ศิริกัญญา จับตา เปลี่ยนรูปแบบแจก ดิจิทัลวอลเล็ต จี้ แพทองธาร เข้าสภาตอบกระทู้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9368795
 
 
“ศิริกัญญา” ชวนจับตา เปลี่ยนเกณฑ์แจก “ดิจิทัลวอลเล็ต” ชี้เร็วไปเปิดซักฟอก ส่งกำลังใจ “แพทองธาร” เข้ามาช่วงเวลายากลำบาก หวัง เข้าสภาตอบกระทู้บ่อยๆ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี ทางฝ่ายค้านจะดำเนินต่ออย่างไร โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

โดยน.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ทางฝ่ายค้านเฝ้ารอวันที่จะมีการแถลงนโยบาย เพื่อนำมาศึกษา และวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่ 2 ของรัฐบาลนี้ในการแถลง และจะต้องติดตามกันต่อในการทวงสัญญาที่ได้หาเสียงเอาไว้ และตรวจการบ้าน 1 ปีของรัฐบาลที่ผ่านมา รวมถึงเสนอแนะแนวทางทางออกและแนวทางที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ขณะนี้ก็มีข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปอีก แต่คงจะต้องรอการแถลงนโยบาย และการให้รายละเอียด ภายหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ถวายสัตย์ เราต้องให้โอกาสรัฐบาลใหม่ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ เพื่อนำมานำเสนอต่อสภาฯ

หากต้องมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ คงจะเป็นไปเพื่อทำให้มีความละเอียดรอบคอบมากขึ้น เป็นไปตามกฎหมายวินัยการเงินการคลังมากขึ้น แต่รูปแบบจะเปลี่ยนไปอย่างไรคงต้องจับตาดู หากจะเปลี่ยนเป็นเงินสดก็ทำให้ตรงกับความต้องการประชาชน รวมถึงลดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ลงไป

แต่ต้องดูเรื่องของงบประมาณว่าจะสามารถจ่ายได้เท่าไหร่ เพราะรัฐบาลก็ยังไม่มีการแถลงความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่เข้าใจได้ เพราะยังไม่มีครม. แผนนโยบายยังไม่ได้นำเข้าสู่ที่ประชุมครม. คงต้องให้โอกาสให้เวลากับรัฐบาลได้เตรียมตัว

ส่วนจะส่งผลกับการทำงานของฝ่ายค้านหรือไม่นั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า การทำงานของฝ่ายค้านไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง การตรวจสอบยังเข้มข้นเหมือนเดิม แต่สำหรับการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องยอมรับว่านายกรัฐมนตรีเพิ่งมาสดๆ ร้อนๆ จึงยังมีไม่มีเรื่องให้อภิปราย

แต่สำหรับครม.ที่เคยอยู่ในรัฐบาลที่ผ่านมา เราสามารถอภิปรายได้เต็มที่ แต่คงต้องรอเก็บข้อมูลและรวบรวมข้อมูล ก่อนที่จะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป

เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะเข้าร่วมรัฐบาล จะกระทบต่อการทำงานของฝ่ายค้านหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คงไม่เป็นแบบนั้น ตนคาดหวังว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยังคงเหนียวแน่นเหมือนเดิม แต่อะไรจะเกิดขึ้นก็คงต้องรอดูทิศทางข้างหน้าต่อไป หากขาดไปหนึ่งพรรค ที่เหลือก็น่าจะคงอยู่ และสามารถทำงานได้อย่างเข้มแข็ง ไม่ว่าจะมีพรรคร่วมฝ่ายค้านกี่พรรคก็ตาม

เมื่อถามว่าการปรับครม.จะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของกระทรวงการคลังหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น คิดว่าคงจะมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายหรือมาตรการที่ทางรัฐบาลจะต้องดำเนินการให้เหมาะสมกับภาระงานที่จะเกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายใหม่ที่จะต้องมีการแถลงกับสภาฯ ว่า จะใช้กระทรวงการคลังเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักหรือจะใช้รัฐมนตรีในกระทรวงอื่นๆ

