JJNY : กมธ.งบ 67 ถกจัดสรรตำแหน่ง│เด็กไทยสร้างไทยแนะพรรค│ส.อ.ท.เชื่อแบงก์ชาติรอสหรัฐลด│สมรภูมิตะวันออกกลางส่อระอุอีก

กมธ.งบฯ 67 ถกจัดสรรตำแหน่ง ก้าวไกลเมินรับเก้าอี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4365731
  
 
กมธ.งบ 67 ถกจัดสรรตำแหน่ง ก้าวไกลเมินรับเก้าอี้
 
เมื่อวันที่ 8 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 นัดแรก เพื่อเลือกตำแหน่งต่างๆ โดยที่ประชุมมีมติให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน กมธ. จากนั้นเป็นตำแหน่งส่วนรองประธาน และโฆษก กมธ. เป็นที่น่าสังเกตว่า ในทุกตำแหน่งของ กมธ. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ไม่ได้เสนอชื่อแม้แต่ตำแหน่งเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ในที่ประชุม นายภูมิธรรมได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า จะจัดให้มีการถ่ายทอดสดภาพและเสียงไปยังบริเวณหน้าห้องประชุม ห้องรับรองผู้ชี้แจง เพื่อให้สามารถติดตามการประชุมได้อย่างต่อเนื่อง ยกเว้นช่วงที่ประธานเห็นสมควรว่าเป็นการประชุมลับ
แต่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ก.ก. ได้ขอให้มีการถ่ายทอดสดภาพและเสียงไปยังช่องทางสาธารณะ โดยอ้างอิงรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่พิจารณาการถ่ายทอดสดการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ว่าอยู่ในอำนาจการพิจารณาของประธาน กมธ. ที่จะให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมหรือไม่
 
อย่างไรก็ตาม มี กมธ.ไม่เห็นด้วย อาทิ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย โดยให้เหตุผลว่าการอภิปรายงบประมาณบางครั้งจะพาดพิงไปถึงบุคคลภายนอกด้วย กฎหมายจะคุ้มครองเฉพาะคนที่พูดในห้องประชุม หากถ่ายทอดออกไปอาจจะทำให้เกิดปัญหาจนมีการฟ้องร้องกันได้
ขณะที่นายอนุรักษ์ จุรีมาศ ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคชาติไทยพัฒนาระบุว่า ข้อบังคับการประชุมสภา ไม่ได้ใช้กับการประชุม กมธ. เพราะยังไม่ได้มีการแก้ไขข้อบังคับ หากถ่ายทอดสดออกไปแล้วมีการฟ้องร้อง โดยเฉพาะข้าราชการของสภาจะเดือดร้อน ดังนั้น จึงขอให้ทำเหมือนทุกปีที่ผ่านมาเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ทำให้ น.ส.ศิริกัญญายินยอมให้พิจารณาเป็นไปตามเดิม



เด็กไทยสร้างไทย แนะพรรค ขับ 3 ส.ส.โหวตสวนมติวิป เปรียบปลาเน่า เก็บไว้ก็เหม็นบ้าน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4365743

เด็กไทยสร้างไทย แนะแรง พรรคขับออก 3 ส.ส.โหวตสวนมติวิป เปรียบเป็นปลาเน่า เก็บไว้ก็เหม็นบ้าน
 
จากกรณีที่ 3 ส.ส.พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) โหวตรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งถือว่า สวนมติพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ไม่รับหลักการ กระทั่งนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยื่นหนังสือลาออกจากเลขาธิการพรรค เพื่อรับผิดชอบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
  
ล่าสุด (8 ม.ค.) นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ได้ทวิตข้อความแสดงความคิดเห็นกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า 
 
“ในวันที่ 9 มกราคมนี้ ผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทยจะมีประชุมกรณี 3 ส.ส.งูเห่า โหวตสวนมติฝ่ายค้าน ในพ.ร.บ.งบประมาณ67 ซึ่งความเห็นส่วนตัวของผมในเรื่องนี้ คือการ “ขับออก” จากพรรคเท่านั้น
 
