บทที่ 1
เคยไหมที่แอบรักใคร
เคยไหมที่ทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้คนที่ใจบอกว่าใช่แล้วไม่เคยจะมองหน้าเขาได้เต็มตา
ผิดไหมที่ผู้หญิงจนๆ คนหนึ่ง จะแอบรักผู้ชายที่สูงศักดิ์กว่าตัวเอง
แม้เขาจะไม่ใช่ผู้ชายที่เฟอร์เฟค แม้เขาจะเคยเข้ารับการรักษาสภาพทางจิตเพราะเหตุการณ์ที่สะเทือนใจถึงขีดสุด ..แต่ฉันก็ไม่เคยจะคิดว่านั่นคือความน่าอับอาย แต่กลับรู้สึกสงสารเขา
ฉันอยากจะยื่นมือไปสัมผัสและปลอบโยนใจที่เคยบอบช้ำดวงนั้น เพราะเข้าใจดีว่าสิ่งที่เขาเคยพบผ่าน ได้ทำให้อารมณ์เขาขึ้นๆ ลงๆ และบางครั้งก็ร้ายกาจกับฉัน แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อใจได้มอบให้เขาไปทั้งดวง
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้มาริสาต้องวางปากกาที่กำลังจดบันทึกในไดอารี
“สา สา”เสียงเรียกจากข้างนอก ทำให้คนที่อยู่ในห้องต้องรีบปิดไดอารีแล้วเก็บเข้าลิ้นชักก่อนจะเดินไปเปิดประตู
“จ๋าป้า ว่าไง”มาริสาถามผู้มีศักดิ์เป็นป้าทันทีที่เปิดประตูห้อง
“เร็วเข้าเถอะ ขึ้นไปดูคุณยุให้หน่อย อาละวาดเขวี้ยงของเต็มห้องไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าใครทำอะไรให้ไม่พอใจ ไปดูให้ที”สมศรี ..แม่บ้านวัยกลางคนพูดสีหน้าตื่นๆ
“จ้ะ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”มาริสารีบเดินออกจากห้อง แล้วเดินไปตามทางเดิน จากนั้นก็เปิดประตูซึ่งเป็นราวกับการกั้นสัดส่วนแบ่งชนชั้นเอาไว้
เธอก้าวผ่านเส้นแดนแห่งบรรดาศักดิ์แล้วเดินเข้าไปในอาณาเขตที่มีไว้สำหรับชนชั้นเจ้านาย
“คุณยุอยู่ห้องไหนจ๊ะป้า”มาริสาหันมาถาม
“อยู่บนห้องทำงานชั้นบน”สมศรีตอบ แล้วหยุดยืนอยู่ตรงตีนบันได ไม่กล้าก้าวขึ้นไป เพราะกลัวจะเจอลูกหลงจากพายุอารมณ์ของเจ้านายหนุ่ม
“สาขึ้นไปคนเดียวนะ ป้าไม่กล้าขึ้นไป”
“แล้วคนอื่นๆ ไปไหนกันหมด”มาริสาหันไปมองรอบๆ แล้วก็ไม่เห็นใคร
“ยายจิตกับนางน้อยออกไปจ่ายตลาด ..”สมศรีแจงว่าใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร ทว่า มาริสาหาได้อยู่รอฟังคำตอบเหล่านั้นไม่ เพราะใจกังวลอยู่แค่เพียงว่า ตอนนี้วายุจะเป็นอย่างไรบ้าง
เธอก้าวขึ้นบันไดไป โดยปล่อยให้ป้าสมศรีพูดพล่ามไปว่าใครทำอะไรยังไง
“อ้าว เอ้ย ..”สมศรีมองหลานสาวที่ขึ้นไปอยู่บนชั้นสอง แล้วก็ส่ายหน้า “เอ็งก็ถามข้า แล้วก็ไม่ได้จะฟังคำตอบเล้ย”
“เอ้อ ..”สมศรีมองตามหลังไป
*_____________________________*
มาริสาเปิดประตูห้องทำงานของวายุ แล้วได้เห็นเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สองมือกุมขมับ สองแขนวางไว้บนโต๊ะ
“คุณยุคะ”มาริสาเดินไปหาวายุ
