เต้รีบวิ่งออกจากหอพักแล้วลัดเลาะตามซอยแล้วโผล่ออกจากซอยไปอย่างเร็วจนกระทั่งไปยืนอยู่ตรงหน้าบ้านหลังนั้นอีกครั้ง
เต้ : เอ๊ะ! รถแลมโบกินีสีเหลืองคันนั้นหายไปไหนวะ?
เต้ยืนงงอยู่หน้าบ้านแล้วหันซ้ายหันขวาตรวจดูสถานการณ์อีกครั้ง
เต้ : คงไม่มีอะไรมารบกวนแล้วนะ
เต้ยืนวอร์มร่างกายอยู่สักครู่
เต้ : เอาวะ ลุย!
เต้หันซ้ายหันขวาอีกรอบจึงค่อย ๆ ปีนขึ้นบนประตูหน้าบ้านหลังนั้น
เต้หันซ้ายหันขวาดูสถานการณ์อีกที
เต้ : โอเค ทางสะดวก
เต้กึ่งเดินกึ่งย่องเข้าไปในบ้านจนกระทั่งไปยังประตูไม้สีน้ำตาลจึงบิดลูกประตูปรากฏว่าถูกล๊อคจากข้างใน
เต้เดินถอยออกมาจากประตูแล้วหันซ้ายหันขวาจึงพบว่ามีกระจกหน้าต่างบานใหญ่อยู่ 2 บาน
เต้คิดว่าถ้าเอามือชกกระจกจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บที่มือแน่นอน จึงตัดสินใจเลือกกลับไปที่ประตูไม้แล้วเอามือทั้ง 2 ข้างล้วงในกระเป๋าจนกระทั่งพบลวดหนีบกระดาษ 2 เส้นอยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างซ้าย
เต้หยิบลวดหนีบกระดาษ 2 เส้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วคลี่เป็นเส้นยาวลงมือไขประตูจนสะเดากลอนออก
แกร๊ก!!
จากนั้นเต้ค่อย ๆ จับลูกบิดแล้วเลื่อนออกไปอย่างช้า ๆ เดินดุ่ม ๆ เข้าไปข้างในพบว่าภายในบ้านปิดไฟมืดสนิท ตรงหน้าเป็นที่รับแขก มีทีวี , โซฟา , โต๊ะรับรอง มีพัดลม แอร์ติดบนเพดาน ทางขวามือจะเป็นบันไดขึ้นไปชั้น 2 ถัดไปก็จะเป็นห้องเก็บของและทางเดินเข้าไปในห้องครัวตามลำดับ รอบผนังจะมีรูปภาพงานศิลปะและมีรูปปั้นตั้งโชว์อยู่ตามเสาจนกระทั่งตาของเต้ไปสะดุดที่เครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ เครื่องเงินหลายชิ้นที่ตั้งอยู่บนชั้นวางทางซ้ายมือของเขา
เต้ :เจอแล้ว ลาภปากแล้วกู
เต้เห็นจึงเดินย่องไปในห้องเก็บของแล้วรื้อของจนเจอกับถุงผ้าผืนใหญ่ 1 ผืนจึงหยิบออกมาวางไว้บนโต๊ะ
เต้ : ฝากไว้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่ขอขึ้นไปดูบนชั้น 2 ก่อนแล้วค่อยมาเก็บพวกเราทีหลัง
เต้พูดจบจึงเดินย่องขึ้นบันไดจนขึ้นมาถึงชั้น 2 ก็เจอกับทาง 3 แยก ซ้ายมือคงจะเป็นห้องนอนถัดมาเป็นห้องน้ำ ตรงหน้าจะเป็นประตูห้องนอนแล้วถัดไปตรงหน้าไอ้เต้จะเป็นทางเดินยาวเพื่อออกไปบนระเบียง ทางขวามือจะเป็นห้องน้ำและสุดทางเดินคิดว่าน่าจะเป็นห้องนอน
เต้ : เอาห้องนี้ละกัน
เต้เดินดุ่ม ๆ ไปที่ห้องนอนทางซ้ายมือเอามือจับลูกบิดค่อย ๆ หมุนเปิดเข้าไปจนเจอกับ หญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดสายเดี่ยวผ้าแพรสีเนื้อยาวนอนหลับอยู่บนเตียง
เต้ : เฮ้ย! มีคนอยู่ในบ้านนี่?
เต้มองไปทางขวามือจะเป็นโต๊ะกระจกเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า มีพัดลมหมุนบนเพดาน มีแอร์ติดบนผนัง ที่หน้าต่างมีโต๊ะวางโคมไฟและที่เคี่ยบุหรี่ตรงหน้าเธอ เต้มองดูหญิงสาวที่นอนอยู่ตรงหน้าจึงค่อย ๆ คลานบนเตียงอย่างช้า ๆ
เต้ : อื้อหือ เอาสักหน่อยวะ?
เต้ ค่อย ๆ เอามือลูบผมของหญิงสาวแล้วไล่ไปอย่างช้า ๆ จนเห็นใบหน้าเต็ม ๆ ของเธอจนเขาตกใจขึ้นมา
เต้ : นี่.น้องมาริสา ที่เราเพิ่งฝันไปเมื่อกี๊นี่หว่า!
