สวัสดีค่ะ วันนี้ มาแบบหวานเจี๊ยบ หวานหมอด่า
หวานหมอตัดขา หวานกันให้สะใจไปเล้ยยยยยยยยย
ตัดสินใจทำเมนู
กล้วยทับ ก็เพราะความแค้นใจ เนื่อง
ด้วยวันก่อนไปซื้อกล้วยย่างแบบปอกเปลือก และกล้วย
ทับแบบราดน้ำเชื่อม อุตส่าห์ซื้อทั้ง 2 อย่างๆละ 30 บาท
แต่แม่ค้า ราดน้ำเชื่อมให้ทัพพีเดียว คือ....แบบ ขี้เหนียว
หรือกลัวขาดทุน หรือเป็นห่วงเรา กลัวเบาหวานขึ้นตามั้ง
นี่คือเหตุผลที่ ทำกินเองก็ได้ กินให้มันสะใจไปเลยสิ
เราชอบกล้วยห่ามๆ สีกระดังงา เพราะกล้วยที่เหลือง
บางลูก มีรสเปรี้ยวปนมา หรือความหวานของกล้วย
มันแข่งกับความหวานของน้ำเชื่อมก็ไม่รู้นะ เหมือนมัน
แอบตีกัน เวลาอยู่ในปากเรายังงัยไม่รู้
ปอกเปลือก แล้วหั่นครึ่ง และเอาทั้งลูก เข้าหม้อทอด
อบไฟ 180 องศา 10 นาที แล้วเปิดมา กลับด้านแล้ว
อบต่ออีก 10 นาที กล้วยจะเริ่มเหลือง กลับด้าน อบต่อ
อีกครั้ง ใช้ไฟ 200 อีก 5 นาที เพื่อให้ผิวกล้วยมีความ
เกรียมๆนิดๆ เราชอบ
ระหว่างอบกล้วย เราก็มาทำน้ำเชื่อมที่แสนง่าย ใช้ส่วน
ผสมที่มีในครัว
กะทิกล่อง 125 ML.
น้ำตาลปี๊บ (แบบนิ่ม) 2 ขีดครึ่ง
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ หยิบมือปลายนิ้ว
เนย แต่บ้านเรามี มาการีนกลิ่นเนยสด 1 ช้อน
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
ตั้งกะทิ ใส่น้ำตาลปี๊บ เกลือ คนให้ละลาย แล้วใส่น้ำตาลทราย
เพื่อช่วยให้หวานแหลมขึ้น ใช้ไฟเบา ละลายแป้งข้าวโพดกับ
น้ำนิดหน่อยรอไว้
ถ้าไม่มีแป้งข้าวโพด แป้งมันก็ใช้ได้ แต่ น้ำเชื่อมจะเหนียว ยืด
ใช้แป้งข้าวจ้าวก็ได้ แต่ น้ำเชื่อมจะข้นแบบเป็นลูกๆ ถ้าใส่เยอะ
แป๊บเดียวกะทิก็เดือดแล้ว แอบชิมว่าถูกใจหรือยัง ถ้าไม่พอก็
เติมน้ำตาล หรือเกลือ เอาที่ถูกใจ แต่สำหรับเรา เท่านี้คือกำลังดี
กะทิเดือด ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป คนอย่างรวดเร็ว
จากนั้น ปิดไฟ ใส่เนย หรือ มาการีน ลงไปแล้ว คน คน คน
จนเนยละลาย ก็คือเสร็จ กล้วยก็อบสุกพอดี
นำกล้วยขึ้นวางบนเขียง ใช้อุปกรณ์ที่มีในครัว มีดปังตอ
ก็ใช้ กดๆได้ เราใช้แก้วกาแฟกดเอา ใช้ถุงแกงวางปิดที่
กล้วยก่อนทับ กันกล้วยติดมากับถ้วยนิดนึง
แค่นี้ก็พร้อมเสริฟ ความอร่อย เรียงใส่จานให้เยอะๆ
จัดจานให้อลัง ราดน้ำเชื่อมให้มันชุ่มฉ่ำ ให้มันสะใจ
กินให้หายอยาก ให้หายแค้นแม่ค้าที่ให้น้ำเชื่อมเรา
น้อยนิดในวันนั้น
ดูความเข้มข้น ของน้ำเชื่อมสิ เอิ่มมมมมมมมมมมมมมมมมม
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
ปล.คุณผู้อ่าน กรุณาอย่าไปฟ้องคุณหมอนะคะ นานทีปีหน
ขอกินให้มันสะใจสักครั้งเถอะนะ
