.
.
เกิดจากช่วงหนึ่งที่ฝนตกชุกๆ ใบชะพลูที่บ้านเลยงามมากเลยค่ะ ก็เลยนึกถึงเมนูนี้ขึ้นมา
.
.
.
.
สำหรับหอยที่นำมาใช้ในครั้งนี้คือ
หอยครางค่ะ
เขาจะคล้ายหอยแครง ลักษณะภายนอกจะแตกต่างตรงที่เปลือก เพราะหอยครางเขาจะมีขนสีน้ำตาลเข้มขึ้นปกคลุม ส่วนรสสัมผัสของเนื้อ ก็จะเหนียวกว่า สู้ฟันกว่ากว่าหอยแครง และมีกลิ่นแรงกว่าหอยแครงนิดนึงค่ะ (ถ้าเมนูลวกจิ้ม คนเลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่) ส่วนราคาก็ตรงข้ามกับหอยแครง เพราะหอยครางนี้เขาจะถูกกว่ามากๆ
ส่วนหอยแครงนั้น ก็ยังมีปลีกย่อยอีกนะคะ
ไม่ว่าจะ
หอยแครงเลือด หอยแครงมุม หอยแครงขลุ่ย
สำหรับหอยแครงเลือดนั้น คนส่วนใหญ่คงจะคุ้นชินกัน เพราะเป็นชนิดที่คนนิยม มีขายทั่วไปตามท้องตลาด และราคาจะสูงกว่าหอยแครงอย่างอื่น
ส่วนหอยแครงมุม หอยแครงขลุ่ย อันนี้ราคาจะต่ำลงมา บางครั้งเริ่มต้นที่ราคากิโลกรัมละ 80 จนถึงแค่หลักร้อยต้นๆเองค่ะ ความต่างของเขา สามารถสังเกตุได้จากเปลือก เช่น... ความถี่ของลาย และความนูนหยักของลาย
หากมองผิวเผิน คนที่ไม่คุ้นชินก็คงแยกไม่ออกแน่ๆ และอาจจะหลงซื้อจากการที่เห็นว่าราคาถูก เพราะหลงคิดว่าคือหอยแครงเลือด แต่พอนำไปลวก นำไปทำอาหารแล้ว รสสัมผัสจะแตกต่างกันค่ะ นั่นเลยทำให้บางคนรู้สึกได้เลยว่า ทำไมหอยแครงที่ซื้อมานี้มันไม่อร่อย ก็เพราะมันไม่ได้เป็นหอยแครงสายพันธุ์ที่เราชอบกินหรือต้องการซื้อนั่นเอง
ไว้โอกาสหน้า ถ้าเราได้ทำเมนูจากหอยแครง
เดี๋ยวเราจะถ่ายรูปเปรียบเทียบให้ดูนะคะ
ส่วนวันนี้ เอาความต่างของหอยครางกับหอยแครงมาให้ดูก่อนค่ะ 😊
.
.
.
.
ส่วนที่บอกว่าพิเศษ ก็จะอยู่ตรงน้ำพริกแกงค่ะ
อันนี้ย่าเราสอนเรามา และแกก็ชอบทำแบบนี้เวลาที่ทำแกงหอยขม
คือจะใช้น้ำพริกแกงสองชนิด
นำมาผสมกัน นั่นก็คือ...
น้ำพริกแกงคั่ว กับน้ำพริกแกงใต้ค่ะ
ย่าของเราบอกว่า... น้ำพริกแกงคั่ว ทำให้รสชาติของน้ำแกงนั้นนัวมีความกลมกล่อม เพราะเขามีส่วนผสมของปลาป่นอยู่ แต่ว่าน้ำพริกแกงใต้ เขาจะเผ็ดร้อนและมีกลิ่นหอมกว่าน้ำพริกแกงคั่ว ก็เลยใช้สองชนิดนี้นำมาผสมกันค่ะ
.
.
.
.
วัตถุดิบและเครื่องปรุง
- หอยครางลวกแกะเนื้อแล้ว
- ใบชะพลู
- กะทิ
- น้ำพริกแกงคั่ว + น้ำพริกแกงใต้
- น้ำปลา
- น้ำตาลมะพร้าว
- เกลือ
.
.
.
.
