ธุรกิจร้านอาหารคนน้อย ไม่พอจ่ายค่าเช่าร้าน ควรไปต่อหรือพอแค่นี้?

สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องจะปรึกษาขอความเห็น เรามีรุ่นพี่คนรู้จักทำธุรกิจร้านอาหารอยู่ที่จ.ทางใต้แห่งหนึ่ง เป็นร้านอาหารข้าวแกงใต้ แนวรักสุขภาพ(แนวสันติ-อโศก) ราคาหลักสิบ ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม(แต่มีฐานลูกค้าประจำ) ทำมาได้หลายปีแล้วค่ะ แต่ช่วงโควิดที่ผ่านมา...ผู้จัดการร้านคนเก่าลาออก พอได้ผู้จัดการร้านคนใหม่แกจะแวะเข้าร้านนานๆครั้ง ไม่ค่อยมีเวลามาดูแลร้าน(เพราะผู้จัดการใหม่ แกก็มีงานประจำของแกคือตัดยาง,ทำสวนปลูกผักออร์แกนิก)  ผู้จัดการมีหน้าที่หลักช่วยจัดซื้อผักสดวัตถุดิบเสริมเข้าร้าน แวะมาช่วยขายอาหารนานๆครั้ง

หากผู้จัดการร้านไม่มา เรื่องจัดซื้อวัตถุดิบจะปล่อยให้แม่ครัวพนักงานดูแลกันเอง เบื้องหลังร้าน รุ่นพี่คนรู้จักเราซึ่งทำหน้าที่ตำแหน่งเป็นแม่ครัวหลัก ผูกพันกับผู้จัดการร้านคนเก่ามาก เพราะเป็นรุ่นบุกเบิกก่อตั้งร้านสาขานี้มาด้วยกัน แกพยายามกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อพยุงค่าเช่าที่ร้านไปต่อให้ได้

ร้านนี้เป็นร้านระบบเฟรนไชน์ในนามมูลนิธิ มีหลายสาขา แต่ไม่ได้จดทะเบียนร้านค้าพาณิชย์ ตัวพื้นที่เช่าร้านจดทะเบียนในนามมูลนิธิ คือพูดง่ายๆว่าเป็นพื้นที่มูลนิธิ ที่มาอาศัยขายของ

เรื่องวัตถุดิบของทางร้าน แม่ครัวสามารถสรรรหาจัดซื้อได้เองอิสระไม่จำกัดงบประมาณค่ะ เรื่องคำนวนจดบันทึกบัญชีรายรับ-รายจ่าย แม่ครัวดูแลเองทำเองทุกอย่าง แต่หัวหน้ามูลนิธิตั้งกฎว่า"ต้องแจ้งบัญชีตัวเลขยอดขาย" (เพราะเจ้าของมูลนิธิเขาอยากรู้สถิติ ยอดขายสินค้า ว่ายอดจำหน่ายอาหารสุขภาพประจำมากขึ้นแค่ไหนต่อปี พวกกลุ่มสินค้ารักสุขภาพเขาจะเอาสถิติข้อมูลไปทำการตลาด โปรโมตสินค้าต่อไปค่ะ)

คราวนี้ปัญหาร้านนี้มี 2 ประเด็น คือ
1.ปัญหา พนักงานแม่ครัวร้านนี้ เขา"ไม่สะดวกใจที่จะ"แจ้งบัญชีตัวเลขยอดขาย" เพราะคิดว่าการขายของร้านเองไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้ามูลนิธิ เพราะเขาก็จัดซื้อวัตุดิบเอง รวมถึงคุมเรื่องแรงงานทำอาหารเอง ทางร้านไม่ได้เบิกวัตถุดิบหรืองบประมาณอะไรกับส่วนกลางของมูลนิธิ

2.ปัญหา รายได้หน้าร้านไม่พอกับค่าเช่าพื้นที่มูลนิธิ
ปกติพื้นที่ตรงส่วนมูลนิธิจะมีลูกศิษย์ญาติธรรมมาฟังการบรรยายธรรมและช่วยกันออกเงินทำบุญค่าเช่าพื้นที่มูลนิธิค่ะ(รายได้ส่วนค่าเช่าร้านจึงน้อยบ้าง เยอะบ้างไม่แน่นอน)
ซึ่งผู้จัดการคนใหม่เขาจะไม่ยุ่งเรื่องเงินตรงส่วนนี้(แต่ก็มีช่วยออกเงินสมทบทำบุญค่าเช่าร้านให้บ้าง แต่ไม่ประจำทุกเดือน) ซึ่งรุ่นพี่คนรู้จักเราจะแก้ปัญหาค่าเช่าที่ ด้วยการขอเรี่ยไรจากมูลนิธิสาขาอื่นๆเพื่อขอช่วยเรื่องเงินค่าเช่าพื้นที่มูลนิธิสาขานี้(ซึ่งมูลนิธิสาขาอื่นๆเขาก็ดำเนินกิจการของเขา และไม่สะดวกใจจะให้เนื่องจากปัญหาที่1 คือรุ่นพี่ไม่แจ้งตัวเลขยอดขายหน้าร้านต่อเดือน)

3.เนื่องจากเป็นธุรกิจดำเนินงานภายใต้ในนามมูลนิธิ เราไม่แน่ใจเรื่องการขอสินเชื่อธุรกิจ ว่าสามารถแยกจดประเภทธุรกิจร้านอาหารเพื่อขอสินเชื่อมาทำร้านอาหารได้ไหม? รบกวนผู้รู้ชี้แนะค่ะ


เพี้ยนสวัสดี
มองในแง่มุมของคนทำธุรกิจ อยากได้ความเห็นจากคนทำธุรกิจร้านอาหาร และเพื่อนๆที่ทานอาหารเพื่อสุขภาพประจำด้วยค่ะ

ถ้าเป็นเพื่อนๆจะมีกลยุทธ์อะไรให้ร้านไปต่อได้บ้างในช่วงเศรษฐกิจเงินเฟ้อแบบนี้ ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่