กล้วยทับ ราดน้ำเชื่อมฉ่ำๆ
สวัสดีค่ะ วันนี้ มาแบบหวานเจี๊ยบ หวานหมอด่า
หวานหมอตัดขา หวานกันให้สะใจไปเล้ยยยยยยยยย
ตัดสินใจทำเมนู กล้วยทับ ก็เพราะความแค้นใจ เนื่อง
ด้วยวันก่อนไปซื้อกล้วยย่างแบบปอกเปลือก และกล้วย
ทับแบบราดน้ำเชื่อม อุตส่าห์ซื้อทั้ง 2 อย่างๆละ 30 บาท
แต่แม่ค้า ราดน้ำเชื่อมให้ทัพพีเดียว คือ....แบบ ขี้เหนียว
หรือกลัวขาดทุน หรือเป็นห่วงเรา กลัวเบาหวานขึ้นตามั้ง
นี่คือเหตุผลที่ ทำกินเองก็ได้ กินให้มันสะใจไปเลยสิ
เราชอบกล้วยห่ามๆ สีกระดังงา เพราะกล้วยที่เหลือง
บางลูก มีรสเปรี้ยวปนมา หรือความหวานของกล้วย
มันแข่งกับความหวานของน้ำเชื่อมก็ไม่รู้นะ เหมือนมัน
แอบตีกัน เวลาอยู่ในปากเรายังงัยไม่รู้
ปอกเปลือก แล้วหั่นครึ่ง และเอาทั้งลูก เข้าหม้อทอด
อบไฟ 180 องศา 10 นาที แล้วเปิดมา กลับด้านแล้ว
อบต่ออีก 10 นาที กล้วยจะเริ่มเหลือง กลับด้าน อบต่อ
อีกครั้ง ใช้ไฟ 200 อีก 5 นาที เพื่อให้ผิวกล้วยมีความ
เกรียมๆนิดๆ เราชอบ
ระหว่างอบกล้วย เราก็มาทำน้ำเชื่อมที่แสนง่าย ใช้ส่วน
ผสมที่มีในครัว
กะทิกล่อง 125 ML.
น้ำตาลปี๊บ (แบบนิ่ม) 2 ขีดครึ่ง
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ หยิบมือปลายนิ้ว
เนย แต่บ้านเรามี มาการีนกลิ่นเนยสด 1 ช้อน
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
ตั้งกะทิ ใส่น้ำตาลปี๊บ เกลือ คนให้ละลาย แล้วใส่น้ำตาลทราย
เพื่อช่วยให้หวานแหลมขึ้น ใช้ไฟเบา ละลายแป้งข้าวโพดกับ
น้ำนิดหน่อยรอไว้
ถ้าไม่มีแป้งข้าวโพด แป้งมันก็ใช้ได้ แต่ น้ำเชื่อมจะเหนียว ยืด
ใช้แป้งข้าวจ้าวก็ได้ แต่ น้ำเชื่อมจะข้นแบบเป็นลูกๆ ถ้าใส่เยอะ
แป๊บเดียวกะทิก็เดือดแล้ว แอบชิมว่าถูกใจหรือยัง ถ้าไม่พอก็
เติมน้ำตาล หรือเกลือ เอาที่ถูกใจ แต่สำหรับเรา เท่านี้คือกำลังดี
กะทิเดือด ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป คนอย่างรวดเร็ว
จากนั้น ปิดไฟ ใส่เนย หรือ มาการีน ลงไปแล้ว คน คน คน
จนเนยละลาย ก็คือเสร็จ กล้วยก็อบสุกพอดี
นำกล้วยขึ้นวางบนเขียง ใช้อุปกรณ์ที่มีในครัว มีดปังตอ
ก็ใช้ กดๆได้ เราใช้แก้วกาแฟกดเอา ใช้ถุงแกงวางปิดที่
กล้วยก่อนทับ กันกล้วยติดมากับถ้วยนิดนึง
แค่นี้ก็พร้อมเสริฟ ความอร่อย เรียงใส่จานให้เยอะๆ
จัดจานให้อลัง ราดน้ำเชื่อมให้มันชุ่มฉ่ำ ให้มันสะใจ
กินให้หายอยาก ให้หายแค้นแม่ค้าที่ให้น้ำเชื่อมเรา
น้อยนิดในวันนั้น
ดูความเข้มข้น ของน้ำเชื่อมสิ เอิ่มมมมมมมมมมมมมมมมมม
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
ปล.คุณผู้อ่าน กรุณาอย่าไปฟ้องคุณหมอนะคะ นานทีปีหน
ขอกินให้มันสะใจสักครั้งเถอะนะ