JJNY : ศิริกัญญาชี้ความเห็น ป.ป.ช. ไม่จำเป็น│ณัฐชาจ่อถกกม.เด็ก│‘กัณวีร์’ใส่ชุดมลายู ขอหารือสภาฯ│ประชากรจีนลลง ปีที่ 2

ศิริกัญญา จี้ รัฐบาล ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต ชี้ความเห็น ป.ป.ช. ไม่จำเป็นต้องทำตาม
https://www.khaosod.co.th/politics/news_8055159
 
 
“ศิริกัญญา” จี้ “รัฐบาล” ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต ชี้ความเห็น ป.ป.ช. รับฟังได้ แต่ไม่จำเป็นต้องทำตาม แนะ อย่าเอาหลังพิงองค์กรอิสระ ย้ำ รอถึง พ.ค. ล่าช้าเกินไป
 
เมื่อเวลา 9.50 น. วันที่ 17 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งความเห็นถึงรัฐบาลกรณีออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินกู้ 500,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า เป็นเพียงคำแนะนำ รับฟังไว้แต่ไม่จำเป็นต้องทำตาม
 
เรื่องการดำเนินนโยบายเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของรัฐบาล ดังนั้นไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม ไม่ได้เป็นข้อกฎหมายที่จำเป็น ขอให้องค์กรอิสระทำงานในกรอบหน้าที่ของตนเอง หลายเรื่องที่มองแล้รู้สึกว่าไม่ใช่หน้าที่ของ ป.ป.ช. ด้วยซ้ำ

แต่หากเป็นข้อคิดเห็นที่มีประโยชน์รัฐบาลก็ควรรับฟัง แต่ไม่ควรมาเป็นจุดอ้างอิงว่าที่เราไม่ได้ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพราะ ป.ป.ช. ให้ความเห็นแบบนี้ ตนอยากให้รัฐบาลรับผิดชอบอย่างเต็มที่ หากโครงการนี้ไปต่อไม่ได้ก็ให้เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลโดยตรง ไม่ต้องเอาหลังพิงองค์กรอิสระ
 
ดิฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเลื่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) ทั้งที่ความเห็นของ ป.ป.ช. ก็คือความเห็นของ ป.ป.ช. ถ้าเราสามารถพิจารณากันได้เองโดยไม่ใช้ความเห็นของ ป.ป.ช. ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เป็นจุดเด่นควรรับฟัง แต่ก็ไม่ได้เป็นจุดเปลี่ยนจุดตายของโครงการนี้ว่าจะไปต่อได้หรือไม่” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
 
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ส่วนที่ ป.ป.ช. ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจของประเทศยังไม่ถึงจุดวิกฤต แต่มีความเสี่ยงจากหลายด้าน โดยอ้างอิงจากนิยามธนาคารโลก 7 ประเภท อันที่จริงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศยังไม่เข้าขั้นแม้แต่ข้อเดียว เหมือนเป็นการตอกย้ำสิ่งที่ตนเคยพูดมาแล้ว แต่ถ้าเป็นฝ่ายค้านพูดน้ำหนักก็อาจจะฟังดูน้อย และแฝงไปด้วยนัยยะทางการเมือง หลายเรื่องที่ระบุใน ป.ป.ช. ก็เป็นเรื่องที่ตนเคยพูดมาแล้ว
 
เมื่อถามว่ามีความเห็นอย่างไรหากไม่ออกเป็นพ.ร.บ.เงินกู้แล้ว แต่ใช้งบกลางจากปี 68 จะมีปัญหาอีกหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ก็เป็นทางที่เป็นไปได้มากที่สุด แต่งบปี 68 ก็จะเข้ากรณีเดียวกับงบปี 67 คือไม่มีที่ว่างเหลือให้ใส่โครงการ 500,000 ล้านบาท ต้องตัดเข้าไปในส่วนงบลงทุนด้วยซ้ำไป
 
ถ้ายังไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องโครงสร้างงบประมาณให้แล้วเสร็จ และลดขนาดโครงการให้เล็กลงพอยัดเข้าไปในงบปี 68 ได้ ก็เป็นเรื่องที่ปลอดภัยที่สุดที่สามารถทำได้ ตนเข้าใจว่าเมื่อวานนี้มีการพูดคุยกันในเรื่องกรอบงบประมาณปี 68 ทางสำนักงบประมาณก็คงจะได้พูดคุยกับรัฐบาลเรียบร้อยแล้วว่า โครงการนี้จะบรรจุเข้าไปในงบปี 68 ได้หรือไม่
 
