ดาราวรรษ...(เมื่อหัวใจรู้สึกดี)

กระทู้คำถาม
...
เมื่อแรก ฉันตั้งใจอย่างดิบดีว่าวันนี้จะทำผัดผักบุ้ง
ใส่เต้าเจี้ยว
กินกับข้าว อย่างเดียวง่ายๆ
แต่แล้วตัวขัดขวางรายใหญ่ของฉันก็โทรศัพท์ เข้ามาเพื่อจะบอกว่า

" อย่าเพิ่งรีบทำกับข้าวนะครับ
เดี๋ยวพี่ไปทำหมูดาดกระทะให้กิน"

จะใครซะอีกละคะ
ก็..อีตาพี่หม่อนนั่นไงล่ะ  ว่าแต่..อะไรคือหมูดาดกระทะกันละเนี่ย สงสัยจะเหมือนหมูกระทะกระมังนะ แล้วทำไมต้องเรียกให้มันวิจิตรพิศดารอย่างนั้น
' พิเรนทร์จริงเชียว'

หลังจากนั้นไม่กี่นาทีพี่ท่านก็หิ้วของพะรุงพะรังมากดออดเรียกฉัน

"โห..รีบแทบตายแน่ะ  กลัวไม่ทัน
หนูทำกับข้าวไปหรือยัง "

" ยังค่ะ..แค่เกือบๆ"

ฉันเอื้อมมือไป หวังจะช่วยรับถุงอะไรทั้งหลายแหล่นั่น แต่..

" ไม่ต้องจ้ะ พี่หิ้วเอง แค่นี้ไม่หนักหรอก "

เป็นอย่างนี้แหละค่ะ ถ้าต้องถืออะไรพี่หม่อนแทบจะไม่ยอมให้ฉันช่วยเลย ไม่รู้จะสุภาพบุรุษไปถึงไหน

" มาๆ มานั่งนี่เดี๋ยวพี่ล้างมือก่อน เสร็จแล้วจะได้หมักหมู แป๊บเดียวก็ได้กินแล้ว "

" หนูหมักให้ไหมคะ "

"ไม่เป็นไรจ้ะ หนูนั่งเถอะ แค่ใส่ซอสกับน้ำมันหอย
ขยำๆ แค่นี้เอง "

นั่นก็ไม่ต้องนี่ก็ไม่ต้อง ฉันเซ็งก็เลยนั่งมองเขาเดินทำนั่นนี่  อือ..เพลินดีเหมือนกันแฮะ
แล้วก็แทบสะดุ้ง
เมื่อจู่ๆเขาก็หันขวับมาสบตา

" คนอะไร มองเขาแล้วก็หน้าแดงเอง"

ก็..หนูร้อน "

" งั้นมานั่งทางนี้เถอะ พี่จะเปิดพัดลมให้ อ้อ..เอามะม่วงไปปอกให้พี่ด้วยดีกว่า จะได้ไม่มีเวลาแอบมองคนอื่น "

แมะ..ล้อได้ล้อดี
ก้อ..ใครใช้ให้น่ารักเล่า
ฉันเถียงอุบอิบในใจ  แค่มองนิดหน่อยทำเป็นหวง
โธ่...

     แล้วฉันก็ได้รู้ว่า หมูดาดกระทะ ก็คือการเอาหมูสามชั้นที่หมักไว้ลงไปทำเหมือนการย่าง แต่อุปกรณ์ที่ใช้ย่างคือกระทะ พลิกไปมาจนสุกเหลืองหอม จากนั้นก็นำไปหั่นบางๆ แล้วคลุกกับเครื่องอันประกอบไปด้วย  หอมคั่ว กระเทียมคั่วและพริกป่นซึ่งตำหยาบๆผสมกันจากนั้นก็ทำการคลุก แล้วจึงเติมข้าวคั่ว หัวหอมซอยและมะม่วงสับลงไปก่อนตบท้ายด้วยต้นหอมผักชี

" อ่ะ..ชิม เค็มรึยัง
เปรี้ยวรึยัง"
" หูวว..พี่หม่อน ทำไมมันอร่อยอย่างนี้เนี่ย "

" แน่นอนสิ..สูตรเด็ดของแม่พี่ จะไม่อร่อยได้ยังไง "