“ยาล่ะคะ ยาคุณอยู่ที่ไหน”เธอหันไปมองรอบๆ แต่ก็ไม่เจอ
“อยู่ในห้องนอนแน่เลย”มาริสาพูดกับตัวเอง
“รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันมา”เธอรีบเดินไปเอายาประจำตัวเขามาให้
“ทำไม”วายุได้แต่พูดอยู่อย่างนั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องพบเจอกับความเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า
“อย่างน้อย ก็น่าจะบอกกันสักคำ”วายุเสียใจจนน้ำตาซึม เมื่อหมอสาวแสนสวยอย่างอินทิราหมั้นกับไฮโซหนุ่มเจ้าของโรงพยาบาลได้ออกสื่อไปทั่วทั้งในทีวีและอินเตอร์เน็ต
ก่อนหน้านี้เขาเคยขอเธอเป็นแฟน แล้วเธอก็ตอบตกลง
แต่แล้วอยู่ๆ เธอก็ห่างหายไป จนมาถึงวันนี้ เขาได้เห็นข่าวจากในอินเตอร์เน็ตว่าเธอหมั้นหมายกับทายาทเจ้าของโรงพยาบาล
ทางด้านมาริสาได้กลับมาพร้อมกับยาและน้ำ
“คุณยุคะ”เธอรีบวางแก้วน้ำลง แล้วยื่นมือไปจับมือเขา
“กินยาเสียก่อนนะคะ”
“ออกไป อย่ามายุ่ง”เขาสั่ง
“ฉันจะออกไปก็ต่อเมื่อคุณกินยาแล้วเท่านั้น”มาริสายืนกราน
“บอกให้ออกไปไง”วายุผลักเธอออกห่าง
“กินยาเถอะนะคะ แล้วฉันจะออกไป จะไม่อยู่รบกวนคุณอีก”
“กล้าดียังไงมาสั่งฉัน เธอเป็นใคร ฉันเป็นใคร ให้มันรู้เสียบ้าง”เขามองหน้าเธอนิ่ง
“ออ หรือเธอจะคิดว่าเรื่องคืนนั้น จะทำให้ฉันยกย่องเธอว่าเป็นเมียหรือไง”วายุพูดโดยไม่คิดถึงใจคนฟังสักนิด
“เรื่องคืนนั้น ฉันไม่ได้ต้องการให้มันเกิด”มาริสากล่าว
“ฉันก็ไม่ได้ต้องการเลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เพราะเมา ฉันก็ไม่เอาเธอหรอก”วาจาของเขาเราะร้ายจนคนฟังช้ำใจ
“กินยาเถอะนะคะ แล้วฉันจะออกไป”
วายุตัดปัญหา จึงกินยาเสียให้จบๆ
เขาหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม ขณะที่สายตามองไปยังมาริสา ราวกับจะถามว่า พอใจแล้วใช่ไหม
วายุวางแก้วกระแทกลงบนโต๊ะดังปัง
“ฉันกินแล้ว ทีนี้ก็ถึงทีเธอออกไปได้แล้ว”เขามองด้วยความไม่พอใจที่อีกฝ่ายเข้ามาวุ่นวายกับชีวิต
“ค่ะ”มาริสาเดินออกไป เพราะไม่อยากขัดใจ จนทำให้วายุไม่พอใจแล้วพาลคลั่งขึ้นมาอีก
เขานั่งอยู่สักพักก็ชักรู้สึกง่วงๆ
“อีกแล้วเหรอ”วายุพอจะรู้ว่าโดนเธอเอายานอนหลับให้กิน ..เขาเองก็ดันกินโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ เลยเสร็จเธออีกตามเคย
มาริสาถอยเท้ามายังหน้าประตู จากนั้นก็มองเข้าไปในห้อง และได้เห็นว่าวายุนอนฟุบคาโต๊ะทำงานไปแล้ว
“ ..”เธอถอนหายใจ เท้าค่อยๆ เดินกลับเข้าไปหาเขาอีกครั้ง
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึงได้เขวี้ยงปาข้าวของจนกระจัดกระจายแบบนี้”มาริสาอยากรู้สาเหตุ
เธอมองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ และได้เห็นข่าวการหมั้นของอินทิรา
“คุณอินหมั้น!”มาริสาอุทานออกมาด้วยความตกใจ คิดไม่ถึงว่าคุณหมอประจำตัว และดูเหมือนจะเป็นคนพิเศษของวายุ ได้หมั้นหมายกับชายอื่น
“ ..”มาริสาละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ มามองยังใบหน้าของคนที่ฟุบนอนอยู่
“มิน่า คุณถึงอารมณ์เสียขนาดนี้”
เธอพอจะเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของอีกฝ่ายดี
เขารักและให้ความสำคัญต่ออินทิราอย่างกับอะไรดี แล้วอยู่ๆ ผู้หญิงที่เขารักมาหักอกกันแบบนี้ จะไม่ให้เสียใจได้อย่างไร
หลายต่อหลายครั้งที่มาริสาแอบน้อยใจว่า ทำไมเขาให้เกียรติอินทิราได้ แต่ขณะเดียวกันกลับดูถูกเธอเหลือเกิน
หรือเป็นเพราะเธอเกิดมาจน จึงไม่มีเกียรติอย่างนั้นเหรอ
*_____________________________*
มาริสาเดินออกไปหน้าบ้าน แล้วขึ้นรถโดยสารประจำทางเพื่อออกไปหน้าปากซอย จากนั้นก็นั่งรถเมย์ต่อเพื่อไปเรียนยังมหาวิทยาลัยเปิด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างมีอิสระในการเรียนมากกว่ามหาวิทยาลัยปิดหรือมหาลัยเอกชน
เธอเลือกเรียนมหาลัยนี้ เพื่อจะเอาช่วงเวลาที่เหลือไปทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียน
มาริสารู้ดีว่า ชีวิตคนเกิดมาโอกาสไม่เท่ากัน ทว่า คนเราล้วนมีทางเลือกที่ไม่น้อยไปกว่ากัน เธอจึงเลือกทางที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด
ตอนนี้มาริสาเรียนอยู่ปีสาม และมีแนวโน้มว่าจะจบภายในสามปีครึ่ง ซึ่งหลังจากมีวุฒิการศึกษารองรับ เธอเชื่อว่า คุณภาพชีวิตคงจะดีกว่านี้
เมื่อถึงตอนนั้น ก็คงไม่ต้องอาศัยบ้านเจ้านายอยู่อย่างทุกวันนี้
“อ้าว สา”เสียงเพื่อนร่วมคลาสเรียนเดียวกันทักทาย เมื่อมาริสาเดินมานั่งใกล้ๆ “ทำไมเพิ่งมาล่ะ”
“พอดีเช้านี้ยุ่งๆ นิดหน่อย ว่าแต่เรียนไปถึงไหนแล้วล่ะปลา”มาริสาถาม
*_____________________________*
ทางด้านวายุค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงหัวค่ำ การกินยานอนหลับเข้าไป ทำให้เขาหลับสนิท และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครพามานอนบนเตียงในห้อง
“มานอนอยู่นี่ได้ไง”วายุพยายามนึก
“มาริสา!!”เขารีบลงจากเตียงแล้วเดินออกไปจากห้องของตัวเอง
“มาริสา”วายุเรียก เสียงดังไปทั่ว
เท้าของเขาก้าวลงบันได ขณะที่ปากก็ตะโกนเรียก
“มีอะไรเหรอคะคุณยุ มีอะไร”สมศรีรีบออกมารับหน้าแทนหลานสาว
“หลานป้าอยู่ที่ไหน ไปตามมาเดี๋ยวนี้เลย”วายุสั่ง
“สายังไม่กลับจากมหาลัยเลยค่ะ”สมศรีตอบ
