ใครเคยถูกคนในครอบครัวดูถูกบ้างค่ะ เดอะแบกของบ้าน

เราพยามถีบตัวเองมากค่ะตอนนี้ เราเรียนจบแค่ม.3 แล้วไปต่อ ปวช1 พอ ปวช2 เราไม่มีเงินเรียนต่อ ที่ผ่านๆมาคือคุณน้าเขาเป็นคนจ่ายค่าเทอมให้เรา
เขาเปลูกของยาย พอเขามีลูกมีครอบครัวเขาก็ไม่สามารถส่งเราเรียนต่อได้อีก เราเลยออกมากลางคัน แทนที่จะดรอปไว้+กับตอนนั้นมีภาวะซึมเศร้า
ไม่สามารถพูดคุยกับใครได้ เราเสียใจมากที่ไม่ได้เรียนต่อ แต่เราก็เขาใจเหตุผลของนน้าเรา พื้นฐานครอบครัวเราค่อนข้างยากจน
เรากลับไปอยู่บ้าน  อาการซึมเศร้าดีขึ้นก็เข้ามาหางานในเมือง มาเป็นลูกจ้างเขา เงินเดือนตอนมาเริ่มงานใหม่ๆ 7,500 ตอนนั้นอายุเพียงแต่18ปี
พอทำมาปี1 เขาขึ้นให้เป็น9,000 ค่าข้าวอาทิตย์180 มีประกันสังคมให้ เราทำงานเก็บเงินอย่างเดียวตอนนั้นปั่นจักรยานไปทำงานททุกวันพอมีเงินเก็บ
นิดหน่อย เราเอาไปดาวน์มอเตอร์ไซค์ ปิดมอเตอร์ไซค์ภายใน1ปีครึ่ง ระยะเวลาผ่อนคือ3ปี พอเราปิดมอเตอร์ไซค์ที่บ้านตู้เย็นพังทีวีเสีย
เครื่องซักผ้าไม่มีเราสงสารคุณตาเลยซื้อทั้ง ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เราให้เจ้านายซื้อสดเราไปผ่อนกับเจ้านายต่อ ส่งเงินให้บ้าง บางครั้ง 
เราซื้อของกินของใช้ส่งไปให้ที่บ้านทุกเดือน ถึงเราจะอดๆอยากๆก็ตาม พอถึงวันสิ้นปี ปีใหม่เราก็กลับบ้านตอนนั้นเราซื้อแหวนทองให้ยยาย1วง
เราบอกกับตาไม่ต้องน้อยใจนะเดี๋ยวปีหน้าซื้อให้ปีนี้ให้ยายไปก่อน ยายเอาแหวนที่เราซื้อให้ไปเป็นของหมั้นวันแแต่งงานลูกชายเขาตอนนั้น
เราก็รู้สึกน้อยใจเล็กน้อยพอไม่มีเงินก็มาขอเราทั้งแม่ทั้งยายเราให้เท่าไปเท่าไหร่ไม่เคยพอ
พอมาปี66 เราได้ซื้อสร้อยคอทองให้ตา1เส้นแต่ยายเอาไปขายเราเริ่มท้อมากตอนนั้น
ตาแบ่งที่ให้สร้างบ้านที่ไม่ใหญ่มาก เราสร้างบ้านด้วยเงินของเราเอง แต่พอมาวันนี้
เรากลับถูกยายดูถูกว่าเราไม่มีปัญญาทำงานก็ได้แค่นั้นแหละ คนอื่นเเขาเรียนจบออกมาทำงานดีๆไม่เหมือนเรา
ทำงานไม่เห็นได้อะไรสักอย่าง ลำบากจะตาย พูดแบบนี้กับเราตลอด เราซัพพอร์ตที่บ้านทุกอยากเป็นเดอะแบกในทุกๆเรื่อง
ไม่ว่าจะภาระหนี้สิน เราเป็นคนมาปิดให้หมด 40,000-50,000 ทั้งๆที่เราไม่ได้เป็นคนก่อ เราน้อยใจมากเราควรพพอมั้ยแต่เราก็
เป็นห่วงเขากลัวไม่มีอะไรกิน เราน้อยใจรู้สึกท้อไม่อยากจะสู้กับอะไรอีกแล้วสิ่งที่ทำมาทั้งหมดเขาไม่เคยเห็นเลยว่าเราพยายามแค่ไหนเหนื่อยมาก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่