แม้จะดู “เข้าทาง” ส.ส.งูเห่า และพรรครัฐบาลที่เอากล้วยมาล่อ ก็ไม่สำคัญเท่าการรักษาไว้ซึ่งอุดมการณ์ และจุดยืนของพรรค ยอมให้เหลือแต่ส.ส.คุณภาพที่เป็น “เพชรแท้” ทำงานตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาเพื่อประชาชน ยังดีกว่าการเก็บปลาเน่าไว้เหม็นบ้าน

https://twitter.com/PuneTreerat/status/1744293900322545772



ส.อ.ท. เชื่อแบงก์ชาติรอสหรัฐลดดอกเบี้ยก่อนค่อยลดตาม แม้แบงก์กำไรทะลัก 2.2 แสนล้าน
https://www.matichon.co.th/economy/news_4365782

ส.อ.ท. เชื่อแบงก์ชาติรอสหรัฐลดดอกเบี้ยก่อนค่อยลดตาม แม้แบงก์กำไรทะลัก 2.2 แสนล้าน
 
เมื่อวันที่ 9 มกราคม นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีธนาคารพาณิชย์มีกำไรสูงกว่า 2.2 แสนล้านบาท มีการตั้งคำถามว่าเป็นผลจากส่วนต่างรายได้จากอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยสูงเกินไปหรือไม่ และต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาดู และไม่ต้องการให้ ธปท.ขึ้นดอกเบี้ยอีกว่า ประเด็นอัตราดอกเบี้ยต้องการให้มอง 2 มุม ในมุมของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือคณะกรรมการนโยบายการเงินที่มีหน้าที่กำกับดูแลอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัจจุบันอยู่ที่ 2.5% คงจะมีเหตุผลในการปรับขึ้น เนื่องจากขณะนั้นรัฐบาลสหรัฐมีการใช้มาตรการ QE หรือการพิมพ์ธนบัตรออกมา เพื่ออัดฉีดเข้าสู่ระบบ รวมถึงมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายแนวทาง จนทำให้ประชาชนชาวสหรัฐแม้ไม่ได้ทำงาน แต่ยังมีเงินอย่างเหลือเฟือ ทำให้มีการใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก เงินเฟ้อของสหรัฐสูง และต้องสู้กับเงินเฟ้อของไทยด้วย
 
ส่วนประเด็นที่มีการระบุถึงกำไรของสถาบันการเงินที่สูงกว่า 2.2 แสนล้านบาท เป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นรายได้ค่อนข้างสูง แต่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากเป็นต้นทุนค่อนข้างต่ำ จึงส่งผลทำให้มองว่ามีกำไรมาก ถ้ามองในมุมเอกชน หรือผู้ประกอบการต้องการให้ต้นทุนทางการเงินลดลงอยู่แล้ว โดยหวังว่าปีนี้ไทยจะมีแนวโน้มดอกเบี้ยในทิศทางขาลง เพราะสหรัฐเองก็ระบุชัดเจนว่าหมดยุคของดอกเบี้ยขาขึ้น และจะมีการลดลง 3 ครั้งปีนี้ แต่ไม่ได้ระบุเวลา เพราะเงินเฟ้อสหรัฐอยู่ที่ 3% กว่า ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการคือ 2% แต่ก็จะมีการชะลอลดดอกเบี้ยลง
 
เชื่อว่า ธปท.คงไม่ลดดอกเบี้ยก่อนสหรัฐ เพราะช่วงเวลาที่ปรับขึ้น ธปท.รอดูท่าทีก่อนค่อยปรับตาม โดย ธปท.หรือผู้ที่เกี่ยวข้องคงรอดูสถานการณ์ก่อนว่าเมื่อสหรัฐลดแล้วสถานการณ์จะเป็นอย่างไร” นายเกรียงไกรกล่าว

อย่างไรก็ตาม วันที่ 10 มกราคมนี้ ที่ปะชุมคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. หอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย จะหารือประเด็นอัตราดอกเบี้ยที่กำลังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เชื่อว่าสมาคมธนาคารไทยจะมีการชี้แจงในเรื่องดังกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่