แบบนี้เรียกว่าเป็นแม่ที่แย่ไหม

วันนี้ก็อยากมาเล่าเรื่องราวในชีวิตถามความคิดเห็นแต่ละคนกระทู้นี้จะยาวหน่อยนะคะถ้าเขียนงงๆก็ขอโทษด้วยค่ะ
        ปัจจุบันเราอายุ18ค่ะอยู่กับยายสองคน ไม่รู้จะเรียกว่าโดนแม่ทิ้งได้ไหมเพราะติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้างแต่เราก็รู้ที่อยู่ใหม่เขานะคะ แล้วแต่ว่าไปแล้วจะเจอไหมก็อีกเรื่อง  แม่มีลูกสองคนคือเรากับน้องชาย(น้องชายคนละพ่อ)  ตั้งแต่จำความได้น้อยใจแม่มาตลอดเพราะยายเป็นคนเลี้ยงมาแม่ก็ทำงานตลอด แม่ดูสนิทกับน้องมากกว่าเพราะมีเวลาเลี้ยงมากกว่าเราเสื้อผ้าทุกตัวที่เราใส่จนถึงปัจจุบันแม่ไม่เคยซื้อให้มีแต่ยายซื้อให้ใส่แม่ไม่ค่อยสนใจเราเท่าไหร่ เรื่องราวความแย่มันเริ่มตั้งแต่อายุ14ที่แม่แต่งงานใหม่(ไม่ใช่พ่อของน้องชายนะคะ)
     
       แม่แอบไปเจอกับผช.คนนี้ผ่านทางแอพไปหากันตลอด จนได้มาแต่งงานแต่ยายเราไม่ชอบเขา เพราะเขาขี้เหล้าค่ะมีแต่ตัวเปล่าๆไม่ขยันทำงาน จนได้ทะเลาะกันกับยายตลอดแม่ก็เข้าข้างผช.เราไม่รู้ว่าแม่เริ่มมีหนี้ตอนไหนเพราะเวลาที่ผ่านมาก่อนแม่จะแต่งงานกับผช.คนนี้ยายจะเป็นคนควบคุมค่าใช้จ่ายในบ้านเก็บเงินไว้ จนพอแต่งงานยายถึงไม่ได้เป็นคนเก็บเงิน แม่เราเป็นหนี้หลายหมื่นอาจจะถึงแสน ผช.แม่เขาอยากได้รถแต่แม่เงินเดือนแค่12000 ผช.ตอนนั้นเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆได้เงินต่อเดือนประมาณ9000 สุดท้ายเขาออกรถมาไม่บอกยายเป็นรถมือสองสภาพดีอยู่ราคาน่าจะแสนนิดๆพอไปนานเข้าผ่อนไม่ไหวก็โดนเขาฟ้อง เงินที่ยายฝากออมทรัพย์ไว้เป็นชื่อเรากับชื่อน้องแม่ก็ถอนไปหมด(ยายฝากแต่สมุดเป็นชื่อแม่) จนทะเลาะเขาก็ย้ายออกจากบ้านไปอยู่หอเอาน้องไปอยู่ด้วยทิ้งเราไว้กับยายจนห่างไปประมาณ2ปีเหมือนจะดีขึ้นเลยกลับมาอยู่บ้านสุดท้ายออกรถมาใหม่อีกเป็นเงินสดนะคะมือสองสภาพเก่ามากราคาเกือบ50000(ยายเป็นคนออกเงินสดให้มากกว่าครึ่ง)