ตนคิดว่าหากเปลี่ยนรัฐมนตรีภายในกระทรวงการคลัง คงไม่ถึงขั้นที่จะทำให้โดรงการสะดุด เพราะรายละเอียดมีการดำเนินการไปในระดับหนึ่งแล้ว อาจจะทำให้ช้าไปบ้าง แต่คงไม่ได้กระทบอะไรในภาพรวม หากจะมีการเปลี่ยนแปลงก็คงเป็นการตัดสินใจจากครม.มากกว่า ที่จะทำให้สะดุดลงหรือมีการเปลี่ยนแปลง

เมื่อถามว่าจะฝากอะไรถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าน.ส.แพทองธาร เข้ามารับตำแหน่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ในทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม เป็นภาระหน้าที่ที่หนักหน่วงที่ต้องเดินหน้านำครม.และประเทศไปสู่การพัฒนาที่ก้าวหน้าขึ้นได้

“ฝ่ายค้านขอเป็นกำลังใจ และคงต้องเล่นบทบาทของกันและกันให้ดีที่สุด ในส่วนที่ต้องมีความร่วมมือกันก็สามารถร่วมมือกันได้ ส่วนการตรวจสอบ ถ่วงดุล เราก็จะทำหน้าที่ของฝ่ายค้านเช่นเดียวกัน และคาดหวังว่านายกฯ คนใหม่จะให้เกียรติสภาฯ ในการมาสภาฯ บ่อยๆ โดยเฉพาะการตอบกระทู้สด” น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า

เมื่อถามว่ามีความเห็นอย่างไรต่อคำแถลงของนายกฯ ภายหลังได้รับตำแหน่ง น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า อาจจะยังเร็วไปที่จะตัดสินจากการพูดไม่กี่ครั้ง ยังมีอีกหลายวาระหลายโอกาสที่นายกฯ จะสามารถแสดงวิสัยทัศน์เต็มที่ได้ ต้องดูกันไปในระยะยาว อย่าเพิ่งรีบตัดสินกันเพียงแค่สปีดเดียว

---

‘กัณวีร์’ ฝากการบ้าน ‘แพทองธาร’ 1 ปีที่ ‘รัฐบาลเศรษฐา’ ยังไม่ได้ทำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4743478

‘กัณวีร์’ ฝากการบ้าน ‘แพทองธาร’ 1 ปีที่ ‘รัฐบาลเศรษฐา’ ยังไม่ได้ทำ ก่อนทำให้ทุกตารางนิ้วเป็นพื้นที่ของโอกาส กล้ากำหนดอนาคตของตนเอง เปิดพื้นที่เสรีภาพให้ได้ก่อน
 
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยถึงการได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 2 ของรัฐบาลในรอบ 1 ปี และเป็นการเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 ของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้
 
นายกัณวีร์กล่าวว่า 1 ปีในสภาผู้แทนราษฎรของตนเอง เรียกได้ว่าคุ้มจริงๆ เพราะได้ยกมือโหวตนายกรัฐมนตรีถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกเห็นชอบ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มาจากเสียงข้างมากของประชาชน อีกสองครั้ง ไม่เห็นชอบ เพราะเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ตรงปก
 
“ในฐานะฝ่ายค้าน 1 ปี ในรัฐบาลเศรษฐา ผมเชื่อว่า 1 เสียงของผม แม้จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ไม่มาก แต่ได้เปิดพื้นที่ให้ในสภาผู้แทนราษฎร ได้พูดถึงหลายเรื่องที่ไม่เคยถูกหยิบยกมาพูดในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะเสียงของผู้คนที่ไม่มีโอกาสจะได้พูดหรือเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในสิ่งที่พวกเขาควรจะได้รับ แม้กระทั่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”
 
