เป็นซึมเศร้าเพราะสังคมรอบข้าง เป็นไปได้ไหม?

ต้องกล่าวก่อนว่าก่อนที่จะรู้ตัวเอง ก็เข้าสู่วัยที่ต้องทำงานแล้ว พอดีกว่าทำงานอยู่ที่เก่าแล้วมีปัญหากับทางหัวหน้างานบ่อย มันก็เป็นปัญหาจุกจิกจนลามมาถึงการแซะการแขวะเรา แล้วคนที่อยู่ที่นั่นก็ค่อยๆห่างจากเรา มันเหมือนว่าตอนนั้นอยู่ตัวคนเดียวบนโลกทั้งใบเลย เราเหนื่อยทำงานยังต้องมาเหนื่อยกับการโดนกดดันโดนแกล้งอีก ปรึกษากับที่บ้าน เขาบอกให้เราอดทนทำไป เราเลยอดทนทำไปก่อน อดทนทำจนกลายเป็นว่า จากคนร่าเริง กลายเป็นวันๆซึม ไม่คุยกับใคร เก็บตัว มาถึงบ้าน กินข้าว ขึ้นห้องล็อคประตูนอนไม่สุงสิงกับใคร จนปัญหามันหนักขึ้นถึงขั้นที่เริ่มไม่อยากออกจากห้อง ไม่อยากออกไปทำงาน มันทั้งToxic มันทั้งเหนื่อย เลยทำเรื่องขอลาออก(เพราะทะเลาะกับหัวหน้าหนักเลยตอนนั้น ไม่เข้าใจว่าเขาจะอะไรกับเราหนักหนา ทนไม่ไหวถึงขั้นที่ต้องพูดในสิ่งที่ไม่เคยกล้าพูด)ที่บ้านพึ่งรู้ตอนลาออกแล้วเขาเลยว่า พอบอกปัญหาเขาก็บอกว่าเข้าใจ แต่ก็ยังว่าเราบ่นเราซ้ำๆบ่อยๆ จนเราย้ายไปทำที่ใหม่ ที่ใหม่เขารับรู้ปัญหาจากที่เก่า เขาก็ปลอบใจและบอกที่นี่อยู่แบบครอบครัว ไม่มีการแซะการแบ่งพวกกันแบบนั้นแน่นอน แต่ก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้ค่ะ เราโดนเอาเปรียบทั้งเรื่องเวลางาน ที่คนที่จะต้องรับผลัดต่อจากเราดันมาสายทุกวัน จนเราทำงานเกินเวลา จะต้องได้โอ ก็ไม่ได้ เงินน้อยกว่าที่เก่ามาก หน้าที่เพิ่มขึ้น โดนหักค่าอะไรไม่รู้บ้างที่เขาไม่แจ้งเราก่อน เรียกง่ายๆว่ามาหาเงินเหมือนเชือนเข้าเนื้อตังเองสุด เพราะทำงานหนัก แต่ค่าแรงน้อยมาก โอทีที่ไม่ไมได้ก็เยอะมาก หลังๆก็เริ่มโดนแบบที่เก่าตรงที่มีการ ว่ากันลงกลุ่มให้เพื่อนคนอื่นรับรู้ ใช้คำพูดรุนแรง รองรับอารมณ์หัวหน้างาน(เหมือนที่เก่า)ที่ไปโมโหไรมาไม่รู้ แล้วมาพูดจาไม่ดีกับเรา(ซึ่งมันก็เข้าใจได้ แต่ถ้าเจอบ่อยสุขภาพจิตเราก็ตกอยู่) แล้วสุขภาพเราคือตกตามไปด้วยเพราะเครียดจนนอนไม่หลับ มันนอนไม่ได้เลย พักผ่อนน้อยไปทำงานหนักเลยทรุดหนัก ตั้งท่าว่าถ้าอยู่แบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ จริงๆนะหว่างนั้นเคยได้มีการปรึกษาและระบายกับที่บ้าน เขาบอกให้ทนอย่างเดียว มีการโดนว่าบ้างว่าทำงานแค่นี้ไม่ทนแล้วจะไปทำอะไรได้ คำพูดเขาก็น่าคิด เลยทนทำจนรวมๆแล้วทำได้ปีกว่า คิดว่าไม่ไหวเลยชิงออกเลย ตอนแรกที่บ้านก็ว่า เลยทำเรื่องร้องบริษัทไปและได้เงินที่โดนอมไป5พันกว่าบาท(จากการตรวจสอบของบริษัทใหญ่ แค่เดือนสุดท้ายที่ออก) พอมันมีผลเป็นรูปธรรม ที่บ้านถึงจะเริ่มเชื่อ แต่คือตอนนั้นสุขภาพจิตเราตกลงมาก มากจนคิดว่าโลกมันไม่น่าอยู่เลย ไม่มีใครอยู่ข้างๆเราเลย โดนผลกดดันจากที่บ้านมาตลอดๆในเรื่องการอยู่ในกรอบในกฎระเบียบ โดนคุมกระทั่งการคบกับแฟน โดนว่าสารพัดว่าที่ออกจากงานไม่อยากทำงานเพราะขี้เกียจ ตั้งแต่มีแฟนคนนี้ขี้เกียจ(จริงๆคบกับตั้งแต่ทำงานแล้ว คบมานานแล้วค่ะ ไม่ได้คบกันตอนออกจากงาน) มีข้อพิพากเกิดขึ้นเยอะมากแล้วมันกลายเป็นความกดดันของเรา บางทีไม่สบายจริงๆ โดนหาว่าแกล้งป่วยเพราะไม่อยากไปทำงาน ตอนนี้มันหนักถึงขั้นว่าเริ่มอยากทำร้ายตัวเอง เริ่มคิดอยากฆตต. เริ่มคิดว่าโลกไม่น่าอยู่ จากที่เคยควบคุมความคิดตัวเองได้ ตอนนี้แทบจะหยุดคิดไม่ได้เลยค่ะ หนักจนทำร้ายร่างกายตัวเอง เอาความกดดันมาระบายเป็นความเจ็บปวด จนโดนเขาว่าว่าเหมือนเด็กเก็บกด ทุกคนว่าที่เราเป็น มันเป็นการคิดไปเองเหมือนที่เขาว่าไหม คนที่เคยเจอปัญหาแบบนี้ต้องเอาตัวเองออกมายังไงหรอคะ ทุกวันนี้ไม่ได้ออกจากบ้านจากครอบครัวนี้เพราะโดนสั่งห้ามไม่ให้ไปไหน แฟนจะพาไปรพ.ยัฃโดนสอบสวนเลย แอบสงสารเขาอยู่ที่คบกับเราแล้วโดนหารเลขโดนว่าไปด้วย ตอนนี้คิดว่ากำลังจะไปรักษาที่รพ.โดยตรงเพราะคิดว่าตัวเองอาจจะยัฃไม่ถึงกับเป็นโรคซึมเศร้า อาจจะเป็นแค่สภาวะที่เริ่มต้น คิดเห็นกันยังไงคอมเม้นต์ได้นะคะ ยินดีน้อมรับคำติเพื่อปรับปรุงค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่