    อยู่ได้ประมาณปีกว่าสุดท้ายก็ทะเลาะกันปัญหาในบ้านเพราะผช.ติดเหล้างานก็ไม่ค่อยอยากจะทำจนไม่มีตังจ่ายค่าไฟเขามาตัดหม้อมันหลายรอบแล้วที่เขาไม่จ่ายค่าไฟยายก็ออกให้ตลอด จนครั้งนี้ยายทนไม่ไหวไม่จ่ายให้เลยทะเลาะกันผช.กับบ้านมาโดนตัดไฟเขาหนีออกไปอยู่ไหนก็ไม่รู้แม่กลับมาก็ทะเลาะกับยายหนีตามเขาไปทิ้งน้องไว้เราสามคนก็เลยยายไปนอนบ้านลุง(ตอนนั้นลุงอยู่กรุงเทพฯมีบ้านอยู่นี่หลังนึง)ยายวัดใจรอสิ้นเดือนว่าแม่จะมาจ่ายค่าไฟให้ไหมสรุปไม่จ่ายค่ะแถมเขากลับมาหอบเสื้อผ้าไปอยู่หอที่อื่น ตอนแรกน้องบอกจะอยู่กับเราพอไปพอมา ผช.เหมือนป่วยอยู่ๆก็พิการขาเป๋ไปเลยเดินไม่ได้แม่ก็อยากเอาน้องไปดูเเลเขาน้องชายเราชอบเขานะคะ จนอาการดีขึ้นผช.พอเดินได้น้องก็เลยอยู่นั่นยาวเลยสรุปเราก็อยู่กับยายสองคน ค่าไฟเดือนนั้นยายก็ต้องจ่ายเองสองพันกว่าบาท(ช่วงนั้นน่าร้อนผช.เลยเปิดแต่แอร์ทั้งวันทั้งคืน) ตั้งแต่ตอนนั้นล่าสุดคืออายุ16จน18 เราก็อยู่กับยายแค่สองคนค่ะส่วนเรื่องค่ากินในชีวิตประจำวันยายก็เป็นคนซื้อกับข้าวเข้าบ้านแม่ไม่เคยซื้ออะไรให้ไม่เคยนึกถึงเรากับยายเลย(เงินที่ยายใช้ลูกๆยายคนอื่นก็ให้มาใช้)ตอนแรกๆแม่ก็ให้เงินเป็นเดือนไว้ไปกินที่โรงเรียนเดือนละ1400รวมค่ารถค่ารถ400นะคะแต่พอเราขึ้นปวช.แม่ก็เริ่มให้บ้างไม่ให้บ้าง
       
      นอกจากแม่แล้วจะมีลุงที่ให้เงินเราใช้ทุกเดือนค่ะเดือนละ1000ตั้งป.6จนจบปวช.จนขึ้นปวส.ลุงถึงให้เดือนละ2000 ระหว่างที่ขึ้นปวช.แม่ไม่ค่อยมีเงินให้ให้บ้างไม่ให้บ้างให้ทีก็ให้น้อยครั้งละ500-1000ต่อเดือน เราก็ใช้เงินลุงในการไปเรียนค่าใช้จ่ายต่างๆที่แม่ให้มาคือเราต้องใช้ตั้งแต่ค่างานจนถึงค่าของใช้ในชีวิตประจำวันก็รวมอยู่ในเงินนี้ จนขึ้นปวส.มาเราก็กู้เรียนค่ะ เรื่องที่โกรธแม่ที่สุดคือแม่ยืมเงินแล้วไม่คืนตอนนั้นพึ่งขึ้นปวช.ใหม่ๆแม่ยืมเงินเราไป4000เกือบ5000จริงๆยายบอกให้เราเก็บเงินไว้ถ้าแม่มายืมไม่ต้องให้ยืมจริงๆแม่ชอบยืมเงินตั้งแต่เราอยู่ม.ต้นแล้วค่ะซึ่งอันนั้นเป็นเงินลุงเราก็ให้บ้างเล็กๆน้อยๆ แต่ครั้งนั้นที่แม่ยืมมันเป็นจำนวนเงินเยอะจริงๆแม่ยืมเงินทีละพันสองพันหลายเดือนเข้ามันก็เลยสะสมมา ตอนนั้นเราหัวอ่อนค่ะติดเรื่องบุญคุณเลยให้เขายืมไปสุดท้ายเราก็ไม่ได้คืน พอตอนเราลำบากจะขอเงินแม่แม่ก็ไม่เคยมีให้เลยถ้ามันเป็นเงินของแม่ที่แม่ให้เราก็ยังพอทนทำใจได้แต่อันนี้มันเป็นเงินเก็บของเราแล้วเป็นเงินที่ลุงให้มาอยากตีตัวเองตอนนั้นมากค่ะคิดย้อนกลับไปเราจะไม่ให้เขายืมเลย ตอนเรามีปัญหาแม่ไม่เคยช่วยอะไรได้เลยเราพึ่งตัวเองมาตลอด ปัจจุบันแทบจะไม่ได้คุยกันแล้วจะเรียกว่าเกลียดก็ได้อยู่ความผูกพันมันน้อยลงแทบไม่เหลือเราคิดมาตลอดขนาดลุงที่ไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆเขายังให้เงินเราใช้ทุกเดือนมีมากมีน้อยเขาก็ให้ตลอด ทำไมแม่แท้ๆเราถึงไม่สนใจใยดีเลยจริงๆเรื่องราวในชีวิตมันมีอะไรละเอียดมากกว่านั้นอีกแต่เล่าแล้วก็ปวดหัวค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่