“ ..”วายุขมวดคิ้ว แล้วยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา
“ถ้ามองไม่ผิด นี่มันสองทุ่มเข้าไปแล้ว หลานป้าไปเรียนหรือไปร่านกันเนี่ย ป่านนี้ทำไมยังไม่กลับ”เขาชักจะฉุนเฉียวมากขึ้น
“เอ่อ ..”สมศรีเองก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
“มาแล้วค่ะ มานั่นแล้ว”สายตาสมศรีหันไปเห็นมาริสาที่เดินเข้ามาพอดี
“กลับมาแล้วเหรอ”วายุถามด้วยน้ำเสียงกระด้าง
“ค่ะ”มาริสาก้มหน้า ไม่กล้ามองตรงๆ
“เธอยังจำได้ใช่ไหมว่าฉันสั่งอะไรไว้”เขาเดินตรงเข้าไปหา แล้วตะคอกเสียงดัง “ตอบ”
“ขอโทษค่ะ ฉันหยิบยาผิด”มาริสารีบแก้ตัว
“คราวหน้าอย่าเอายานอนหลับให้ฉันกินอีก ไม่งั้นเธอได้กระเด็นออกไปจากบ้านนี้แน่”วายุพูดจบก็เดินกลับขึ้นไปชั้นบน
มาริสาค่อยๆ เงยหน้าขึ้น แล้วมองตามร่างของเขา น้ำตาซึมออกมาด้วยความน้อยใจ ..เขาคงเห็นว่าเธอไม่มีที่ไป จึงได้แต่ผลักไสไล่ส่งอยู่ร่ำไป
มาริสากล้ำกลืนความเสียใจเอาไว้ แล้วบอกตัวเองว่าให้อดทน เพราะคงอีกไม่นานหรอก อีกแค่เทอมเดียวเธอก็จะเรียนจบ แล้วเมื่อนั้น ก็จะมีวุฒิปริญญา คงจะทำให้เธอหางานและย้ายออกไปจากที่นี่ได้
“ทำไมกลับช้าล่ะสา”สมศรีหันมาถามหลานสาว
“สาอยู่ทำรายงานกับเพื่อน เลยกลับช้า สาขอตัวนะคะ”มาริสาเดินซึมๆ ไปยังห้องของตัวเอง
*_____________________________*
กรงราคีซาตาน
บทที่ 1
เคยไหมที่แอบรักใคร
เคยไหมที่ทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้คนที่ใจบอกว่าใช่แล้วไม่เคยจะมองหน้าเขาได้เต็มตา
ผิดไหมที่ผู้หญิงจนๆ คนหนึ่ง จะแอบรักผู้ชายที่สูงศักดิ์กว่าตัวเอง
แม้เขาจะไม่ใช่ผู้ชายที่เฟอร์เฟค แม้เขาจะเคยเข้ารับการรักษาสภาพทางจิตเพราะเหตุการณ์ที่สะเทือนใจถึงขีดสุด ..แต่ฉันก็ไม่เคยจะคิดว่านั่นคือความน่าอับอาย แต่กลับรู้สึกสงสารเขา
ฉันอยากจะยื่นมือไปสัมผัสและปลอบโยนใจที่เคยบอบช้ำดวงนั้น เพราะเข้าใจดีว่าสิ่งที่เขาเคยพบผ่าน ได้ทำให้อารมณ์เขาขึ้นๆ ลงๆ และบางครั้งก็ร้ายกาจกับฉัน แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อใจได้มอบให้เขาไปทั้งดวง
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้มาริสาต้องวางปากกาที่กำลังจดบันทึกในไดอารี
“สา สา”เสียงเรียกจากข้างนอก ทำให้คนที่อยู่ในห้องต้องรีบปิดไดอารีแล้วเก็บเข้าลิ้นชักก่อนจะเดินไปเปิดประตู
“จ๋าป้า ว่าไง”มาริสาถามผู้มีศักดิ์เป็นป้าทันทีที่เปิดประตูห้อง
“เร็วเข้าเถอะ ขึ้นไปดูคุณยุให้หน่อย อาละวาดเขวี้ยงของเต็มห้องไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าใครทำอะไรให้ไม่พอใจ ไปดูให้ที”สมศรี ..แม่บ้านวัยกลางคนพูดสีหน้าตื่นๆ
