ผู้มั่งคั่งมั่งมีเศรษฐีกฎุมพี แล้วก็จักได้บารมีแก่กล้าก็จะได้บ่ายหน้าเข้าสู่เมืองแก้วนิรพาน พอจบธรรมเทศนาแห่งองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าลงสมเด็จพระเจ้ามหานามะก็ได้ตั้งอยู่ในไตรสรณคมณ์สามส่วนก็ได้ถึงโสดาสกิทาคาอนาคาอรหันต์
อานิสงส์สร้างห้องน้ำถวายวัด มีอานิสงส์ถึง ๔๐ กัลป
ส่งผลให้คนที่ทุกข์ใจมาก ก็จะคลายทุกข์
โศกโรคภัย ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
จะทำให้ทุกข์หนักๆ หรือมีเจ้ากรรมนายเวรหนักๆ ที่โถมกระหน่ำเราอยู่ ก็จะคลี่คลายไปได้ด้วย
ไปไหนก็มีแต่คนคอยช่วยเหลือเกื้อกูล
มีแต่สิ่งที่ดีๆในชีวิตทั้งภพนี้และภพหน้า
แก้กรรมให้กับผู้ที่มีความทุกข์หนัก ชาตินี้มีความทุกข์มาก ทำอะไรก็ลำบากยากเข็ญ มีความคับแค้นใจไม่สบายใจ
ด้วยอานิสงส์แห่งการถวายสัพทานสร้างเวจกุฎี(ห้องน้ำห้องส้วม) สามารถข้ามพุทธทันดรได้ถึง๔๐กัลป ปรากฏความในชาดกดังนี้
......ดูกรภิกษุทั้งหลายทานของสัปบุรุษเหล่านี้๘อย่างคือ
๑. ให้ของที่สะอาด
๒. ให้ของประณีต
๓. ให้ถูกกาล
๔. ให้ของที่สมควร
๕. เลือกให้
๖. ให้เสมอๆ
๗. กำลังให้ยังจิตให้เลื่อมใส
๘. ครั้นให้แล้วปลื้มใจสัปปุริสทาน
ทานทั้ง๘อย่างนี้ประเสริฐยิ่งนักหนา
ในกาลครั้งนั้น องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าก็สถิตสำราญอยู่ในป่าเชตวัน อันเป็นอารามของนายอนาถปิณฑิกมหาเศรษฐี อยู่ในที่ใกล้ๆนครสาวัตถีในกาลครั้งนั้น มีพระยาองค์หนึ่งชื่อมหานามะเอาธูปประทีปคันธรสของหอมแล้วพาหมู่บริวารทั้งหลายเข้าไปสู่ที่เฝ้าพระสัพพัญญูเจ้า แล้วก็นั่งในที่ควรแห่งหนึ่ง จึงทูลถามพระสัพพัญญูเจ้าว่า“ภนฺเตภควา” ข้าแต่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าบุคคลผู้ใดเลื่อมใสศรัทธามาก่อสร้างสัพทานหลายๆชนิดก็จักมีอานิสงส์อย่างใดพระเจ้าข้า“ภควา”
อันว่าองค์สมเด็จพระศาสดาจารย์เจ้าจึงเทศนาว่าดูกรมหาบพิตรนรชนหญิงชายทั้งหลาย มีใจเลื่อมใสศรัทธามาก่อสร้างสัพทานหลายๆชนิดเป็นต้นว่าผู้ใดได้สร้างเวจกุฏี(ห้องน้ำห้องส้วม) ได้อานิสงส์ถึง๔๐กัลป
สัพทานทั้งหลายชนิดเหล่านี้บุคคลผู้ใด มีศรัทธากล้าหาญ อาจสละสมบัติออกสร้างวัตถุประสงค์ดังแสดงมานี้ ก็มีอานิสงส์ผลบุญพูนสุขในชั่วภพนี้และชั่วภพหน้า
อานิสงส์ที่ได้ปัจจุบันนี้ คือจะไปมาทางใดก็มีคนนับหน้าถือตา ไม่ได้เป็นที่รังเกียจของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง มีแต่ผู้อยากให้ร่วมกินร่วมอยู่ทั้งนั้น เราจะเข้าไปสู่สมาคมใดๆ ก็ไม่ครั้นคร้ามสยดสยองเกรงกลัวต่ออำนาจผู้ใด การทำมาหากินก็สมความมุ่งมาตรปรารถนาสมประสงค์ ครั้นสิ้นบุพกรรมมนุษย์ในโลกนี้แล้วก็จะถือเอาตนเมื่ออุบัติขึ้นบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสายามาตุสิตาโดยลำดับจนถึงพรหมโลก ครั้นจุติจากพรหมโลกลงมาเกิดในมนุษย์โลกก็ไม่ได้ไปเกิดในหิเนกุลชั่วร้าย และจักได้ไปเกิดในตระกูลท้าวพระยามหากษัตริย์ หรือตระกูลพราหมณ์ผู้มั่งคั่งมั่งมีเศรษฐีกฎุมพี แล้วก็จักได้บารมีแก่กล้าก็จะได้บ่ายหน้าเข้าสู่เมืองแก้วนิรพาน พอจบธรรมเทศนาแห่งองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าลงสมเด็จพระเจ้ามหานามะก็ได้ตั้งอยู่ในไตรสรณคมณ์สามส่วนก็ได้ถึงโสดาสกิทาคาอนาคาอรหันต์