เมื่อถามว่าทางลงที่ดีที่สุดของรัฐบาลคือการยุติโครงการดิจิทัลวอลเล็ตใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คงมีโอกาสที่จะทำได้โดยการลดขนาดโครงการให้เล็กลง และพยายามใช้วิธีการแนวทางที่เป็นไปได้ตามกฎหมายก่อน หรือจะไปแก้ไข พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2542 ว่าในกรณีที่รัฐบาลอยากจะกู้เงิน ประเทศอาจไม่จำเป็นต้องวิกฤตก็ได้ ซึ่งรัฐบาลคุมเสียงข้างมากในสภาอยู่แล้วก็อาจจะทำได้ในรัฐบาลนี้
 
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า แต่หากรัฐบาลยังดื้อดึงใช้เงื่อนไขเดิมทั้งหมด ตนคิดว่ามีปัญหาในอนาคตแน่ๆ ขณะนี้ติดล็อกทางกฎหมาย ไม่แน่ใจว่าจะนำไปสู่อะไร สุดท้ายแล้วคนที่จะลุยไปด้วยกันไม่ใช่แค่รัฐบาล แต่ทางสภาฯ ก็ต้องโหวตให้กฎหมายที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย ข้าราชการที่มีส่วนร่วมในการลงมติ และคณะกรรมการฯ ต้องลงมาอยู่ในร่างแหนี้ด้วย ตนอยากให้รัฐบาลคิดทบทวนว่าจะหาทางลงให้โครงการนี้อย่างไรดี
 
ส่วนที่มีความกังวลว่าจะซ้ำรอยกับโครงการจำนำข้าวนั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่สามารถเทียบเคียงกับโครงการจำนำข้าวได้เลย ถ้าจะเทียบเคียงคงต้องเทียบเคียงกับพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ไม่ได้มีใครได้รับผลกระทบทางกฎหมาย ยกเว้นคนที่เสียบบัตรแทนกันคนเดียว
 
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านจะแนะนำอะไรกับรัฐบาล น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลอยู่นิ่งๆ คิดทบทวนอีกสักครั้งหนึ่งอย่างถี่ถ้วนว่ามีโอกาสที่จะเป็นไปได้อย่างไรบ้าง ตอนที่หาเสียงยังไม่มีอำนาจรัฐ ยังไม่มีแขนขาที่เป็นข้าราชการ อาจจะคิดไม่ออกว่าจะต้องทำด้วยวิธีการใด และคิดว่าจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีการใด
 
ตนยังเห็นด้วยว่าเศรษฐกิจมันไม่ดี มีการเติบโตต่ำ ถึงจะไม่วิกฤตแต่ก็ยังมีปัญหาที่จำเป็นจะต้องแก้ในระยะสั้นและแก้ไขโครงสร้างในระยะยาว ดังนั้น เรื่องอะไรที่ต้องทำทันทีต้องทำได้แล้ว อย่ามัวแต่รอดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ทำสักทีเพราะถ้าเกิดวิกฤตจริงก็รอไม่ได้
 
รัฐบาลต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ต้องรอถึงเดือนพ.ค. เราคิดว่าล่าช้าเกินไป และต้องมาลุ้นอีกว่าจะได้ทำหรือไม่ได้ทำ ควรต้องเริ่มทำสักทีด้วยงบกลางตอนนี้ แม้จะมีอยู่น้อยก็ต้องออกโครงการอะไรขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนรู้สึกว่าการจับจ่ายใช้สอยมันคล่องตัวมากขึ้นแล้ว” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว



ณัฐชา รับไม่ได้ คดีป้ากบ ชี้ตร.ให้ท้ายมีส่วน จ่อถกกม.เด็ก ฆ่าคนตายโทษเท่าผู้ใหญ่หรือยัง 
https://www.matichon.co.th/politics/news_4379680

‘ณัฐชา’ จ่อถกกฎหมายเด็กพรุ่งนี้ รับไม่ได้ ตร.ให้ท้าย-มีส่วนคดี ‘ป้าบัวผัน’ มั่นใจไม่ใช่ครั้งแรก กระตุกสังคมฉุกคิด ทำผิดฆ่าคนตายเกินกว่าเด็กหรือไม่
 
เมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีป้าบัวผัน หรือป้ากบ ที่มีเยาวชนเป็นผู้กระทำผิด ว่า เรื่องนี้ในสังคมรับรู้รับทราบดีว่าเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นหลายครั้ง ซึ่งผู้กระทำผิด เป็นลูกของเจ้าหน้าที่ผู้ที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ ก็จะเกิดการให้บุคคลที่ 3 ที่มีฐานะยากจนรับโทษแทน ครั้งนี้ก็เป็นเหตุน่าสะเทือนใจ โดยเฉพาะการที่ผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน ซึ่งเด็กเหล่านี้ไม่น่ากระทำความรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นจึงต้องติดตามต่อไปว่าคดีจะมีความคืบหน้าอย่างไร 
 
ส่วนสิ่งที่สังคมสงสัยคือโทษที่เด็กได้รับ โดยกระทรวงยุติธรรม แต่โยนมาให้สภาแก้กฎหมาย นายณัฐชา กล่าวว่า การที่ลดโทษให้เด็กลง หรือการให้เข้าสถานพินิจ เพราะกฎหมายมองว่า เด็กอาจจะทำความผิดครั้งแรก ไม่ได้มีความตั้งใจหรือวางแผนตระเตรียม เพื่อไปกระทำความผิด จึงไม่อยากให้ตราบาปที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นตราบาปไปตลอดชีวิต จึงมีช่วงอายุในการรับโทษขึ้นมา ซึ่งพอเกิดเหตุการณ์กรณีที่รุนแรงขึ้น จนเกิดการถึงแก่ความตายของบุคคลที่ 2 หรือ 3 แน่นอนว่าผู้เสียหายก็ไม่ยอม ที่ผู้กระทำความผิดได้รับโทษน้อยลง
 
“ในตัวบทกฎหมายเราให้โอกาสเด็ก แต่ในการให้โอกาสนั้น ต้องคำนึงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าวันนี้สิ่งที่เด็กกระทำมีความผิดเทียบเท่าผู้ใหญ่แล้วหรือยัง การฆ่าคนตายโดยเจตนาโดยการรุมทำร้ายหรืออะไรต่างๆ  แน่นอนว่าเกินกว่าเหตุ เกินกว่าความเป็นเด็กไปมาก เราก็อาจจะรับไม่ได้” นายณัฐชากล่าว
 
นายณัฐชายังกล่าวว่า โดยเฉพาะเด็กที่เป็นลูกของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ อาจจะมีการช่วยเหลือให้ท้าย หรือปล่อยปละละเลย จนทำให้เกิดเหตุขึ้นหรือเป็นพฤติกรรมแวดล้อมที่คนในครอบครัวกระทำเป็นประจำทำให้เกิดการเลียนแบบ จนทำให้เด็กคิดว่าตนเองจะไปทำอะไรก็ได้ เช่น ไปจับโจร ไปตามล่าผู้ที่มากลั่นแกล้งตนเอง โดยไม่ต้องเกรงกลัวต่อกฎหมาย
 
ส่วนที่หลายคนมองว่าเด็กไม่ควรได้รับสิทธิคุ้มครองแบบนี้ มีโอกาสที่จะยกเว้นในกรณีนี้หรือไม่ นายณัฐชา ยกตัวอย่างกรณีที่ทำให้ถึงแก่ความตาย และเกิดความเสียหายต่อสังคมเป็นวงกว้าง เราอาจจะส่งนักจิตวิทยาไปช่วยสืบหาข้อเท็จจริงก็ได้ ว่าเด็กกลุ่มนี้มีการกระทำเช่นนี้เป็นประจำหรือไม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรุนแรงอาจจะเกิดมาก่อนหน้านี้แต่ไม่เป็นคดี เช่น ยกพวกทะเลาะวิวาท ก่อนจะทำให้คนเสียชีวิต และแน่นอนว่าผู้เสียหายไม่ยอมต่อเรื่องนี้
 
เราอาจจะเห็นในสังคม เวลาเกิดเหตุแรงๆ ขึ้น ก็จะเห็นการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ ไปจับคนวิกลจริตมา บอกว่าเป็นโรคจิต แม้กระทั่งไปจับเด็กมา เด็กที่อยู่ในครอบครัวโดดเดี่ยวและยากจน เพื่อให้ได้รับโทษที่น้อยลง ซึ่งมีกระบวนการช่วยเหลือกันแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้นสังคมต้องยอมรับได้แล้ว เมื่อมีกลุ่มคนใดคนหนึ่งที่บทลงโทษน้อยกว่า แต่เป็นการกระทำความผิดแบบเดียวกัน เช่น ฆ่าคนตายเด็กรับโทษแบบหนึ่ง ผู้ใหญ่คนวิกลจริตรับอีกแบบหนึ่ง ก็จะมีกระบวนการช่วยเหลือ” นายณัฐชากล่าว
 