ฉันเกิดความรู้สึกอยากค้อนคนขี้โม้สักขวับ ระยะหลังมานี้ดูช่างยั่วช่างแหย่จน บางทีฉันก็ให้นึกอิจฉาว่า ทำไงจะอารมณ์ดีได้แบบนี้บ้าง

เพราะฉะนั้นเมื่อพ่อแม่ของฉันได้รู้จักเขา ฉันจึงไม่แปลกใจเลยที่เขาจะเป็นคนโปรดได้อย่างง่ายดาย
ขนาดพี่ปอนด์แวะมา แทนที่จะซื้อขนมมาฝากน้อง แต่กลับซื้อมาฝากพี่หม่อน แถมยังมาสั่งฉันด้วยว่า

" อยากกินก็..ไปขอนายหม่อนเอาละกัน "

ดูสิ..พี่อะไรแบบนี้ก็ไม่รู้

" มาๆ อย่าไปค้อนลมค้อนแล้งอยู่นั่น
พี่ตักข้าวให้แล้ว มากินเร็วเข้า "

พี่หม่อนกับพี่ปอนด์ต่างกันมากๆก็ตรงนี้แหละ ในขณะที่พี่ชายฉันชอบใช้ให้ฉันทำนั่นนี่ แต่พี่หม่อนกลับสั่งให้ฉันนั่ง เพื่อเขาจะได้ทำให้

" อร่อยไหม "

" อร่อยที่สุด "

" ดีครับ..อร่อยก็กินเยอะๆ พรุ่งนี้พี่ว่าง เดี๋ยวจะพาไปเที่ยว  ไปไหม "

" ไปค่ะ "

" หยุดคิดก่อนก็ได้นะ "

" ไม่คิดค่ะ..หนูอยากไป ว่าแต่..
ไปไหนหรือคะ "

" ตลาด100ปี
พี่จะไปหาไอเดีย
ต่อยอดงาน แล้วก็
พาหนูไปหาของ
โบราณกินกัน
แบบว่า..พี่อยากกินปลาแนมด้วย
ที่อื่นหาไม่ได้ ต้องไปที่นั่น หนูเคยกินไหม "

" ฮึ..หนูไม่ใช่คนโบราณ "

เท่านั้นเองเขาก็หันมาจับแก้มฉันดึงอย่างแรงจนเกือบเจ็บ

" เด็กนี่..ปากคอ..
เถอะ..วันหน้าจะไม่พาไปไหนหรอก เพราะพี่คนโบราณ ถ้าจะพาไปเที่ยวก็คงได้เที่ยวแต่ที่โบราณ"

" โอ๋ๆ..หนูล้อเล่น
หนูขอโทษ พาหนูไปเถอะ ที่ไหนหนูก็ชอบหมดแหละ "

' ถ้าคนพาไปคือพี่หม่อนน่ะนะ '
อันนี้ฉันละไว้ฐานที่เข้าใจของตัวเองคนเดียว  
ถึงจะไม่ใช่คนเรียบร้อยนัก แต่
คำพูดแบบนี้ ฉันก็ไม่เคยพูดหรอกนะ แม้ว่าเราจะสนิทกันมากๆก็ตาม....



***************

และแล้ว จากตลาด100ปี ช่วงสายมากๆ (11
โมงกว่าๆ ) พี่หม่อนก็พาฉันเที่ยวละไปเรื่อย
จากวัดนั้นไปวัดนี้
จนได้มาเติมมื้อเย็นที่สวนอาหาร
ริมน้ำแห่งหนึ่ง
ฉันรู้มาว่า ที่นี่มีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ด้วย แต่เรา
แค่แวะมากินอาหาร ก็เลยได้เห็นแค่โซนนอก
ซึ่งอยู่ริมน้ำ  อาจเพราะเป็นวันธรรมดาด้วยกระมัง บรรยากาศยามเย็นจึงค่อนข้างเงียบ  เราสั่งกับข้าวมาสามอย่าง โดยที่พี่หม่อนถามฉันตลอดว่ากินได้ไหม  แม้เขาอยากให้ลองของแปลกๆบ้าง แต่ก็คงคอนเซ็ปต์ ใส่ใจและดูแลแบบไม่ขาดตกบกพร่อง
ตอนนี้ฉันไม่กล้าหวังแล้วละว่า สักวันอาจได้เป็นแฟนเขา เพราะดูไปแล้ว  เขาคงเอ็นดูเห็นฉันเป็นน้องได้แค่นั้นแหละ บวกกับฉันอยู่ง่ายกินง่ายเขาก็เลยเมตตาพาไปไหนๆด้วยเอาไว้ไปจ้อเป็นนกแก้วนกขุนทองข้างๆเวลาขับรถ(ตัวกันหลับ)