“จ้ะ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”มาริสารีบเดินออกจากห้อง แล้วเดินไปตามทางเดิน จากนั้นก็เปิดประตูซึ่งเป็นราวกับการกั้นสัดส่วนแบ่งชนชั้นเอาไว้
เธอก้าวผ่านเส้นแดนแห่งบรรดาศักดิ์แล้วเดินเข้าไปในอาณาเขตที่มีไว้สำหรับชนชั้นเจ้านาย
“คุณยุอยู่ห้องไหนจ๊ะป้า”มาริสาหันมาถาม
“อยู่บนห้องทำงานชั้นบน”สมศรีตอบ แล้วหยุดยืนอยู่ตรงตีนบันได ไม่กล้าก้าวขึ้นไป เพราะกลัวจะเจอลูกหลงจากพายุอารมณ์ของเจ้านายหนุ่ม
“สาขึ้นไปคนเดียวนะ ป้าไม่กล้าขึ้นไป”
“แล้วคนอื่นๆ ไปไหนกันหมด”มาริสาหันไปมองรอบๆ แล้วก็ไม่เห็นใคร
“ยายจิตกับนางน้อยออกไปจ่ายตลาด ..”สมศรีแจงว่าใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร ทว่า มาริสาหาได้อยู่รอฟังคำตอบเหล่านั้นไม่ เพราะใจกังวลอยู่แค่เพียงว่า ตอนนี้วายุจะเป็นอย่างไรบ้าง
เธอก้าวขึ้นบันไดไป โดยปล่อยให้ป้าสมศรีพูดพล่ามไปว่าใครทำอะไรยังไง
“อ้าว เอ้ย ..”สมศรีมองหลานสาวที่ขึ้นไปอยู่บนชั้นสอง แล้วก็ส่ายหน้า “เอ็งก็ถามข้า แล้วก็ไม่ได้จะฟังคำตอบเล้ย”
“เอ้อ ..”สมศรีมองตามหลังไป
*_____________________________*
มาริสาเปิดประตูห้องทำงานของวายุ แล้วได้เห็นเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สองมือกุมขมับ สองแขนวางไว้บนโต๊ะ
“คุณยุคะ”มาริสาเดินไปหาวายุ
“ยาล่ะคะ ยาคุณอยู่ที่ไหน”เธอหันไปมองรอบๆ แต่ก็ไม่เจอ
“อยู่ในห้องนอนแน่เลย”มาริสาพูดกับตัวเอง
“รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันมา”เธอรีบเดินไปเอายาประจำตัวเขามาให้
“ทำไม”วายุได้แต่พูดอยู่อย่างนั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องพบเจอกับความเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า
“อย่างน้อย ก็น่าจะบอกกันสักคำ”วายุเสียใจจนน้ำตาซึม เมื่อหมอสาวแสนสวยอย่างอินทิราหมั้นกับไฮโซหนุ่มเจ้าของโรงพยาบาลได้ออกสื่อไปทั่วทั้งในทีวีและอินเตอร์เน็ต
ก่อนหน้านี้เขาเคยขอเธอเป็นแฟน แล้วเธอก็ตอบตกลง
แต่แล้วอยู่ๆ เธอก็ห่างหายไป จนมาถึงวันนี้ เขาได้เห็นข่าวจากในอินเตอร์เน็ตว่าเธอหมั้นหมายกับทายาทเจ้าของโรงพยาบาล
ทางด้านมาริสาได้กลับมาพร้อมกับยาและน้ำ
“คุณยุคะ”เธอรีบวางแก้วน้ำลง แล้วยื่นมือไปจับมือเขา
“กินยาเสียก่อนนะคะ”
“ออกไป อย่ามายุ่ง”เขาสั่ง
“ฉันจะออกไปก็ต่อเมื่อคุณกินยาแล้วเท่านั้น”มาริสายืนกราน
“บอกให้ออกไปไง”วายุผลักเธอออกห่าง
“กินยาเถอะนะคะ แล้วฉันจะออกไป จะไม่อยู่รบกวนคุณอีก”
“กล้าดียังไงมาสั่งฉัน เธอเป็นใคร ฉันเป็นใคร ให้มันรู้เสียบ้าง”เขามองหน้าเธอนิ่ง
