"รู้สึกว่าครอบครัวเอาเปรียบเกินไปค่ะ"

สวัสดีค่ะ เรามีความในใจที้เก็บไว้มานานและวันนี้มันเหนื่อยมากๆจนอยากระบายค่ะ และหาคำปรึกษาจากเพื่อนๆค่ะ...
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในครอบครัวเราค่ะ เราอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกับครอบครัว (มีพ่อ มีย่า แล้วก็เรา ส่วนแม่เราทิ้งไปตั้งแต่เรา1ขวบค่ะ ปู่กับย่าเลี้ยงเราจนโต แต่ปู่เสียไปประมาณ9ปีแล้วค่ะ) ก่อนหน้านี้ปีที่แล้วเราย้ายไปอยู่กับแฟนเก่า ไปทำมาหากินด้วยกัน (เราลาออกจากงานเพื่อออกไปทำตามสิ่งที่ตัวเองชอบ คือค้าขายค่ะ แฟนเก่าเราก็ชอบสิ่งนี้เหมือนกัน) เราเลยตัดสินใจทำมาหากินด้วยกันค่ะ แต่เราย้ายไปได้ไม่นานน่าจะครึ่งปีกว่าได้ ก็มีเหตุให้ต้องย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านครอบครัว เนื่องจากพ่อเราป่วยค่ะ ไม่มีใครดูแล (พ่อเรามีแฟนใหม่นะคะ จดทะเบียนสมรสเรียบร้อย เพราะฝ่ายหญิงต้องการ แต่หลังจากวันจดทะเบียน เขาไม่เคยมาหาหรือแม้กระทั้งมาเยี่ยมพ่อเรา ทั้งๆที่เขารู้ว่าพ่อเราป่วย อ้างว่าไม่สะดวก,ไม่มีเวลา ได้แต่โทรคุยกับพ่อเรา วันละไม่เกินครึ่งชั่วโมง ลืมบอกค่ะ แฟนใหม่พ่อกับพ่อ อยู่คนละจ.นะคะ ห่างกันสองร้อยกว่าโล) และเราจำเป็นต้องกลับมาดูแลค่ะ ช่วงแรกที่พ่อป่วย ต้องไปหาหมอแทบทุกอาทิตย์ ไปแต่ละครั้งก็นอนรพ.ไม่ต่ำกว่า3คืน ย่าเราดูแลไม่ไหว เพราะท่านก็73แล้ว เราจึงกลับมาหาทางค้าขายอยู่บ้าน เพราะถ้าจะให้ทำงานประจำแล้วต้องลาทุกสัปดาห์บริษัทคงไม่เข้าใจ บวกกับเราไม่ชอบชีวิตลูกจ้างด้วยค่ะ จนกระทั่งพ่อเริ่มดีขึ้นบ้าง มีแค่หาหมอตามนัดทุกเดือน 
เข้าเรื่องที่เป็นประเด็นนะคะ ...เราให้เงินกับย่าเราทุกเดือน โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ย่าสั่งค่ะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเริ่มทำงาน ย่าสั่งเลยว่า เราต้องให้เงินย่าเดือนละ3000ทุกเดือน (ตอนนั้นเมื่อสิบปีที่แล้ว เราได้เงินเดือน9,450) แต่พอเราได้รับเงินเดือนๆแรกมา เราลองยื่นให้ย่าเราแค่2000 ย่าเราปาเงินใส่หน้าเรา แล้วพูดว่า "เก็บเงินไปส้ะ กูไม่ใช่ขอทาน" เราจำเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่เคยลืม และย่าเรามีลูกชาย3คนค่ะ พ่อเราคนโต ซึ่งตั้งแต่พ่อป่วยก็ไม่มีรายได้อะไรค่ะ กลับไปทำงานไม่ได้เพราะป่วยเกี่ยวกับสมอง ส่วนอาเราอีก2คนมีรายได้ค่อนแสน คนนึงส่งให้ย่าเรา5,000ทุกเดือน ส่วนอีกคนส่งย่าเราแค่1,500 อาจมีบางเดือนได้2,000 และทำแบบนี้มาตลอดจนผ่านมา10ปี ก็ยังส่งเท่าเดิม
ตอนนี้เราก็ยังให้ย่าเราทุกเดือนค่ะ 3,000 และค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจิปาถะอื่นๆ (เช่นค่าซ่อมแซม ค่าแก๊ส ค่าขยะส่วนกลาง ค่าเน็ตบ้าน ค่าอาหารหมา ค่าฌาปนกิจ ค่าตัดหญ้า ค่าน้ำมันรถมอไซ ที่เราไม่ได้ใช้ ย่าเราใช้เอาไว้ซื้อกับข้าว) เราก็จ่ายทั้งหมด ย่ามีเงื่อนไขว่า เงิน3,000ที่เราให้ ไม่เกี่ยวกับค่าอาหารของเรา เราต้องจัดการหาเลี้ยงตัวเอง อยากกินอะไรก็ซื้อมาตุนเองหรือถ้าฝากย่าซื้อก็ต้องจ่ายคืน ซึ่งเราก็ทำตามนั้นทุกครั้ง และพอเราตุนของเก็บไว้ในตู้เย็น ย่าก็เอาของเรามาทำกับข้าว โดยบอกว่า "กูเอามาทำให้พ่อกิน ถ้าไม่อย่างนั้นก็ต้องให้เงินกูเพิ่มเป็นค่ากับข้าวพ่อ" ซึ่งถ้าเรามีเงินเดือนหรือเงินเยอะๆ เราให้แน่นอนค่ะ แต่ตอนนี้เงินเดือนเรามันก็ไม่ได้มากอะไร เงินเก็บที่เคยมีก็เอามาเป็นค่ารักษาพ่อ ตอนที่เราย้ายไปอยู่กับแฟนเก่า เราก็ยังคงต้องจ่ายให้ย่าทุกเดือนเช่นเดิม แม้กระทั่งค่าจิปาถะที่บอกข้างต้น