เต้คิดกับตัวเองอยู่ว่าจะทำอย่างไรกับหญิงสาวที่สวยอย่างกับนางฟ้านอนตรงหน้า ส่วนตัวเขาเป็นเพียงไอ้ยาจกที่เอาแต่เห่าเครื่องบินฝันลม ๆ แล้ง ๆ ไปวัน ๆ แถมกลิ่นตัวของเธอช่างหอมเย้ายวนใจยิ่งนัก
เต้ : อื้มมม ขาว สวย เหมือนกับในฝันไม่มีผิด
เต้สูดกลิ่นไประหว่างที่คิดอยู่สายตาของเต้ไปสังเกตเห็นแหวนที่มือข้างซ้ายของเธอแวววับเปล่งประกายล่อตาล่อใจมาก
เต้ : ใส่ของแพงซะด้วย ถ้าตีราคาก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 2 ล้าน
เต้คิดกับตัวเองอย่างหนัก
เต้ : ไอ้โน้นก็อยาก อันนี้ก็อยาก เอาไงดีวะเนี่ยกู?
เต้คิดกับตัวเองอยู่สักครู่
เต้ : เอาทั้งหมดนี่แหละ ก่อนอื่นขอเริ่มจากนี่ก่อน
ด้วยความไวของปีศาจเต้จึงตัดสินใจใช้ลิ้นเลียไปที่หน้าของหญิงสาวอย่างช้า ๆ เสร็จแล้วเอามือข้างขวาสอดไปใต้ผ้าห่มแล้วลูบต้นขาของเธออย่างช้า ๆ
เต้ : ผิวของเธอช่างนุ่มนวลเหลือเกิน
ระหว่างที่เต้กำลังใช้มือเล้าโลมพร้อมกับก้มหน้าลงไล่จูบไปที่แขนข้างขวาของเธออยู่นั้น มาริสาที่กำลังหลับอยู่รู้สึกว่ามีอะไรมาลูบไล้ตามตัวของเธอจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาดู
มาริสา : อ๊ะ..!
มาริสาจะกรี๊ดออกมาเต้เห็นถึงกับตกใจจึงรีบเอามือซ้ายมาปิดปากเธออย่างเร็วพร้อมกับชักมีดพับออกมาจากกระเป๋ากางเกง
เต้ : ชู่ว! อย่าส่งเสียง ถ้าไม่อย่าเจ็บตัวแค่ส่งของมีค่ามาให้หมดแค่นั้นก็พอ เข้าใจมั้ย?
มาริสาพยักหน้าแล้วส่งเสียงอู้อี้ ๆ ออกมาในลำคอ
เต้ : พูดพึมพำอะไรวะ ?
มาริสา: ก็ได้ ฉันยอม อย่าทำอะไรฉันเลย
เต้ : ได้
มาริสา : งั้น..ขอให้ฉันลุกขึ้นไปใส่เสื้อคลุมก่อนจะได้มั้ย?
เต้ : ก็ได้ แต่อย่าเล่นอะไรตุกติกล่ะ?
เต้ ค่อย ๆ ลุกจากตัวของมาริสาไปแล้วหันไปมองทางโต๊ะเครื่องแป้ง มาริสาเหลือบมองเห็นว่าเต้มองไปทางอื่นจึงสบโอกาสหยิบที่เคี่ยบุหรี่ที่วางบนโต๊ะข้างเตียงฟาดไปที่หัวของเต้จนนอนหงายลงจากเตียง
เปรี้ยง!!
เต้ : โอ๊ย!!
เต้นอนล้มลงพร้อมกับเลือดไหลออกจากหัว มาริสาได้โอกาสจึงรีบวิ่งออกจากห้อง
เต้ ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบมีดที่หล่นลงพื้นตะโกนออกไปอย่างเกรี้ยวกราด
เต้ : หน็อย! จะหนีไปไหน?
เต้พูดจบรีบวิ่งตามไปทันที
มาริสารีบวิ่งลงบันไดจนใกล้จะถึงพื้นชั้น 1 ห่างกันเพียงแค่ 3 ขั้น จู่ ๆ เธอดันสะดุดขาตัวเองเข้าจนหน้าลงไปฟาดกับพื้น
มาริสา : โอ๊ย!!
เต้ได้ยินเสียงร้องจึงรีบวิ่งลงมาเห็นมาริสานอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นจึงรีบทิ้งมีดไปข้าง ๆ แล้วพลิกหงายเห็นใบหน้าของมาริสาที่กำลังสะลึมสะลือจากการล้มโดยมีเลือดไหลอยู่บนหน้าผากและจมูก
เต้ : มองหน้าฉัน
จากนั้นเต้ใช้มือทั้ง 2 ข้างบีบไปที่คอของมาริสา
เต้ : ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอ แต่พอฉันเห็นหน้าสวย ๆ ของเธอในภาพโปสเตอร์นั่น มันทำให้ฉันรู้ตัวเลยว่าฉันแอบชอบเธอขึ้นมาถึงขั้นเคยแอบตามไปดูเธอถ่ายแบบตามที่ต่าง ๆ แต่ละภาพของเธอมันทั้งติดตาและติดใจจนอดใจไม่ไหวทุกครั้งที่คิดถึงเธอ
เต้พูดพล่ามไปบีบคอของมาริสาราวกับคนบ้าไปในขณะที่เธอนอนชักตาเหลือกอยู่กับที่
เต้ : แต่คนอย่างเธอไม่เข้าใจหรอกว่าความจนมันน่ากลัวแค่ไหน ในโลกที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำจากความเฮงซวยของระบบกับไอ้โควิดนั่นที่กดขี่ให้คนจนอย่างฉันต้องดิ้นรน คนรวยอย่างเธอแค่ถ่ายรูปแก้ผ้าก็ได้เงินมาง่าย ๆ แล้ว รู้มั้ยกว่าฉันจะได้เงินมาสักบาทมันยากเย็นแค่ไหน ?