วิธีทำแกงคั่วหอยครางใบชะพลู
ตั้งกระทะ ใส่หางกะทิลงไป
ตามด้วยน้ำพริกแกงคั่วและน้ำพริกแกงใต้
ผัดจนเข้ากันดี และมีกลิ่นหอม
⭐ ด้วยความที่รอบนี้เราไม่อยากได้น้ำแกงแตกมัน เลยเลือกใช้หางกะทิในการผัดน้ำพริกแกง (ปกติถ้าย่าเราทำแกงนี้ แกจะทำแบบแตกมันไปเลยค่ะ)
และเราใช้เป็นกะทิกล่องสำเร็จรูปนะคะ ฉะนั้นถ้าต้องการหางกะทิ ก็แค่ผสมน้ำเปล่าเพิ่มลงไป อัตราส่วน 1 ต่อ 1 ค่ะ
.
.
.
.
เมื่อผัดน้ำพริกแกงเสร็จแล้ว
เติมหางกะทิส่วนที่เหลือลงไป
ทำการปรุงรสชาติด้วย...
น้ำปลา และน้ำตาลมะพร้าว
จากนั้นใส่เนื้อหอยครางค่ะ
⭐ หากชิมรสชาติแล้วอ่อนเค็มไป
แต่ไม่อยากเพิ่มน้ำปลาแล้ว
ก็ให้ปรุงรสเพิ่มด้วยเกลือค่ะ
.
.
.
.
เติมหัวกะทิส่วนที่เหลือลงไป
พอน้ำแกงเริ่มกลับมาเดือดอีกครั้งนึง
ใส่ใบชะพลู กดๆให้จมน้ำแกง
และพอใบชะพลูเริ่มสลดลง
ปิดไฟ เป็นอันเสร็จค่ะ
.
.
.
.
🧡💚เมื่อเสร็จแล้วจะได้ประมาณนี้ค่ะ🧡💚
.
.
.
.
... แกงคั่วหอยครางใบชะพลู สูตรคุณย่า แต่หลานเอามาทำค่ะ 🧡💛❤️
เขาจะคล้ายหอยแครง ลักษณะภายนอกจะแตกต่างตรงที่เปลือก เพราะหอยครางเขาจะมีขนสีน้ำตาลเข้มขึ้นปกคลุม ส่วนรสสัมผัสของเนื้อ ก็จะเหนียวกว่า สู้ฟันกว่ากว่าหอยแครง และมีกลิ่นแรงกว่าหอยแครงนิดนึงค่ะ (ถ้าเมนูลวกจิ้ม คนเลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่) ส่วนราคาก็ตรงข้ามกับหอยแครง เพราะหอยครางนี้เขาจะถูกกว่ามากๆ
ส่วนหอยแครงนั้น ก็ยังมีปลีกย่อยอีกนะคะ
ไม่ว่าจะหอยแครงเลือด หอยแครงมุม หอยแครงขลุ่ย
สำหรับหอยแครงเลือดนั้น คนส่วนใหญ่คงจะคุ้นชินกัน เพราะเป็นชนิดที่คนนิยม มีขายทั่วไปตามท้องตลาด และราคาจะสูงกว่าหอยแครงอย่างอื่น
ส่วนหอยแครงมุม หอยแครงขลุ่ย อันนี้ราคาจะต่ำลงมา บางครั้งเริ่มต้นที่ราคากิโลกรัมละ 80 จนถึงแค่หลักร้อยต้นๆเองค่ะ ความต่างของเขา สามารถสังเกตุได้จากเปลือก เช่น... ความถี่ของลาย และความนูนหยักของลาย
หากมองผิวเผิน คนที่ไม่คุ้นชินก็คงแยกไม่ออกแน่ๆ และอาจจะหลงซื้อจากการที่เห็นว่าราคาถูก เพราะหลงคิดว่าคือหอยแครงเลือด แต่พอนำไปลวก นำไปทำอาหารแล้ว รสสัมผัสจะแตกต่างกันค่ะ นั่นเลยทำให้บางคนรู้สึกได้เลยว่า ทำไมหอยแครงที่ซื้อมานี้มันไม่อร่อย ก็เพราะมันไม่ได้เป็นหอยแครงสายพันธุ์ที่เราชอบกินหรือต้องการซื้อนั่นเอง
ไว้โอกาสหน้า ถ้าเราได้ทำเมนูจากหอยแครง
เดี๋ยวเราจะถ่ายรูปเปรียบเทียบให้ดูนะคะ
ส่วนวันนี้ เอาความต่างของหอยครางกับหอยแครงมาให้ดูก่อนค่ะ 😊
อันนี้ย่าเราสอนเรามา และแกก็ชอบทำแบบนี้เวลาที่ทำแกงหอยขม
และเราใช้เป็นกะทิกล่องสำเร็จรูปนะคะ ฉะนั้นถ้าต้องการหางกะทิ ก็แค่ผสมน้ำเปล่าเพิ่มลงไป อัตราส่วน 1 ต่อ 1 ค่ะ