นายณัฐชายังย้ำว่า เรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ดังนั้นผู้มีสิทธิส่วนเกี่ยวข้องทุกคนไม่ควรมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ และกรณีนี้จะเป็นกรณีตัวอย่างให้เราหยิบยก เรื่องเหล่านี้มาพูดเสียที หากเกิดเหตุจนเสียชีวิต โทษของเด็กจะเป็นอย่างไร
 
เมื่อถามว่าต้องปฏิรูปองค์กรตำรวจด้วยหรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เกิดวิกฤตศรัทธาต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลายครั้งหลายกรณี เรื่องที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ที่ตำรวจไม่สามารถสร้างความชอบธรรมและความมั่นใจให้กับประชาชนได้ การที่ช่วยคนใดคนหนึ่ง แต่ทำลายความเชื่อมั่นต่อองค์กรตำรวจทั้งองค์กร แบบนี้ไม่เป็นที่ยอมรับ และพี่น้องตำรวจ 200,000 นายทั่วประเทศเขาไม่ได้รับรู้รับทราบด้วยทำให้หมดศรัทธาไปด้วย ดังนั้นขอให้นึกว่าท่านยังมีเพื่อนตำรวจอีก ที่ต้องรับกับสถานการณ์ไปด้วย
 
นายณัฐชายังกล่าวว่า พรุ่งนี้จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในชั้นกรรมาธิการของตนเอง และอาจจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กมาหารือร่วมกัน ถ้าไปถึงการแก้กฎหมายเราก็จะหยิบยกไปพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
 
เมื่อถามว่าตอนนี้เทรนทวิตเตอร์ ติดอันดับ 1 ว่ายกเลิกกฎหมายเยาวชนนั้น นายณัฐชากล่าวว่า ก่อนจะยกเลิกตนเชื่อว่ายังมีหลายคน ได้โอกาสตรงนี้เมื่อครั้งที่กระทำความผิด หรือพลาดพลั้งในวัยเด็ก เพื่อไม่ให้เป็นตราบาปไปตลอดชีวิตก็ยังมีหลายคนที่ได้รับประโยชน์จากการกระทำที่เกินกว่าเหตุแบบนี้เราต้องแยกออกไป ถ้าเราไปยกเลิกเลยยังมีเด็กอีกหลายคน ที่ทำผิดแค่ลหุโทษ ไม่ได้ตั้งใจไม่ได้รุนแรง จะโดนหางเลขไปด้วย



‘กัณวีร์’ใส่ชุดมลายู ขอหารือที่ประชุมสภาฯ ห่วงรัฐใช้กฏหมายปิดปากนักกิจกรรม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4379834

‘กัณวีร์’ใส่ชุดมลายู ขอหารือที่ประชุมสภาฯ ห่วงรัฐใช้กฏหมายปิดปากนักกิจกรรม

วันที่ 17 มกราคม นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ขอหารือต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ไปยังนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. กรณีมีความย้อนแย้งในการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ปาตานี
 
“รัฐบาลกำลังสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน แต่กลับมีการบังคับใช้กฎหมาย การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ทำต่อนักกิจกรรม โดยมีหมายเรียก จากเจ้าหน้าที่รัฐ ต่อกลุ่มที่ทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และแสดงออกสิทธิพลเมืองการเมือง”นายกัณวีร์ กล่าว
 
นายกัณวีร์ ได้ยกตัวอย่างนักกิจกรรมที่ถูกดำเนินคดี เช่นนายมูฮัมหมัด อลาดี เด็งนิ ซึ่งจัดงานแต่ชุดมลายูในวันฮารีรายอ แต่กลับถูกดำเนินคดีอั้งยี่ ซ่องโจร ยุยงปลุกปั่น จากกิจกรรมเมื่อปี 2565 ถือเป็นปิดกั้นการแสดงออกสิทธิเสรีภาพ
 
ส่วนนายซาฮารี เจ๊ะหลง ทำเพจพ่อบ้านใจกล้า ระดมเงินช่วยเหลือครอบครัวของผู้ถูกวิสามัญฆาตกรรม ซึ่งเข้าไม่ถึงการเยียวยาของรัฐ แต่กลับถูกข้อหาเอาเงินมาใช้เอง ซึ่งการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไม่ใช่อาชญากรรม และ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่