“ออ หรือเธอจะคิดว่าเรื่องคืนนั้น จะทำให้ฉันยกย่องเธอว่าเป็นเมียหรือไง”วายุพูดโดยไม่คิดถึงใจคนฟังสักนิด
“เรื่องคืนนั้น ฉันไม่ได้ต้องการให้มันเกิด”มาริสากล่าว
“ฉันก็ไม่ได้ต้องการเลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เพราะเมา ฉันก็ไม่เอาเธอหรอก”วาจาของเขาเราะร้ายจนคนฟังช้ำใจ
“กินยาเถอะนะคะ แล้วฉันจะออกไป”
วายุตัดปัญหา จึงกินยาเสียให้จบๆ
เขาหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม ขณะที่สายตามองไปยังมาริสา ราวกับจะถามว่า พอใจแล้วใช่ไหม
วายุวางแก้วกระแทกลงบนโต๊ะดังปัง
“ฉันกินแล้ว ทีนี้ก็ถึงทีเธอออกไปได้แล้ว”เขามองด้วยความไม่พอใจที่อีกฝ่ายเข้ามาวุ่นวายกับชีวิต
“ค่ะ”มาริสาเดินออกไป เพราะไม่อยากขัดใจ จนทำให้วายุไม่พอใจแล้วพาลคลั่งขึ้นมาอีก
เขานั่งอยู่สักพักก็ชักรู้สึกง่วงๆ
“อีกแล้วเหรอ”วายุพอจะรู้ว่าโดนเธอเอายานอนหลับให้กิน ..เขาเองก็ดันกินโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ เลยเสร็จเธออีกตามเคย
มาริสาถอยเท้ามายังหน้าประตู จากนั้นก็มองเข้าไปในห้อง และได้เห็นว่าวายุนอนฟุบคาโต๊ะทำงานไปแล้ว
“ ..”เธอถอนหายใจ เท้าค่อยๆ เดินกลับเข้าไปหาเขาอีกครั้ง
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึงได้เขวี้ยงปาข้าวของจนกระจัดกระจายแบบนี้”มาริสาอยากรู้สาเหตุ
เธอมองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ และได้เห็นข่าวการหมั้นของอินทิรา
“คุณอินหมั้น!”มาริสาอุทานออกมาด้วยความตกใจ คิดไม่ถึงว่าคุณหมอประจำตัว และดูเหมือนจะเป็นคนพิเศษของวายุ ได้หมั้นหมายกับชายอื่น
“ ..”มาริสาละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ มามองยังใบหน้าของคนที่ฟุบนอนอยู่
“มิน่า คุณถึงอารมณ์เสียขนาดนี้”
เธอพอจะเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของอีกฝ่ายดี
เขารักและให้ความสำคัญต่ออินทิราอย่างกับอะไรดี แล้วอยู่ๆ ผู้หญิงที่เขารักมาหักอกกันแบบนี้ จะไม่ให้เสียใจได้อย่างไร
หลายต่อหลายครั้งที่มาริสาแอบน้อยใจว่า ทำไมเขาให้เกียรติอินทิราได้ แต่ขณะเดียวกันกลับดูถูกเธอเหลือเกิน
หรือเป็นเพราะเธอเกิดมาจน จึงไม่มีเกียรติอย่างนั้นเหรอ
*_____________________________*
มาริสาเดินออกไปหน้าบ้าน แล้วขึ้นรถโดยสารประจำทางเพื่อออกไปหน้าปากซอย จากนั้นก็นั่งรถเมย์ต่อเพื่อไปเรียนยังมหาวิทยาลัยเปิด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างมีอิสระในการเรียนมากกว่ามหาวิทยาลัยปิดหรือมหาลัยเอกชน
เธอเลือกเรียนมหาลัยนี้ เพื่อจะเอาช่วงเวลาที่เหลือไปทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียน
มาริสารู้ดีว่า ชีวิตคนเกิดมาโอกาสไม่เท่ากัน ทว่า คนเราล้วนมีทางเลือกที่ไม่น้อยไปกว่ากัน เธอจึงเลือกทางที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด
ตอนนี้มาริสาเรียนอยู่ปีสาม และมีแนวโน้มว่าจะจบภายในสามปีครึ่ง ซึ่งหลังจากมีวุฒิการศึกษารองรับ เธอเชื่อว่า คุณภาพชีวิตคงจะดีกว่านี้
เมื่อถึงตอนนั้น ก็คงไม่ต้องอาศัยบ้านเจ้านายอยู่อย่างทุกวันนี้
“อ้าว สา”เสียงเพื่อนร่วมคลาสเรียนเดียวกันทักทาย เมื่อมาริสาเดินมานั่งใกล้ๆ “ทำไมเพิ่งมาล่ะ”
“พอดีเช้านี้ยุ่งๆ นิดหน่อย ว่าแต่เรียนไปถึงไหนแล้วล่ะปลา”มาริสาถาม
*_____________________________*
ทางด้านวายุค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงหัวค่ำ การกินยานอนหลับเข้าไป ทำให้เขาหลับสนิท และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครพามานอนบนเตียงในห้อง
“มานอนอยู่นี่ได้ไง”วายุพยายามนึก
“มาริสา!!”เขารีบลงจากเตียงแล้วเดินออกไปจากห้องของตัวเอง
“มาริสา”วายุเรียก เสียงดังไปทั่ว
เท้าของเขาก้าวลงบันได ขณะที่ปากก็ตะโกนเรียก
“มีอะไรเหรอคะคุณยุ มีอะไร”สมศรีรีบออกมารับหน้าแทนหลานสาว
“หลานป้าอยู่ที่ไหน ไปตามมาเดี๋ยวนี้เลย”วายุสั่ง
“สายังไม่กลับจากมหาลัยเลยค่ะ”สมศรีตอบ
“ ..”วายุขมวดคิ้ว แล้วยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา
“ถ้ามองไม่ผิด นี่มันสองทุ่มเข้าไปแล้ว หลานป้าไปเรียนหรือไปร่านกันเนี่ย ป่านนี้ทำไมยังไม่กลับ”เขาชักจะฉุนเฉียวมากขึ้น
“เอ่อ ..”สมศรีเองก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
“มาแล้วค่ะ มานั่นแล้ว”สายตาสมศรีหันไปเห็นมาริสาที่เดินเข้ามาพอดี
“กลับมาแล้วเหรอ”วายุถามด้วยน้ำเสียงกระด้าง
“ค่ะ”มาริสาก้มหน้า ไม่กล้ามองตรงๆ
“เธอยังจำได้ใช่ไหมว่าฉันสั่งอะไรไว้”เขาเดินตรงเข้าไปหา แล้วตะคอกเสียงดัง “ตอบ”
“ขอโทษค่ะ ฉันหยิบยาผิด”มาริสารีบแก้ตัว
“คราวหน้าอย่าเอายานอนหลับให้ฉันกินอีก ไม่งั้นเธอได้กระเด็นออกไปจากบ้านนี้แน่”วายุพูดจบก็เดินกลับขึ้นไปชั้นบน
มาริสาค่อยๆ เงยหน้าขึ้น แล้วมองตามร่างของเขา น้ำตาซึมออกมาด้วยความน้อยใจ ..เขาคงเห็นว่าเธอไม่มีที่ไป จึงได้แต่ผลักไสไล่ส่งอยู่ร่ำไป
มาริสากล้ำกลืนความเสียใจเอาไว้ แล้วบอกตัวเองว่าให้อดทน เพราะคงอีกไม่นานหรอก อีกแค่เทอมเดียวเธอก็จะเรียนจบ แล้วเมื่อนั้น ก็จะมีวุฒิปริญญา คงจะทำให้เธอหางานและย้ายออกไปจากที่นี่ได้
“ทำไมกลับช้าล่ะสา”สมศรีหันมาถามหลานสาว
“สาอยู่ทำรายงานกับเพื่อน เลยกลับช้า สาขอตัวนะคะ”มาริสาเดินซึมๆ ไปยังห้องของตัวเอง
*_____________________________*