แล้วฉันก็ได้รู้ว่า
ลาบปลาตะเพียน
ของร้านนี้อร่อยมาก พี่หม่อนบอกว่า ใครมาที่นี่คือต้องสั่ง  ก็แหม..
ขนาดฉันไม่เคยกินยังติดใจเลยนี่นา  

กว่าเราจะกินมื้อเย็นเสร็จก็ปาเข้าไป20.30น.
ฉันถึงกับหลุดอุทาน

" โอ้โห..ดึกขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย หนูก็มัวแต่อร่อยกับข้าว "

" ใครบอกว่าดึก..เวลานี้แหละกำลังดี "

" ดียังไงคะ "

" ก็..ของที่พี่อยากให้หนูเห็นไง..ถ้าไม่ใช่เวลานี้ เราก็คงไม่ได้เห็น "

" อะไรหรือคะ ต้องดูตอนมืดถึงจะเห็นเหรอ...
หิ่งห้อยใช่มั้ย  พี่พาหนูมาดูหิ่งห้อยใช่มั้ย โอย..ตื่นเต้น ไหนคะอยู่ตรงไหน พาหนูไปเร็ว "

พี่หม่อนยกมือขึ้นแตะริมฝีปาก
ก่อนจะเดินเข้าไปหาเด็กเสริฟคนหนึ่ง สักพักก็เดินกลับมาจูงมือฉัน

" พี่ถามน้องมาแล้ว ที่นี่ไม่มียุง แต่อาจจะหนาวนิดหน่อยเพราะลมแรง แต่พี่เตรียมผ้ามาให้แล้ว พอแก้ขัดได้อยู่หรอก "

ฉันเพิ่งเห็นเดี๋ยวนี้เองว่า พี่หม่อนมีกระเป๋าเป้หิ้วติดมือมาด้วย
สงสัยตอนเข้าไปในร้าน ฉันคงมัวแต่ตื่นเต้นแน่เลย

" น้องบอกว่าศาลาริมสุด น่าจะเห็นชัดเพราะแสงจากทางนี้จะไม่รบกวน แล้วที่นี่ก็ค่อนข้างปลอดภัย เพราะเขามีร.ป.ภ.ดูแลให้ด้วย มาเถอะ "

ฉันเดินตามแรงจูงนั้นไปด้วยใจที่เต้นโครมคราม
ก็..ในชีวิตฉันได้เห็นหิ่งห้อยแค่ไม่กี่ครั้ง แถมแต่ละครั้ง ก็เห็นแค่ตัว สองตัว
'หูย..หิ่งห้อยที่รักฉันจะได้เห็นเธอแบบเป็นฝูงๆแล้ว
มันจะสวยขนาดไหนน้อ'

แต่แล้ว สิ่งที่พุ่งวูบลงมาจากฟ้านั่น
กลับมีอานุภาพในการทำให้ฉันถึงกับอ้าปากค้าง เท้าชงักอยู่กับที่
ทั้งๆกำลังจะถึงศาลาอยู่แล้ว

"  พี่หม่อน ดะ ดาวตกใช่ไหมคะ"

" ฮื่อ.."

เสียงตอบรับในลำคอแบบปกติมากนั่น ทำให้ฉันอดเหลียวไปมองไม่ได้

" พี่หม่อนไม่ตื่นเต้นหรือคะ ดาวตกเชียวนะ
หนูเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกด้วย ดูสิ ตั้งตัวไม่ทันเลยเสียดายจัง ยังไม่ทันอธิษฐานเลย "

"เดี๋ยวก็มีมาอีก มานั่งรอตรงนี้เร็ว "

" จริงหรือคะ จะได้เห็นอีกตอนไหน "

" ตอนนี้แหละ โน่นไง ใหญ่กว่าเมื่อกี้อีก "

" ว้าย..หูวว.."