มาริสา : อ้อก ! อยากได้อะไรก็เอาไป ขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะ
เต้ : ในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันก็คงไม่มีทางเลือกอื่นแล้วละ
เต้พูดจบจึงบีบคอพร้อมกับเขย่าหัวของมาริสาอย่างเร็ว ๆ จนไปกระแทกกับพื้นไปแล้วเอาปากจูบไปที่ปากของมาริสาอย่างดูดดื่ม
มาริสา : อ้อก ๆ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอร้อง
เต้ : อโหสิให้ฉันด้วยเถอะนะ
มาริสาที่กำลังนอนดิ้นทุรนทุรายชักดิ้นชักงออยู่จนกระทั่งสิ้นลมหายใจลง
เต้รู้สึกตัวอีกทีถึงกับตกใจยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นมาทันที
เต้ : เฮ้ย!!
เต้เอามือทั้ง 2 ข้างเขย่าตัวมาริสาพร้อมกับเอานิ้วชี้ข้างขวาแนบที่ใต้จมูก
เต้ : เหวอ!! ซวยแล้วกู
เต้ลุกขึ้นยืนช็อกกับร่างของหญิงสาวที่นอนแน่นิ่งอยู่สักพักจนเดินไปหยิบผ้าถุงที่ตั้งอยู่บนโต๊ะรับรองแล้วไปหยิบเครื่องประดับของมีค่าบนชั้นวางใส่ถุง
เต้ : ช่าง
! รีบขนของพวกนี้ให้หมดแล้วรีบเผ่นไปจากนี่ดีกว่า
ขณะที่เต้เก็บของมีค่าใส่ถุง จู่ ๆ มีเสียงประตูเปิดเข้ามา
เป็นชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูมองร่างของมาริสาที่นอนอยู่หน้าบันไดแล้วพูดออกมาด้วยความตกใจ
สา!!
เต้ตกใจกับเสียงที่ดังมาจากข้างหลังจึงหันไปมองปรากฏว่าชายคนนั้นคือ เฮียกัง เจ้าหนี้ของเขา นั่นเอง
เฮียกังหันมามองทางเต้แล้วชี้นิ้วใส่หน้า
เฮียกัง : เฮ้ย! ไอ้เต้!
เฮียกังเห็นเต้ยืนชะงักอยู่กับที่พร้อมกับถุงใส่เครื่องประดับวางอยู่ข้าง ๆ เขา
เฮียกัง : นี่...กล้าบุกเข้ามาขโมยของในบ้านกูเลยเหรอวะ?
เต้ตกใจยกถือถุงผ้าขึ้นเตรียมจะรีบวิ่งออกไปทางประตูแต่ถูกเฮียกังชักปืนออกมาจากเอวแล้วตบเข้าไปที่หน้าเต้จนนอนหงายลงกับพื้น
ผลัวะ!
เฮียกัง : จะไปไหน?
เฮียกังเดินไปเตะที่ตัวของเต้ที่นอนขดตัวกับพื้นพร้อมกับกระทืบรัว ๆ ไป 7 ครั้ง
เฮียกัง : หน็อย ไอ้กระจอก! ติดหนี้กูไม่พอยังจะกล้ามาขโมยของในบ้านกูแล้วยังทำร้ายน้องสาของกูอีก นี่มันแน่มาก
เฮียกังพูดจบแล้วค่อย ๆ นั่งคร่อมบนตัวเต้พร้อมกับเอามือชกเข้าที่หน้าไป 6 ครั้ง จากนั้นจึงยกปืนขึ้นมาจ่อหน้าเต้ที่กำลังนอนสะลึมสะลืออยู่
เฮียกัง : กูว่ากูคงจะเหลืออดกับเต็มทีแล้ว
กริ๊ก!
ระหว่างที่เฮียกังพูดขู่อยู่ มือของเต้ค่อย ๆ เอื้อมไปที่ถุงแล้วล้วงเข้าไปในถุงคลำอะไรบางอย่างจนกระทั่งเจอกับวัตถุมงคลสีทองขนาดใหญ่ชิ้นหนึ่ง ในระหว่างที่เฮียกังกำลังจะกดไปที่ไกปืนเตรียมจะยิง
เฮียกัง : ตายซะเถอะ!
เต้ได้จังหวะจึงหยิบวัตถุมงคลออกมาฟาดเข้าไปที่หัวของเฮียกังอย่างแรงจนนอนหงายไปกับพื้นพร้อมกับเสียงจากปืนที่ลอยกระเด็นออกจากมือดังขึ้น 1 นัด
ผลัวะ!!
ปัง!!
ทั้ง 2 ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากกระสุน เจาะทะลุไปโดนผนังของบ้าน เต้ ค่อย ๆ พลิกตัวแล้วลุกขึ้นนั่งคร่อมบนตัวของเฮียกัง
เต้ : เหอ ๆ ตากูบ้างล่ะ
เต้พูดจบลงก็ได้ลงมือชกไปที่หน้าของเฮียกังรัว ๆ 8 ครั้งจนสาแก่ใจ
เต้ : เล่นกับกูไว้เยอะ โดนเองบ้างรู้สึกยังไง?
เฮียกัง : กระจอกอย่างจะทำอะไรกู ?
เต้ : จะตายอยู่แล้วยังจะปากดีอีก ไอ้ธุรกิจสวะของมันหากินกับความจนของคน มันคือเชื้อโรคที่เกาะกินคนจน ๆ อย่างพวกกู
เฮียกัง : เพ้อเจ้ออะไรของ? กูทำเพื่อเงินเว้ย อย่างอื่นกูไม่สน ไม่ต้องทำเป็นพูดจาโลกสวยกับกูหรอก ใคร ๆ ทำกันทั้งนั้นไม่ทำก็อดตายเหมือนไง อีกอย่างมันโง่เองที่มาหากูแล้ว
ติดหนี้กูอีก ทำตัวเองทั้งนั้น
เต้ได้ฟังถึงขั้นโมโหจึงใช้มือขวาชกไปที่หน้าเฮียกังอีก 2 ครั้ง
ผลัวะ
เต้ : ก็ถูกของ กูพล่ามอะไรไปคงไม่เข้าใจหรอก เพราะมันจิตใจชั่วช้าสารเลวยิ่งกว่าหมา
เฮียกังได้ยินแล้วถ่มเลือดใส่หน้าของเต้เต็ม ๆ
เฮียกัง : ไปตายซะ
เฮียกังพูดจบแล้วหัวเราะออกมา
เต้เอามือซ้ายเช็ดคราบเลือดที่ติดอยู่บนหน้า
เต้ : เดี๋ยวจัดให้
เต้พูดจบจึงหยิบวัตถุมงคลขึ้นมาแล้วทุบไปที่หน้าเฮียกังรัว ๆ 10 ครั้งจนใบหน้าของเฮียกังเละตุ้มเป๊ะไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
เต้ : ตายซะได้ก็ดี สะใจโว้ย!
เต้ลงมือฆ่าเฮียกังเสร็จจึงลุกขึ้นยืนแล้วถ่มน้ำลายใส่ร่างเฮียกังอีก 1 ครั้ง
เต้ : อยากได้หนี้ก็ไปตามทวงในนรกละกัน
จากนั้นจึงเดินไปเก็บวัตถุมงคลใส่ในถุงผ้าแล้วเดินออกไปที่ประตู
จู่ ๆ เต้รู้สึกว่ามีอะไรแหลม ๆ ทิ่มลงไปกลางหลังจนลึกแล้วถูกดึงออกจากตัวเขาอย่างช้า ๆ
เต้ : อะไรวะ?
เต้หันไปมองข้างหลังปรากฏว่าเป็น มาริสา ยืนจ้องหน้าพร้อมกับถือมีดอยู่ที่มือขวา เต้ถึงกับตกใจจนถุงผ้าที่ถืออยู่หล่นไปกับพื้น
เต้ : นี่....เธอยังไม่ตายเหรอ?
มาริสาตอบกลับด้วยความโกรธแค้น
มาริสา : เออ! กูยังไม่ตาย แต่เป็นนี่แหละ!
พูดจบมาริสาใช้มีดแทงไปที่ท้องของเต้รัว ๆ 10 ครั้งจนนอนหงายลงไปกับพื้น
เต้ ค่อย ๆ ล้มตัวลงไปนอนกับพื้นพร้อมกับมีเลือดออกจากปาก ส่วนแผลที่ท้องค่อย ๆ ไหลทั่วพื้นคอนกรีตลายหินอ่อนสีขาวเป็นสายน้ำหายใจรวยรินแล้วพูดต่อหน้ามาริสาที่กำลังนั่งคร่อมบนตัว
เต้: ขอ...โทษ....
ไม่ทันได้พูดจบประโยค มาริสาใช้มีดปาดคอเต้จนเลือดพุ่งกระฉูดเต็มหน้ามาริสาจนกระทั่งนอนหงายลงไปกับพื้น
มาริสา : ไอ้โรคจิต
มาริสาพูดจบจึงเดินไปหยิบผ้าที่วางพาดอยู่บนโซฟาแล้วเช็ดคราบเลือดทั่วใบมีดอยู่นั้น สายตาของเธอหันไปเห็นศพเฮียกังที่นอนอยู่อีกฝั่ง
มาริสา : เอ๊ะ! นี่มัน เฮียกังนี่
มาริสาค่อย ๆ เดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็ปรากฎว่าเป็นศพเฮียกังนอนหงายในสภาพหน้าเละไม่เป็นท่า
มาริสา : ตายซะได้ก็ดี วันๆ เอาแต่ข่มขืนกูทำร้ายกู ไอ้บ้ากาม
มาริสาพูดจาเย้ยหยันใส่เสร็จจึงยืนคิดอยู่สักพัก
มาริสา : เราจะทำยังไงดีกับศพพวกนี้นะ?
มาริสานึกขึ้นได้จึงเดินไปเอาผ้าคลุมมีดไว้แล้วไปใส่ในมือข้างขวาของเฮียกังแล้วเอาผ้าออกด้วยความขยะแขยง จากนั้นเธอมองดูศพเต้ที่นอนเลือดไหลอยู่อีกฝั่งด้วยสีหน้ารังเกียจแล้วเดินข้ามไปหยิบปืนที่วางอยู่ข้าง ๆ เอาผ้าเช็ดด้ามปืนแล้วนำไปใส่ในมือเต้
มาริสา : เรียบร้อย
จากนั้นเธอจึงเดินไปที่โทรศัพท์ยกหูโทรหาตำรวจด้วยน้ำเสียงสะอื้น
ตรู๊ด ๆ ๆ ๆ
ตำรวจ : 911 สายด่วน ยินดีรับแจ้งเหตุ 24 ชั่วโมง มีอะไรให้ช่วยเหลือค่ะ?
มาริสา : คุณตำรวจ ช่วยด้วยค่ะ! มีคนฆ่ากันตายในบ้านดิฉันค่ะ
จบ
[CR] Love Or Thief : ปล้น (รัก) ทรัพย์ = เรื่องสั้นตอนเดียวจบของผมครับ 3/3
เต้รีบวิ่งออกจากหอพักแล้วลัดเลาะตามซอยแล้วโผล่ออกจากซอยไปอย่างเร็วจนกระทั่งไปยืนอยู่ตรงหน้าบ้านหลังนั้นอีกครั้ง
เต้ : เอ๊ะ! รถแลมโบกินีสีเหลืองคันนั้นหายไปไหนวะ?
เต้ยืนงงอยู่หน้าบ้านแล้วหันซ้ายหันขวาตรวจดูสถานการณ์อีกครั้ง
เต้ : คงไม่มีอะไรมารบกวนแล้วนะ
เต้ยืนวอร์มร่างกายอยู่สักครู่
เต้ : เอาวะ ลุย!
เต้หันซ้ายหันขวาอีกรอบจึงค่อย ๆ ปีนขึ้นบนประตูหน้าบ้านหลังนั้น
เต้หันซ้ายหันขวาดูสถานการณ์อีกที
เต้ : โอเค ทางสะดวก
เต้กึ่งเดินกึ่งย่องเข้าไปในบ้านจนกระทั่งไปยังประตูไม้สีน้ำตาลจึงบิดลูกประตูปรากฏว่าถูกล๊อคจากข้างใน
เต้เดินถอยออกมาจากประตูแล้วหันซ้ายหันขวาจึงพบว่ามีกระจกหน้าต่างบานใหญ่อยู่ 2 บาน
เต้คิดว่าถ้าเอามือชกกระจกจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บที่มือแน่นอน จึงตัดสินใจเลือกกลับไปที่ประตูไม้แล้วเอามือทั้ง 2 ข้างล้วงในกระเป๋าจนกระทั่งพบลวดหนีบกระดาษ 2 เส้นอยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างซ้าย
เต้หยิบลวดหนีบกระดาษ 2 เส้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วคลี่เป็นเส้นยาวลงมือไขประตูจนสะเดากลอนออก
แกร๊ก!!
จากนั้นเต้ค่อย ๆ จับลูกบิดแล้วเลื่อนออกไปอย่างช้า ๆ เดินดุ่ม ๆ เข้าไปข้างในพบว่าภายในบ้านปิดไฟมืดสนิท ตรงหน้าเป็นที่รับแขก มีทีวี , โซฟา , โต๊ะรับรอง มีพัดลม แอร์ติดบนเพดาน ทางขวามือจะเป็นบันไดขึ้นไปชั้น 2 ถัดไปก็จะเป็นห้องเก็บของและทางเดินเข้าไปในห้องครัวตามลำดับ รอบผนังจะมีรูปภาพงานศิลปะและมีรูปปั้นตั้งโชว์อยู่ตามเสาจนกระทั่งตาของเต้ไปสะดุดที่เครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ เครื่องเงินหลายชิ้นที่ตั้งอยู่บนชั้นวางทางซ้ายมือของเขา
เต้ :เจอแล้ว ลาภปากแล้วกู
เต้เห็นจึงเดินย่องไปในห้องเก็บของแล้วรื้อของจนเจอกับถุงผ้าผืนใหญ่ 1 ผืนจึงหยิบออกมาวางไว้บนโต๊ะ
เต้ : ฝากไว้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่ขอขึ้นไปดูบนชั้น 2 ก่อนแล้วค่อยมาเก็บพวกเราทีหลัง
เต้พูดจบจึงเดินย่องขึ้นบันไดจนขึ้นมาถึงชั้น 2 ก็เจอกับทาง 3 แยก ซ้ายมือคงจะเป็นห้องนอนถัดมาเป็นห้องน้ำ ตรงหน้าจะเป็นประตูห้องนอนแล้วถัดไปตรงหน้าไอ้เต้จะเป็นทางเดินยาวเพื่อออกไปบนระเบียง ทางขวามือจะเป็นห้องน้ำและสุดทางเดินคิดว่าน่าจะเป็นห้องนอน
เต้ : เอาห้องนี้ละกัน
เต้เดินดุ่ม ๆ ไปที่ห้องนอนทางซ้ายมือเอามือจับลูกบิดค่อย ๆ หมุนเปิดเข้าไปจนเจอกับ หญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดสายเดี่ยวผ้าแพรสีเนื้อยาวนอนหลับอยู่บนเตียง
เต้ : เฮ้ย! มีคนอยู่ในบ้านนี่?
เต้มองไปทางขวามือจะเป็นโต๊ะกระจกเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า มีพัดลมหมุนบนเพดาน มีแอร์ติดบนผนัง ที่หน้าต่างมีโต๊ะวางโคมไฟและที่เคี่ยบุหรี่ตรงหน้าเธอ เต้มองดูหญิงสาวที่นอนอยู่ตรงหน้าจึงค่อย ๆ คลานบนเตียงอย่างช้า ๆ
เต้ : อื้อหือ เอาสักหน่อยวะ?
เต้ ค่อย ๆ เอามือลูบผมของหญิงสาวแล้วไล่ไปอย่างช้า ๆ จนเห็นใบหน้าเต็ม ๆ ของเธอจนเขาตกใจขึ้นมา
เต้ : นี่.น้องมาริสา ที่เราเพิ่งฝันไปเมื่อกี๊นี่หว่า!
เต้คิดกับตัวเองอยู่ว่าจะทำอย่างไรกับหญิงสาวที่สวยอย่างกับนางฟ้านอนตรงหน้า ส่วนตัวเขาเป็นเพียงไอ้ยาจกที่เอาแต่เห่าเครื่องบินฝันลม ๆ แล้ง ๆ ไปวัน ๆ แถมกลิ่นตัวของเธอช่างหอมเย้ายวนใจยิ่งนัก
เต้ : อื้มมม ขาว สวย เหมือนกับในฝันไม่มีผิด
เต้สูดกลิ่นไประหว่างที่คิดอยู่สายตาของเต้ไปสังเกตเห็นแหวนที่มือข้างซ้ายของเธอแวววับเปล่งประกายล่อตาล่อใจมาก
เต้ : ใส่ของแพงซะด้วย ถ้าตีราคาก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 2 ล้าน
เต้คิดกับตัวเองอย่างหนัก
เต้ : ไอ้โน้นก็อยาก อันนี้ก็อยาก เอาไงดีวะเนี่ยกู?
เต้คิดกับตัวเองอยู่สักครู่
เต้ : เอาทั้งหมดนี่แหละ ก่อนอื่นขอเริ่มจากนี่ก่อน
ด้วยความไวของปีศาจเต้จึงตัดสินใจใช้ลิ้นเลียไปที่หน้าของหญิงสาวอย่างช้า ๆ เสร็จแล้วเอามือข้างขวาสอดไปใต้ผ้าห่มแล้วลูบต้นขาของเธออย่างช้า ๆ
เต้ : ผิวของเธอช่างนุ่มนวลเหลือเกิน
ระหว่างที่เต้กำลังใช้มือเล้าโลมพร้อมกับก้มหน้าลงไล่จูบไปที่แขนข้างขวาของเธออยู่นั้น มาริสาที่กำลังหลับอยู่รู้สึกว่ามีอะไรมาลูบไล้ตามตัวของเธอจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาดู
มาริสา : อ๊ะ..!
มาริสาจะกรี๊ดออกมาเต้เห็นถึงกับตกใจจึงรีบเอามือซ้ายมาปิดปากเธออย่างเร็วพร้อมกับชักมีดพับออกมาจากกระเป๋ากางเกง
เต้ : ชู่ว! อย่าส่งเสียง ถ้าไม่อย่าเจ็บตัวแค่ส่งของมีค่ามาให้หมดแค่นั้นก็พอ เข้าใจมั้ย?
มาริสาพยักหน้าแล้วส่งเสียงอู้อี้ ๆ ออกมาในลำคอ
เต้ : พูดพึมพำอะไรวะ ?
มาริสา: ก็ได้ ฉันยอม อย่าทำอะไรฉันเลย
เต้ : ได้
มาริสา : งั้น..ขอให้ฉันลุกขึ้นไปใส่เสื้อคลุมก่อนจะได้มั้ย?
เต้ : ก็ได้ แต่อย่าเล่นอะไรตุกติกล่ะ?
เต้ ค่อย ๆ ลุกจากตัวของมาริสาไปแล้วหันไปมองทางโต๊ะเครื่องแป้ง มาริสาเหลือบมองเห็นว่าเต้มองไปทางอื่นจึงสบโอกาสหยิบที่เคี่ยบุหรี่ที่วางบนโต๊ะข้างเตียงฟาดไปที่หัวของเต้จนนอนหงายลงจากเตียง
เปรี้ยง!!
เต้ : โอ๊ย!!
เต้นอนล้มลงพร้อมกับเลือดไหลออกจากหัว มาริสาได้โอกาสจึงรีบวิ่งออกจากห้อง
เต้ ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบมีดที่หล่นลงพื้นตะโกนออกไปอย่างเกรี้ยวกราด
เต้ : หน็อย! จะหนีไปไหน?
เต้พูดจบรีบวิ่งตามไปทันที
มาริสารีบวิ่งลงบันไดจนใกล้จะถึงพื้นชั้น 1 ห่างกันเพียงแค่ 3 ขั้น จู่ ๆ เธอดันสะดุดขาตัวเองเข้าจนหน้าลงไปฟาดกับพื้น
มาริสา : โอ๊ย!!
เต้ได้ยินเสียงร้องจึงรีบวิ่งลงมาเห็นมาริสานอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นจึงรีบทิ้งมีดไปข้าง ๆ แล้วพลิกหงายเห็นใบหน้าของมาริสาที่กำลังสะลึมสะลือจากการล้มโดยมีเลือดไหลอยู่บนหน้าผากและจมูก
เต้ : มองหน้าฉัน
จากนั้นเต้ใช้มือทั้ง 2 ข้างบีบไปที่คอของมาริสา
เต้ : ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอ แต่พอฉันเห็นหน้าสวย ๆ ของเธอในภาพโปสเตอร์นั่น มันทำให้ฉันรู้ตัวเลยว่าฉันแอบชอบเธอขึ้นมาถึงขั้นเคยแอบตามไปดูเธอถ่ายแบบตามที่ต่าง ๆ แต่ละภาพของเธอมันทั้งติดตาและติดใจจนอดใจไม่ไหวทุกครั้งที่คิดถึงเธอ
เต้พูดพล่ามไปบีบคอของมาริสาราวกับคนบ้าไปในขณะที่เธอนอนชักตาเหลือกอยู่กับที่
เต้ : แต่คนอย่างเธอไม่เข้าใจหรอกว่าความจนมันน่ากลัวแค่ไหน ในโลกที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำจากความเฮงซวยของระบบกับไอ้โควิดนั่นที่กดขี่ให้คนจนอย่างฉันต้องดิ้นรน คนรวยอย่างเธอแค่ถ่ายรูปแก้ผ้าก็ได้เงินมาง่าย ๆ แล้ว รู้มั้ยกว่าฉันจะได้เงินมาสักบาทมันยากเย็นแค่ไหน ?
มาริสา : อ้อก ! อยากได้อะไรก็เอาไป ขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะ
เต้ : ในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันก็คงไม่มีทางเลือกอื่นแล้วละ
เต้พูดจบจึงบีบคอพร้อมกับเขย่าหัวของมาริสาอย่างเร็ว ๆ จนไปกระแทกกับพื้นไปแล้วเอาปากจูบไปที่ปากของมาริสาอย่างดูดดื่ม
มาริสา : อ้อก ๆ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอร้อง
เต้ : อโหสิให้ฉันด้วยเถอะนะ
มาริสาที่กำลังนอนดิ้นทุรนทุรายชักดิ้นชักงออยู่จนกระทั่งสิ้นลมหายใจลง
เต้รู้สึกตัวอีกทีถึงกับตกใจยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นมาทันที
เต้ : เฮ้ย!!
เต้เอามือทั้ง 2 ข้างเขย่าตัวมาริสาพร้อมกับเอานิ้วชี้ข้างขวาแนบที่ใต้จมูก
เต้ : เหวอ!! ซวยแล้วกู
เต้ลุกขึ้นยืนช็อกกับร่างของหญิงสาวที่นอนแน่นิ่งอยู่สักพักจนเดินไปหยิบผ้าถุงที่ตั้งอยู่บนโต๊ะรับรองแล้วไปหยิบเครื่องประดับของมีค่าบนชั้นวางใส่ถุง
เต้ : ช่าง! รีบขนของพวกนี้ให้หมดแล้วรีบเผ่นไปจากนี่ดีกว่า
ขณะที่เต้เก็บของมีค่าใส่ถุง จู่ ๆ มีเสียงประตูเปิดเข้ามา
เป็นชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูมองร่างของมาริสาที่นอนอยู่หน้าบันไดแล้วพูดออกมาด้วยความตกใจ
สา!!
เต้ตกใจกับเสียงที่ดังมาจากข้างหลังจึงหันไปมองปรากฏว่าชายคนนั้นคือ เฮียกัง เจ้าหนี้ของเขา นั่นเอง
เฮียกังหันมามองทางเต้แล้วชี้นิ้วใส่หน้า
เฮียกัง : เฮ้ย! ไอ้เต้!
เฮียกังเห็นเต้ยืนชะงักอยู่กับที่พร้อมกับถุงใส่เครื่องประดับวางอยู่ข้าง ๆ เขา
เฮียกัง : นี่...กล้าบุกเข้ามาขโมยของในบ้านกูเลยเหรอวะ?
เต้ตกใจยกถือถุงผ้าขึ้นเตรียมจะรีบวิ่งออกไปทางประตูแต่ถูกเฮียกังชักปืนออกมาจากเอวแล้วตบเข้าไปที่หน้าเต้จนนอนหงายลงกับพื้น
ผลัวะ!
เฮียกัง : จะไปไหน?
เฮียกังเดินไปเตะที่ตัวของเต้ที่นอนขดตัวกับพื้นพร้อมกับกระทืบรัว ๆ ไป 7 ครั้ง
เฮียกัง : หน็อย ไอ้กระจอก! ติดหนี้กูไม่พอยังจะกล้ามาขโมยของในบ้านกูแล้วยังทำร้ายน้องสาของกูอีก นี่มันแน่มาก
เฮียกังพูดจบแล้วค่อย ๆ นั่งคร่อมบนตัวเต้พร้อมกับเอามือชกเข้าที่หน้าไป 6 ครั้ง จากนั้นจึงยกปืนขึ้นมาจ่อหน้าเต้ที่กำลังนอนสะลึมสะลืออยู่
เฮียกัง : กูว่ากูคงจะเหลืออดกับเต็มทีแล้ว
กริ๊ก!
ระหว่างที่เฮียกังพูดขู่อยู่ มือของเต้ค่อย ๆ เอื้อมไปที่ถุงแล้วล้วงเข้าไปในถุงคลำอะไรบางอย่างจนกระทั่งเจอกับวัตถุมงคลสีทองขนาดใหญ่ชิ้นหนึ่ง ในระหว่างที่เฮียกังกำลังจะกดไปที่ไกปืนเตรียมจะยิง
เฮียกัง : ตายซะเถอะ!
เต้ได้จังหวะจึงหยิบวัตถุมงคลออกมาฟาดเข้าไปที่หัวของเฮียกังอย่างแรงจนนอนหงายไปกับพื้นพร้อมกับเสียงจากปืนที่ลอยกระเด็นออกจากมือดังขึ้น 1 นัด
ผลัวะ!!
ปัง!!
ทั้ง 2 ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากกระสุน เจาะทะลุไปโดนผนังของบ้าน เต้ ค่อย ๆ พลิกตัวแล้วลุกขึ้นนั่งคร่อมบนตัวของเฮียกัง
เต้ : เหอ ๆ ตากูบ้างล่ะ
เต้พูดจบลงก็ได้ลงมือชกไปที่หน้าของเฮียกังรัว ๆ 8 ครั้งจนสาแก่ใจ
เต้ : เล่นกับกูไว้เยอะ โดนเองบ้างรู้สึกยังไง?
เฮียกัง : กระจอกอย่างจะทำอะไรกู ?
เต้ : จะตายอยู่แล้วยังจะปากดีอีก ไอ้ธุรกิจสวะของมันหากินกับความจนของคน มันคือเชื้อโรคที่เกาะกินคนจน ๆ อย่างพวกกู
เฮียกัง : เพ้อเจ้ออะไรของ? กูทำเพื่อเงินเว้ย อย่างอื่นกูไม่สน ไม่ต้องทำเป็นพูดจาโลกสวยกับกูหรอก ใคร ๆ ทำกันทั้งนั้นไม่ทำก็อดตายเหมือนไง อีกอย่างมันโง่เองที่มาหากูแล้วติดหนี้กูอีก ทำตัวเองทั้งนั้น
เต้ได้ฟังถึงขั้นโมโหจึงใช้มือขวาชกไปที่หน้าเฮียกังอีก 2 ครั้ง
ผลัวะ
เต้ : ก็ถูกของ กูพล่ามอะไรไปคงไม่เข้าใจหรอก เพราะมันจิตใจชั่วช้าสารเลวยิ่งกว่าหมา
เฮียกังได้ยินแล้วถ่มเลือดใส่หน้าของเต้เต็ม ๆ
เฮียกัง : ไปตายซะ
เฮียกังพูดจบแล้วหัวเราะออกมา
เต้เอามือซ้ายเช็ดคราบเลือดที่ติดอยู่บนหน้า
เต้ : เดี๋ยวจัดให้
เต้พูดจบจึงหยิบวัตถุมงคลขึ้นมาแล้วทุบไปที่หน้าเฮียกังรัว ๆ 10 ครั้งจนใบหน้าของเฮียกังเละตุ้มเป๊ะไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
เต้ : ตายซะได้ก็ดี สะใจโว้ย!
เต้ลงมือฆ่าเฮียกังเสร็จจึงลุกขึ้นยืนแล้วถ่มน้ำลายใส่ร่างเฮียกังอีก 1 ครั้ง
เต้ : อยากได้หนี้ก็ไปตามทวงในนรกละกัน
จากนั้นจึงเดินไปเก็บวัตถุมงคลใส่ในถุงผ้าแล้วเดินออกไปที่ประตู
จู่ ๆ เต้รู้สึกว่ามีอะไรแหลม ๆ ทิ่มลงไปกลางหลังจนลึกแล้วถูกดึงออกจากตัวเขาอย่างช้า ๆ
เต้ : อะไรวะ?
เต้หันไปมองข้างหลังปรากฏว่าเป็น มาริสา ยืนจ้องหน้าพร้อมกับถือมีดอยู่ที่มือขวา เต้ถึงกับตกใจจนถุงผ้าที่ถืออยู่หล่นไปกับพื้น
เต้ : นี่....เธอยังไม่ตายเหรอ?
มาริสาตอบกลับด้วยความโกรธแค้น
มาริสา : เออ! กูยังไม่ตาย แต่เป็นนี่แหละ!
พูดจบมาริสาใช้มีดแทงไปที่ท้องของเต้รัว ๆ 10 ครั้งจนนอนหงายลงไปกับพื้น
เต้ ค่อย ๆ ล้มตัวลงไปนอนกับพื้นพร้อมกับมีเลือดออกจากปาก ส่วนแผลที่ท้องค่อย ๆ ไหลทั่วพื้นคอนกรีตลายหินอ่อนสีขาวเป็นสายน้ำหายใจรวยรินแล้วพูดต่อหน้ามาริสาที่กำลังนั่งคร่อมบนตัว
เต้: ขอ...โทษ....
ไม่ทันได้พูดจบประโยค มาริสาใช้มีดปาดคอเต้จนเลือดพุ่งกระฉูดเต็มหน้ามาริสาจนกระทั่งนอนหงายลงไปกับพื้น
มาริสา : ไอ้โรคจิต
มาริสาพูดจบจึงเดินไปหยิบผ้าที่วางพาดอยู่บนโซฟาแล้วเช็ดคราบเลือดทั่วใบมีดอยู่นั้น สายตาของเธอหันไปเห็นศพเฮียกังที่นอนอยู่อีกฝั่ง
มาริสา : เอ๊ะ! นี่มัน เฮียกังนี่
มาริสาค่อย ๆ เดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็ปรากฎว่าเป็นศพเฮียกังนอนหงายในสภาพหน้าเละไม่เป็นท่า
มาริสา : ตายซะได้ก็ดี วันๆ เอาแต่ข่มขืนกูทำร้ายกู ไอ้บ้ากาม
มาริสาพูดจาเย้ยหยันใส่เสร็จจึงยืนคิดอยู่สักพัก
มาริสา : เราจะทำยังไงดีกับศพพวกนี้นะ?
มาริสานึกขึ้นได้จึงเดินไปเอาผ้าคลุมมีดไว้แล้วไปใส่ในมือข้างขวาของเฮียกังแล้วเอาผ้าออกด้วยความขยะแขยง จากนั้นเธอมองดูศพเต้ที่นอนเลือดไหลอยู่อีกฝั่งด้วยสีหน้ารังเกียจแล้วเดินข้ามไปหยิบปืนที่วางอยู่ข้าง ๆ เอาผ้าเช็ดด้ามปืนแล้วนำไปใส่ในมือเต้
มาริสา : เรียบร้อย
จากนั้นเธอจึงเดินไปที่โทรศัพท์ยกหูโทรหาตำรวจด้วยน้ำเสียงสะอื้น
ตรู๊ด ๆ ๆ ๆ
ตำรวจ : 911 สายด่วน ยินดีรับแจ้งเหตุ 24 ชั่วโมง มีอะไรให้ช่วยเหลือค่ะ?
มาริสา : คุณตำรวจ ช่วยด้วยค่ะ! มีคนฆ่ากันตายในบ้านดิฉันค่ะ
จบ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้