นายกัณวีร์กล่าวว่า ตนเองได้ฝากหลายเรื่องผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรไปถึงนายกรัฐมนตรี อดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง รับรู้บ้างไม่รับรู้บ้าง เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง จึงอยากจะมาฝากไปถึงนายกฯแพทองธารอีกครั้ง
 
นายกัณวีร์กล่าวว่า ตนเองจึงอยากฝากการบ้านไปถึงท่านนายกฯคนใหม่ว่า นอกเหนือหน้าที่การเป็นผู้นำรัฐบาล ที่ต้องเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนทางด้านเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญแล้ว ความตั้งใจของท่านที่แถลงหลังได้รับตำแหน่งที่ว่า
 
จะทำให้ทุกตารางนิ้วเป็นพื้นที่ของโอกาส เป็นพื้นที่ที่คนไทยทุกคนจะกล้ามีความฝัน กล้ามีความคิดที่สร้างสรรค์ และกล้าที่กำหนดอนาคตของตนเอง
ผมจึงอยากฝากถึงท่านง่ายๆ ครับ ก่อนจะเปิดพื้นที่ของโอกาส และกล้ากำหนดอนาคตของตนเอง เปิดพื้นที่เสรีภาพให้ได้ก่อน เอาเฉพาะเรื่องที่ผมติดตามนะครับ”
 
นายกัณวีร์กล่าวว่า 1 ปีที่ผ่านมา มีการฟ้องปิดปากประชาชนไปหลายคดี เช่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นักกิจกรรม 9 คน ถูกดำเนินคดีอั้งยี่ซ่องโจร เพียงเพราะจัดงานแต่งกายชุดมลายู ส่งเสริมอัตลักษณ์ตัวตน เปิดพื้นที่แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ เพื่อเป็นพื้นที่สาธารณะในการพูดถึงสันติภาพที่พวกเขาอยากร่วมกำหนดอนาคตตัวเอง ซึ่งในวันที่ 28 ส.ค.นี้ อัยการจังหวัดปัตตานีนัดฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่
 
“และเรื่องสำคัญที่จริงๆ ก็เกิดมาตั้งแต่รัฐบาลนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย รัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คุณอาของท่าน มีชาวอุยกูร์ กว่า 200 คน ถูกจับกุมข้อหาหลบหนีเข้าเมืองในประเทศไทย ผ่านมา 10 ปี ยังมีชาวอุยกูร์ผู้ชาย 48 คน ถูกขังลืมมา 10 ปี ในห้องกัก ตม.ของไทย เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ที่องค์การสหประชาชาติส่งจดหมายมาถึงรัฐบาลไทย ส่งมาถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว ท่านต้องเปิดอ่านด้วยนะครับ และในฐานะท่านบอกว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความเป็นแม่ด้วย อยากให้ท่านนึกถึงหัวอกแม่ พ่อและลูก ที่ถูกพรากจากกันโดยไม่รู้ชะตากรรมด้วยนะครับ ผมจึงคาดหวังกับท่านนายกฯคนใหม่อย่างมากทีเดียว”
 
นายกัณวีร์กล่าวว่า เรื่องสำคัญใกล้ตัว อย่างที่ทราบว่าสถานการณ์ชายแดนไทยเมียนมา รัฐบาลเศรษฐา ดูเอาจริงเอาจังในการร่วมสร้างสันติภาพในเมียนมา โดยเฉพาะการเปิดระเบียงมนุษยธรรม ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ แต่หลังนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กต. ดูเหมือนจะชะงักลง รักษาการ รมต.มาริษ เสงี่ยมพงษ์ อาจกำลังทำอยู่ก็ได้แต่ยังไม่เห็นผลงาน ผมเลยอยากเห็น อยากรู้ว่าท่านนายกฯมีวิสัยทัศน์ มีความรู้เรื่องนี้อย่างไร
 