ฉันกรีดเสียงลั่นแล้วคงเผลอทำอะไรตลกๆเป็นแน่
พี่หม่อนถึงหัวเราะเสียงดังขนาดนั้น

" อย่ากระโดด เดี๋ยวขาเคล็ด
มานั่งลงดีๆ "

" หนูนั่งไม่ได้
หนูตื่นเต้น โอย..มาอีกดวงนึงแล้ว  วันนี้วันอะไรคะทำไมดาวตกเยอะอย่างนี้ "

" ก็..วันนี้มีปรากฏการณ์ฝนดาวไง "

เพราะอย่างนี้สินะ
เขาถึงพาฉันไปเที่ยว ต่อด้วยกินข้าวเย็น  แล้วแถมด้วยการหา
จุดมืดๆ ดูฝนดาวตก

" หนูจะไม่ลืมคืนนี้เลย  ขอบคุณนะคะ "

" อืม..ยินดีครับ "

สิ้นเสียงนั้น ดวงไฟขนาดใหญ่ก็พุ่งวาบลงมาอีก
จริงๆฉันก็ไม่เชื่อหรอกนะว่าการขออะไรเมื่อเห็นดาวตกแล้วจะเป็นจริง แต่พอจู่ๆได้เห็นดาวตกดวงใหญ่ๆ ที่พุ่งวูบลงมาแต่ละครั้ง แรงเสียดสีก็ทำให้เกิดรัศมีการเผาไหม้เป็นทางยาว
ฉันก็รีบประนมมือขึ้น กะจะอธิษฐานขอให้ปลอดภัย ไร้โรคา มีแต่มหามิตร คนคิดร้ายจงแพ้ภัย และขอโชคลาภก้อนใหญ่ๆเท่าภูเขา
แต่.....

" เป็นแฟนกันมั้ย "

เสียงพึมพำจากคนข้างๆ เล่นเอาฉันตัวร้อนวาบ
(หนักกว่าหน้าร้อนประมาณ18เท่าครึ่ง)
แม้จะได้ยินถนัด
แต่ไม่รู้เพราะอะไรที่ทำให้ฉันทำได้แค่นิ่ง

" ว่าไงครับ "

" ไม่มีใครเค้าขอเป็นแฟนกันโดยไม่ได้รักหรอกค่ะ"

" ก็ถ้าไม่รัก พี่จะขอหรือ "

' เฮ้ย!..'
แม้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันแต่ฉันก็ยกมือตีแขนตัวเองดังเพี๊ยะ  

" ตีตัวเองทำไม
มันเจ็บ แบบนี้ดีกว่าเยอะ "

แล้วเขาก็ก้มลงมาจูบผมฉันดังฟอด

อย่าถามฉันนะ ว่าฉันตอบพี่หม่อนว่ายังไง  ฉันจะไม่เล่าหรอกว่า ฉันตอบตกลงว่องไวพอๆกับแทมเพอร์ตัน ตอนตกลงกับวิลเบอร์(แมงมุมเพื่อนรัก)เลยแหละ ฮ่า..
ก็ชอบเค้าขนาดนี้แล้ว ดาราวรรษก็เป็นใจขนาดนี้แล้ว
หลับหูหลับตาตกลงไปโลดเถอะ
อย่างน้อย ที่ผ่านมาและที่กำลังจะผ่านไป พี่ชายคนนี้ก็ทำแต่เรื่องดีๆให้ฉันซ้ำแล้วซ้ำอีก จนนับไม่ถ้วน

ฉันตัดสินใจไม่ผิดหรอก( มั้ง) ว่ามั้ย

++++++++++++

มาคุยกันครับ

พอดีเมื่อวานผมเข้าอากู๋ค้นหาโน่นนี่ เลยไปเจอ ปรากฏการณ์ฝนดาวตกครั้งต่อไปของปีนี้ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็น
กลุ่มดาวคนคู่ และผมก็เคยนอนดูจนเช้ามาแล้วในปีหนึ่ง  และบอกเลยว่าคุ้มค่า ควรค่าแก่การรอชมมากครับ พุ่งวูบ
เอ้าวูบเอาจนดูแทบไม่ทันโน่นเลย...
ตอนจบของ
'เมื่อหัวใจรู้สึกดี '
ก็เลยบังเกิดด้วยประการฉะนี้

ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ให้
ขอบคุณทุกๆคอมเมนต์ที่มีมาถึงผม

ขอบพระคุณจริงๆครับ❤️
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่