7.5 ตอนที่ 26 เรื่อง Meeting point นิยายดีที่อยากแนะนำ

ตอนที่ 26 บันทึกดอกเตอร์ (วันพฤหัสบดี)


    อาเมดนอนหลับพักผ่อนด้วยอาการบาดเจ็บ เวลาผ่านเนิ่นนานเท่าไรไม่ทราบ ตนมารู้ตัวอีกทีเมื่อสายตาสัมผัสแสงบางอย่าง เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง ชายหนุ่มจึงลืมตาขึ้น พบจอร์นกำลังกระโดดอยู่ด้านหน้า เงาขาจอร์นบังแสง ทำให้สายตาของเขาสัมผัสเงามืดเงาสว่าง จนถูกปลุกขึ้น
“ตอนนี้กี่โมงแล้ว” อาเมดคิดในใจแล้วลุกขึ้นจากที่นอน พบเพื่อนทั้งหมดตื่นก่อนแล้ว ซาร่าและมิสซูกำลังเติมฟืนเพื่อทำอาหาร
“สบายดีไหมพวก ขานายเป็นไง” อดัมทักทาย

“มันดีขึ้นมากไม่ค่อยเจ็บ"

"พวกเราพบบางอย่างต้องบอกนาย” อดัมเหมือนพบอะไรบางสิ่ง ที่อยากให้เพื่อนร่วมชะตากรรมรับทราบด้วยเช่นกัน

“อะไร” อาเมดแปลกใจเกรงเพื่อนจะถามเรื่องภาพยนตร์ที่ฉายเมื่อวาน

“พวกเราพบบันทึกของดอกเตอร์ว่ะ ไอ้บ้านั้นสร้างสร้างสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมา”

“หะ” อาเมดไม่เชื่อหูตัวเอง

ซาร่าเดินเข้ามาหาแล้วยื่นสมุดบันทึกเล่มหนึ่งให้ อาเมดเปิดผ่านๆ จนกระทั่งพบหน้าหนึ่งซึ่งถูกเปิดบ่อยจากร่องรอยยับของกระดาษ


“วันนี้ประสบความสำหรับอีกครั้ง การตัดต่อยีนสามารถสร้างตัวใหม่ที่เกิดใหม่ให้เป็นหมันได้” 



“นายต้องอ่านบันทึกก่อนหน้านั้น” ซาร่าแนะนำ
อาเมดพลิกกลับไปหน้าก่อนหน้า พบบันทึกหน้าหนึ่งเขียนไว้ยาวสุด


“ผมสร้างปีศาจร้ายขึ้นมา ฉันหวังว่าพระเจ้าจะอภัยให้ผม” 
ประโยคแรกดูน่าสนใจ ทำให้อาเมดอ่านประโยคต่อไป



“แม้ตัวใหม่ที่ถูกตัดต่อยีนต์บางส่วนเข้าไป ทำให้เกิดมาสามารถสร้างภาพได้โดยไม่ต้องพึ่งไฟฟ้าจากแหล่งอื่น"
“แต่จากการสังเกตุ ตัวที่เกิดมาจะมีความดุร้ายและกัดกินพี่น้องสายพันธ์ุเดียวกัน” 
"กระทั่งเหลือตัวที่แข็งแรงที่สุด” 
“ดังนั้นผมจำเป็นต้องฆ่า เพื่อทดลองใหม่ ก่อนที่ความชั่วร้ายจะขยายพันธ์ุ"
"พระเจ้าอภัยให้ลูกด้วย” 

อาเมดมองประโยคสุดท้ายและเริ่มสนใจ จึงพลิกหน้าถัดไปส่วนใหญ่จะเขียนข้อความ
“ไม่ประสบความสำเร็จ” 

ตนพลิกไปเรื่อยจนเกินหน้าที่อ่านในช่วงแรก

“ผมตัดสินใจเลี้ยงตัวน้อย"
"โดยทำให้สัตว์ทดลองเป็นหมันถาวรได้สำเร็จ” 
“ผมคาดหวัง การเลี้ยงตั้งแต่เด็กจะทำให้มันเชื่อง"
"เหมือนเมวป่าที่ถูกเลี้ยงให้เป็นแมวบ้านด้วยเช่นกัน” 
“พระเจ้าอภัยให้ลูกด้วย” 


หลังจากนั้น ซาร่าเห็นอาเมดปิดสมุดลง “เธอไม่อ่านต่อเหรอ”

“โครงกระดูกนั้นคือคำตอบของการทดลอง เธอคิดไหม ซาตานนั้นมีมากกว่าหนึ่งตัว”

“ฉันไม่แน่ใจ แต่มันกินพี่น้องของมันจนเหลือตัวเดียว ฉันไม่รู้ดอกเตอร์จะสร้างกี่ตัว”

“พวกเราสรุปก่อนน่าจะมีตัวเดียว” มิสซูช่วยกันคิด

“ถ้าเราใครคนหนึ่งล่อมันไปทางอื่น พวกที่เหลือรีบหนีละ” อาเมดแนะนำ

“มันวิ่งเร็วมากไม่มีใครล่อมันได้นานขนาดนั้นหรอก” อดัมแสดงความคิดเห็น “คงไม่มีใครอยากตายหรอกนะ”

“ฉันล่อมันได้” อาเมดแนะนำ

“ไม่ได้นะครับ มันน่ากลัว” จอร์นร้องกระเชอเป็นห่วงพี่ชายอาเมด

ซาร่าย่อตัวลงกับพื้นเพื่อให้ตัวเองอยู่ระดับเดียวกับจอร์น “พวกเราจะไม่ทิ้งใครไว้ให้อยู่คนเดียวจ๊ะ พี่สัญญา”

“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” 
เสียงไซแนปร้องหน้าถ้ำ



“ฉันนึกออกแล้วมันมีจุดอ่อนที่จมูก” อาเมดพบทางแก้ไข

“แล้วจะให้ฉันเอากระดิ่งไปแขวนคอแมวเหรอ นายเห็นเหมือนที่ฉันเห็น ปืนไม่มีลูกกระสุนแล้ว” อดัมรู้สึกหัวเสีย

“พวกเราควรสำรวจถ้ำให้ทั่วก่อน ช่วยกันดู ตอนนี้พวกเราจะอยู่ได้กี่วัน” ทุกคนเห็นด้วยกับความคิดของมิสซู พยายามเดินสำรวจในแต่ละห้องอย่างละเอียด จนอาเมดพบบางอย่าง

“ไอ้นี้มันเป็นใบไม้รูปกรวย ดอกเตอร์ต้องเอามารองน้ำดื่มแน่ แสดงว่าในถ้ำต้องมีแหล่งน้ำ ไม่แน่พวกเราเจอทางออก”

มิสซูและซาร่าพบกรวยดังกล่าวดีใจ “กรวยใบไม้คือลำโพงแห่งป่า พูดผ่านลำโพงติดต่อคนไร้สีอื่นได้”

เธอทั้งสองคนเดินเข้าไปที่วางกราย พบใบไม้กรวยแตกต่างจากพวกเธอเคยเห็น มันกลายเป็นใบไม้เหลืองและดูกรอบบอบบางเหมือนใบไม้แห้ง หากถือไม่ระวังใบจะกรอบและแตกหักได้

“จอร์นช่วยพี่หน่อยสิจ๊ะ มันคืออะไร”

“ลำโพงแห่งป่าที่หมดอายุแล้วครับ”

คำพูดของเด็กไร้สีสร้างความผิดหวังอย่างที่สุด คนมีสีแสดงสีดำอย่างเสียใจสุดซึ้ง อดัมรู้สึกแย่กับสถานการณ์ที่ตนเองประสบจึงคว้ากรวยเหลืองแล้วพูดใส่ลำโพง “ไอ้ดอกเตอร์เฮงซวย”

ทั้งหมดสำรวจถ้ำอย่างละเอียดและพบว่ามีทางขึ้นไปด้านบนด้วย จึงพบทางออกทะลุภูเขาอีกด้าน

“ดอกเตอร์ท่านทำทางออกฉุกเฉินอีกด้าน สมกับเป็นดอกเตอร์” ซาร่าทึ่งกับความฉลาดของดอกเตอร์คนไร้สี

“ดอกเตอร์เฮงซวย ทำไปได้ไอ้ปีศาจตัวนั้น” อดัมรู้สึกไม่ดี ที่ดอกเตอร์ทำให้ตนและญาติผู้พี่ต้องลำบาก “เธอบอกว่าดอกเตอร์นั้นเป็นคนฉลาด ฉันไม่เห็นเรือบินสักลำ” อดัมไ่ม่พอใจที่ซาร่ายกย่องดอกเตอร์ซาตาน

ทั้งหมดมองและยืนออกันหน้าทางออกบนยอดถ้ำ พบเบื้องล่างเหมือนหน้าผาชัน ไม่มีทางที่มนุษย์จะปีนลงโดยไม่มีเครื่องมือใดๆ ช่วยเหลือ เท่าที่เห็นมีแต่ทางลงที่ลาดชัน ซึ่งกะด้วยสายตามีระยะทางที่ไกลมากด้วยเช่นกัน

“หมดกัน...ด้านหน้าเป็นสัตว์ประหลาด ด้านหลังเป็นภูเขาชัน ทางเดียวคืนต้องรอให้คนมาช่วยเท่านั้น” อดัมพยายามพูดให้ทุกคนอยู่กับที่จะดีกว่า

“แต่ฉันมีไอเดีย” อาเมดพูด

“เธอว่าอะไรนะ” มิสซูขานรับ

“ฉันรู้ เธอหมายถึงอะไร แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาทะเลาะกัน ฉันเคยสู้กับมันมาแล้วจำได้ไหม”

“จำได้” ซาร่าอยากรู้
“มันวิ่งชนกำแพงเพื่อเข้ามาหาพวกเรา”

“แล้วไง” มิสซูยังไม่เข้าใจ

“ไอ้แมวนั้นสายตาไม่ดี มันดมกลิ่นได้เก่งมากกว่า”

“ฉันหรือเธอเดินออกไป มันได้กลิ่นอยู่ดี ฉันไม่เห็นจะเป็นทางออกตรงไหน” มิสซูยังคงไม่เข้าใจ

“พวกเราจะล่อให้มันตกหน้าผานี้”

“ยังไง” มิสซูเริ่มอยากรู้จนไม่อาจกดความตื่นเต้นได้ เธอเปล่งออร่าด้วยแสงส้ม

“ง่ายมาก ต้องมีใครสักคนล่อมันให้มาบริเวณหน้าผานี้ แล้วทำให้มันตกลงไป”

“555555” นายจะให้ใครสักคนเป็นฮีโร่ว่างั้นเหอะ มิสซูรู้สึกแผนนี้ไม่เข้าท่า

“ไม่หรอกมันดีมาก เราเอาเสื้อผ้าของแต่ละคนล่อ เพื่อหลอกให้เข้าใจว่าเป็นพวกเรา” ซาร่าเข้าใจแผนอาเมด เธอสานแผนต่อ “สัตว์บางประเภทดมกลิ่นฉี่ได้ดีด้วย”

ไม่...ฉันจะเอาตัวเองล่อ” อาเมดยังยืนยันอีกครั้ง

“เธอทำอย่างไง” ซาร่าชักสงสัย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่