“และอีกเรื่องที่เกี่ยวโยงกับสถานการณ์ความมั่นคงชายแดน และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของไทย ภัยจากอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ จากธุรกิจทุนจีนเทาจีนดำ ที่รายล้อมประเทศไทย ท่านนายกฯจะจัดการอย่างไร เห็นท่านไปเยือนจีนพบผู้นำจีนมาตั้งแต่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ท่านจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร”
 
นายกัณวีร์กล่าวว่า ขอฝากการบ้านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ไว้เท่านี้ก่อน เพราะคิดว่าเราคงต้องฝากกันอีกมาก แล้วพบกันในสภาผู้แทนราษฎร
 

---

'สภาพัฒน์' ชี้ หากดิจิทัลวอลเล็ตล่ม ต้องมีมาตรการอื่นกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยกลุ่มเปราะบาง
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/413329

ขณะที่ความไม่แน่นอนของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลังเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ / เลขาฯ สภาพัฒน์ เห็นว่า หากจะยกเลิก ก็ต้องมีมาตรการอื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยกลุ่มเปราะบาง

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวระหว่างการแถลงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 โดยระบุว่า แต่ถ้ารัฐบาลชุดใหม่ไม่ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อ คงต้องมีมาตรการอื่นมาเติมในการช่วยพยุงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย รายละเอียดต่าง ๆ คงต้องพูดคุยกับรัฐบาล และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง แบงก์ชาติด้วยเพื่อคิดมาตรการร่วมกัน และต้องทำในช่วงเวลาและงบประมาณที่เหมาะสม อย่างไรก็ดี ยังพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะรัฐบาลยังไม่มีการแถลงนโยบาย โดยเฉพาะมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต ต้องดูว่าจะปรับเปลี่ยนแปลงแบบไหน โดยเงื่อนไขเดิมมีเรื่องของแหล่งเงินที่จะเข้ามาคนละช่วงเวลา และเรื่องของระบบซึ่งก็มีความสำคัญ ทั้งนี้ สภาพัฒน์ ได้เสนอให้รัฐบาล เตรียมมาตรการรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากความขัดแย้งในภูมิภาคต่าง ๆ และสงครามการค้าที่รุนแรงมากขึ้น เพราะสภาพัฒน์มองว่าเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบแน่นอน ดังนั้นงบปี 2568 คงต้องมาดูว่ามีวงเงินเท่าไหร่ เพื่อเตรียมการรองรับผลกระทบดังกล่าว ขณะที่การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน แบงก์ชาติกระทรวงการคลัง และสภาพัฒน์ ได้มีการหารือกันมาระดับหนึ่งแล้ว และเห็นว่ามาตรการที่จะแก้ไขปัญหาหนี้ ควรเป็นมาตรการที่พุ่งเป้ามากขึ้น เช่น แก้ปัญหาหนี้บ้าน หนี้รถยนต์ หรือ หนี้บัตรเครดิต โดยเชื่อว่า อีกไม่นานน่าจะได้เห็นมาตรการออกมา

---

"กาฬสินธุ์" ฝนถล่ม น้ำป่าทะลัก หลากจมหมู่บ้านหนองแคนน้อย-อพยพระทึก
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2809031

กาฬสินธุ์ฝนหนัก น้ำป่าทะลักลงเขื่อนลำพันชาด จนท.เร่งระบายลงลำห้วย หลากท่วมหมู่บ้านหนองแคนน้อย ชาวบ้านอพยพระทึก บ้านเรือน-ไร่นาจมเสียหายเพียบ 

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำเชือกมาผูกต่อกันตามเส้นทาง เพื่อให้ชาวบ้านยึดเกาะป้องกันไม่ให้ถูกกระแสน้ำพัดตกจากถนน ระหว่างลำเลียงช่วยเหลือชาวบ้านกว่า 10 ครัวเรือน และพระภิกษุสงฆ์ ออกจากหมู่บ้านหนองแคนน้อย หมู่ 6 ต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงระดับเอว