20 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก บันทึกไว้ในความทรงจำ สึนามิวิปโยค

26 ธ.ค. 2547

วันนี้ เวลานี้ เมื่อ 20 ปีที่แล้วฉันนอนหลับอยู่บนที่นอนในบ้านเช่าหลังน้อยๆ ที่เราดัดแปลงเป็นโรงงานเย็บผ้าขนาดย่อมๆ ที่เมืองชายทะเลชื่อดังติดอันดับของโลกแห่งหนึ่ง

ในซอยที่ฉันอยู่เรียกได้ว่าเป็นนิคมอุตสาหกรรมเย็บผ้าขนาดย่อมของเมืองเลยก็ว่าได้ เพราะเกือบทั้งซอยมีร้านเย็บผ้าตั้งแต่หัวซอยยันท้ายซอย มีทั้งร้านเย็บสูท เย็บเสื้อเชิ้ต กางเกง และร้านเย็บเสื้อผ้าสตรี พวกชุดราตรีและชุดลำลองต่างๆ 

ร้านเย็บผ้าเหล่านี้รับงานต่อมาจากร้านเทเลอร์ที่ขายชุดให้นักท่องเที่ยว  เมื่อวัดตัวเสร็จ ลูกค้าเลือกแบบและผ้าเรียบร้อยพวกเขาก็ส่งต่องานให้ตามร้านเย็บต่างๆ  

วันที่ 25 ธ.ค. เป็นวันหยุดคริสต์มาสของฝรั่ง แขกเลยไม่ส่งงาน พวกเราก็เลยว่างกัน  ตกค่ำมาพวกเราชาวโรงงานเย็บผ้าก็ตั้งวงปิ้งย่างกัน  เกือบๆ เที่ยงคืนเราก็ขอตัวเอาตาดำไปซ่อน  ส่วนคนอื่นๆ ยังดวลกันต่อ 

วันที่ 26 เราตื่นมาราวๆ 8-9 โมงได้มั้ง  ตอนที่อาบน้ำอยู่ ไฟในห้องน้ำดับๆ ติดๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
อาบน้ำเสร็จก็เข้าประจำการ ทำงานรอคนอื่นๆ ตื่น

ระหว่างนั้นบ้านข้างๆ ซึ่งเป็นร้านเย็บกางเกงก็เปิดเพลงเสียงดังสะท้อนโลกันต์มาก   ก็แอบด่าในใจแหละว่าจะเปิดเสียงดังหาพระบิดาของรึ  
ดังนั้น เมื่อแผ่นสะดุด เสียงเพลงขาดกระท่อนกระแท่น เลยแอบสะใจนิดๆ อยู่

ช่วงนั้นสังเกตได้ว่า เมื่อเพลงสะดุด ไฟก็จะดับด้วย เป็นอยู่หลายหน ก็คิดในใจ สมน้ำหน้า อยากเสียงดังนัก

จริงๆ แล้ว บ้านเรากับบ้านเขาไม่กินเส้นกันเท่าไหร่ บ้านนั้นมักเปิดเพลงเสียงดังมากๆ แบบไม่ดูเวล่ำเวลา ชอบเปิดเสียงดังตั้งแต่ไก่โห่ ในขณะที่บ้านเราชอบทำงานดึก และตื่นสายหน่อย

เราเย็บกระโปรงยังไม่เสร็จดี พี่สาวก็ตื่น ตามด้วยช่างอีกคนที่พักในร้านด้วย
ขณะที่นั่งเล็มด้ายเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงคนแตกตื่นตะโกนว่าให้ออกไปดูข้างนอก น้ำท่วมๆๆ

เราก็งง จะท่วมได้ไง ฝนก็ไม่ตก แดดก็เปรี้ยง หรือว่าท่อประปาแตกหว่า...

วางผ้าลง ออกไปชะโงกมองหน้าบ้าน แห้งสนิท... 
ก็กลับมาทำงานต่อ

นั่งไปสักพัก คราวนี้มีเสียงหลายคนตะโกนแบบตกใจสุดขีดว่าน้ำท่วมๆ   ที่หน้าหาดน้ำขึ้นสูงมาก ให้รีบหนีเร็วๆ
พี่สาวรีบวิ่งออกไปดู ส่วนเรายังใจเย็น นั่งทำงานต่อ

สักพักนึงเสียงโทรศัพท์ดัง  เป็นลุงที่โทรมาจากในตัวเมือง บอกว่าให้ทุกคนอพยพโดยเร็ว แกได้รับข่าวจากเพื่อนที่เป็นหมอนวดที่ชายหาดว่าตอนนี้ที่หน้าหาดน้ำท่วมหมดแล้ว คลื่นยักษ์เข้า สึนามิน่ะ รู้จักไหม?

ได้ฟังแค่นั้นล่ะ กระโดดทีเดียวข้ามกำแพงอิฐสามก้อนที่ก่อไว้กั้นน้ำหน้าบ้านออกไปหน้าปากซอยเลย

พระเจ้า... ถนนสายหลักหน้าซอยเข้าบ้านน้ำท่วมฟุตบาทแล้ว ทั้งร่ม เก้าอี้ชายหาด และเบาะลอยตุ๊บป่องๆ เต็มถนนไปหมด

ในระหว่างที่ยืนอ้าปากค้างแบบงงๆ อยู่นั้นก็เห็นคนวิ่งขึ้นมาจากทางชายหาดเป็นขบวน
เรารีบจ้ำอ้าวกลับบ้าน หยิบกระเป๋าเงิน โทรศัพท์พร้อมสายชาร์ต ถอดปลั๊กจักรทุกตัว ดึงอัทเอาท์ลง ปิดประตูหน้าต่าง (ยังใจเย็นได้อีกเนาะ 😅)

เร่งให้พี่สาวพาหนีโดยเร็ว แต่ยังไปไม่ได้เพราะต้องรอให้ลูกน้องหาสามีเธอก่อน  ติดต่อเขาไม่ได้ หาตัวไม่เจอ

ตอนนั้นวิ่งกันหน้าตื่น กลัวตายสุดขีด หัวใจเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมาข้างนอก

ห่วงสามีช่างก็ห่วง ไหนจะหลานสาวที่พักอยู่คนละที่อีก ติดต่อไม่ได้เลย สัญญานโทรศัพท์เป็นง่อยทุกเครือข่าย

จะหนีเอาตัวรอดสองคนก็ไม่ได้อีก สามคนวิ่งวุ่นตามหาสามีช่าง
สุดท้ายก็มีคนบอกว่าสามีเธอหนีล่วงหน้าไปแล้วกับช่างเสื้อเชิ้ต  เอิ่ม...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่