เราเหนื่อยและน้อยใจมากขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มพูดคุยเรื่องนี้กับแฟนคนปัจจุบัน ก่อนหน้านี้เราไม่เคยบอกเขา เพราะกลัวเขาคิดว่าเราอกตัญญู แต่พอเราคุยกับเขาจริงๆ เขารู้สึกว่าครอบครัวเอาเปรียบเราเกินไป ทั้งๆที่เราเงินเดือนแค่นี้ แต่ต้องรับผิดชอบทุกอย่างจนบางครั้งก็ดูเกินกำลังที่เรารับไหว แล้วทำไมอาเราไม่ช่วยกันรับผิดชอบมากขึ้น บ้านที่เราอยู่ตอนนี้ก็ไม่ใช่ชื่อเรา ปู่ยกให้เป็นของอาคนเล็ก แต่เรากลับต้องมาจ่ายค่าซ่อมแซม ค่าตัดหญ้าและค่าอื่นๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนอาคนกลางรายได้ก็ดีกว่าเรามาก ค่อนแสน แต่กลับส่งให้ย่าเราแค่1,500 นานๆทีจะให้2,000 แฟนถามเราว่า เราเคยพูดเรื่องนี้กับย่ามั้ย เราเคยแล้วค่ะ แต่เรารู้สึกว่าย่าเราปกป้องอาเรามาก เราพูดอะไรไม่ได้เลย ย่าบอกว่า "พวกอาเขาไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ เขาโอนเงินให้ทุกเดือนก็บุญโขแล้ว ภาระพวกอาๆเขามีเยอะแยะ จะให้กูไปขอให้เขาเพิ่มเงินได้ยังไง"  เรามีเฟสบุ๊คอาทั้งสองคนค่ะ พวกเขามีชีวิตที่ดีมาก กินหรูอยู่สบาย กินอาหารแพงๆทุกอาทิตย์ รถยนต์หลักล้าน คนละ2คัน มอไซค์ฮาเล่ย์ บ้านหลักสิบล้านกลางๆ มีบ้านพักต่างอากาศหลังเล็กๆ ท่องเที่ยวต่างประเทศปีละ2ครั้ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกในบ้านครบครัน ตัดภาพมาที่บ้านที่เราอาศัยในตอนนี้ กระเบื้องโก่ง หลังคารั่ว รอยร้าว สายไฟเก่า ท่อประปารั่ว สารพัดปัญหา มีเพียงเราคนเดียวที่จัดการ จ่ายเองทั้งหมดโดยใช้เงินเก็บของตัวเอง พวกอาๆมีของทุกอย่างครบครัน บ้าน,รถ,ชีวิตที่สุขสบาย แต่เราแทบไม่เหลืออะไรแล้วค่ะ รถยนต์ที่เคยมีตอนนี้ก็ขายไปแล้ว ก่อนหน้าที่จะย้ายไปอยู่กับแฟนเก่า เพราะแฟนเก่ามีรถที่บ้านให้ใช้อยู่แล้ว2คันและไม่มีที่จอดสำหรับรถเรา ต้องไปเช่าพื้นที่จอด จะให้จอดไว้ที่บ้านเราเฉยๆ ก็ไม่มีใครขับเป็นเลยค่ะ เลยตัดสินใจขาย ส่วนเงินที่ขายรถยนต์ได้ เราก็แบ่งให้ย่าเราครึ่งนึง ให้ย่าเก็บไว้ยามที่เราย้ายไปอยู่กับแฟนเก่า แต่พอเรากลับมาอยู่บ้าน เงินส่วนนั้นย่าก็ใช้หมดไปแล้ว เราก็ไม่เข้าใจว่าย่าเอาเงินไปใช้ไหนหมด ทั้งๆที่เราก็ส่งเงินให้เงิน อาก็ส่งให้ ค่าใช้จ่ายในบ้านเราก็ยังจ่ายให้อีกทุกๆเดือน
มาถึงจุดนี้...เราเหนื่อยและน้อยใจในชีวิตตัวเองมากๆค่ะ มีหลายครั้งที่คิดอยากย้ายไปอยู่ที่ไหนสักที่ ที่ไม่ต้องมาแบกรับเรื่องนี้อยู่คนเดียว แต่ในใจก็ห่วงพ่อ เพราะไม่มีใครมาดูแลเขาจริงๆ ถ้าเป็นเพื่อนๆจะหาทางออกเรื่องนี้ยังไงคะ ? เราไม่เคยพูดกับอาตรงๆค่ะ และคิดว่าถ้าเราพูดไปเราต้องมีปัญหากับย่าอีกแน่นอน ย่าเราต้องออกโรงปกป้องอาแน่นอนค่ะ ทุกเดือนเวลาที่อาโอนเงินมาให้ย่าเรา ย่าจะโทรกลับไปให้พรอาอยู่เสมอ แต่พอเรายื่นเงินให้ย่าทุกเดือนๆ ย่ากลับถามเราว่า "เมื่อไหร่จะเพิ่มเงินให้สักที" 
หากเพื่อนๆอ่านถึงจุดนี้แล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าจะเสนอแนะอะไร ก็ไม่เป็นไรนะคะ อย่างน้อยๆเพื่อนๆก็ยังได้รับฟังความอึดอัดจากเรา ขอบคุณทุกคนจริงๆค่ะ 😔
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่